ในขบวนการใช้ไอทีเพื่อการเรียนรู้ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง
คือ การสร้างเนื้อหาทางวิชาการ เปรียบเสมือนกับ
การที่ประเทศลงทุนสร้างทางด่วน และโครงสร้างพื้นฐานมากมาย หากไม่มีรถวิ่งก็หามีประโยชน์ใดไม่ หรือหากสร้างทางด่วนมา
ให้จักรยานหรือรถตุ๊กตุ๊ก วิ่ง ก็หามีความคุ้มค่าไม่
การสร้างเนื้อหาความรู้ที่มีประโยชน์นั้นจะเป็น
" จุดแยก " ที่สำคัญในการแบ่งสังคมที่ " รวย " กับสังคมที่ " จน " ข้อมูลประเทศที่มีแหล่งผลิตมัลติมีเดียใหญ่
อย่างสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป ย่อมมีความได้เปรียบ
ทั้งในแง่การสร้าง " คลังสมอง " ให้กับเยาวชนในชาติของตน และยังสามารถส่งออกไปขายได้ทั่วโลกอีกด้วย
ไม่ว่าเราจะมีคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมากสักเท่าไร,
ไม่ว่าเราจะมีการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ให้กับภูมิภาคอย่างกว้างขวางเพียงไร,
หรือไม่ว่าเราจะมีหลักสูตรคอมพิวเตอร์เข้มเพียงใด
หากเราไม่มีซอฟต์แวร์และเนื้อหา
แน่นอนว่า...
โครงการไอทีเพื่อการศึกษาของชาติ
คงจะประสบความสำเร็จได้ยาก
ในอดีตที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นที่จะผลักดัน
ให้ครูในโรงเรียนผลิตเนื้อหาที่เรามักเรียกกันว่า
" ซีเอไอ " (Computer-Aided-Instruction : CAI) ขึ้นมาใช้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีตรงที่โรงเรียนผลิตกันเองได้ทั่วประเทศ
เราอาจจะได้ของดีๆ ออกมามากมาย
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผ่านมาการสอนให้ครูทำ CAI นั้น
ไม่ประสบผลสำเร็จด้วยเหตุผล 2-3 ประการ
ประการแรก --- ภาระของครูค่อนข้างหนักอยู่แล้ว
คิดดูว่าครูแต่ละคนมีชั่วโมง และวิชาการสอนอยู่เท่าใด
เวลาที่จะมาให้ความสนใจกับสิ่งใหม่ๆ นั้น คงเหลือไม่มากนัก
ครูที่ทำ CAI ได้ดี จึงเป็นครูที่พอมีเวลาว่าง เช่น ครูพละ เป็นต้น
ประการที่สอง --- CAI เป็นเรื่องยากสำหรับครู
ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่รู้แม้วิธีใช้คอมพิวเตอร์ อยู่ดีๆ จับมาเรียน
โปรแกรมการทำ CAI จำพวกเครื่องมือแต่งตำราอิเล็กทรอนิกส์
เช่น Authoring Tools ทั้งหลาย มิใช่สิ่งที่คาดหวังอะไรได้มากนัก
ประการที่สาม --- รัฐขาดโครงการต่อเนื่องที่ชัดเจน
ในการพัฒนาไอทีระดับโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
โครงการต่อเนื่องในการ "ฝึกอบรม" ครูทั่วประเทศ เพราะเมื่อการพัฒนาพ่อไก่แม่ไก่เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น เราจะไปคาดหวังอะไรนักหนาจากคุณครูได้
ผมเองคิดว่าประเทศไทยมีคุณสมบัติอะไรหลายอย่าง
ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นจุดอ่อนและความท้าทายในตัวเดียวกัน
และสังคมของเราก็สามารถมี " ต้นแบบ " เฉพาะตัวที่หวังผลได้
โดยเฉพาะในกรณีการวางแผน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา อันจะมีความสำคัญต่ออนาคตของเยาวชนไทย
แต่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ตัวอย่างต่างประเทศเป็นตัวกระตุ้นตามเคย
เพราะผู้ใหญ่ในประเทศไทย บางส่วนจะชอบฟัง
และให้ความเชื่อถือมากกว่าภูมิปัญญาท้องถิ่น
ในกรณีนี้ อัล กอร์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ
ก็ได้ประกาศทุ่มงบประมาณฝึกอบรมครู
ให้รู้จักใช้อินเทอร์เน็ตกันทุกคน
ผมคิดว่ามีแนวทางที่จะพัฒนาเรื่องเนื้อหา
และซอฟต์แวร์บางประการ ดังนี้
- ผู้บริหารการศึกษาทั้งในระดับประเทศไปจนถึงครูใหญ่
ต้องเห็นความสำคัญ และช่วยผลักดัน
- การผลักดันให้ครูสร้าง CAI ไม่มีอะไรเสียหาย
แต่ไม่ควรเป็นกลยุทธ์สุดยอดอีกต่อไป หากจะคงนโยบายดังกล่าว
ก็ควร "เลือกเน้น" เช่น มีแผนเฉพาะทาง, มีการแข่งขันประจำปี,
มีการสร้างศูนย์สนับสนุน CAI และเสริมด้วยการผลิตผลงานชิ้นยอด
จากส่วนกลางออกไปช่วยด้วย
- ควรมีมาตรการจัดหา CAI ที่มีอยู่แล้วทั้งของในและของนอก หากเป็นของต่างประเทศควรลงทุนทำการดัดแปลง
(Localization & Customization) ให้เหมาะสมทั้งในเชิงเนื้อหาและภาษา
- ควรสร้างต้นแบบของการประยุกต์ใช้ CAI เพื่อการเรียนการสอน จัดทำหลักสูตรที่มีส่วนประกอบที่ใช้ไอทีและ CAI ที่มี "แผนการสอน"
และการประเมินผลที่ชัดเจน
- ส่งเสริมการจัดทำเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต
(Web-baseacontent) ให้มีมวลวิกฤติมากกว่านี้
ยังมีอีกหลายต่อหลายมาตรการ ที่ผู้บริหารการศึกษาของชาติ
ควรนำไปคิดไปทำให้เป็นประโยชน์
|