|
ลำไส้ใหญ่เป็นอวัยวะที่เปรียบเสมือนกระโถนท้องพระโรง
คือ รองรับกากอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการเพื่อรอการกำจัดออก
ในรูปของอุจจาระ มีลักษณะทางกายวิภาคเป็นท่อกลวง
ที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อยาวประมาณ 5 ฟุต เริ่มจากท้องน้อยด้านขาว
ไปตามขอบของช่องท้องขึ้นไปใต้ตับ แล้วพาดผ่านใต้ลิ้นปี่ไปสู่ชายโครงซ้าย
เพื่อเลี้ยวลงตามขอบของช่องท้องด้านซ้ายลงไปทางช่องเชิงกราน
แล้วจึงออกทางช่องทวารหนัก
เมื่อลำไส้เล็กได้ทำการดูดซึมสารอาหารจากอาหารที่เรารับประทานลงไป
ในแต่ละมื้อแล้ว ส่วนที่ยังเป็นกากอาหารเหลวและที่เหลืออยู่จะผ่านลำไส้เล็ก
เข้าสู่ลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ลำไส้ใหญ่จะทำหน้าที่ดูดซึมน้ำและเกลือแร่
ที่ยังคงเหลืออยู่ในกากอาหารนั้น เพื่อทำให้กากอาหารแห้งลงจนเป็นอุจจาระ
ลำไส้ใหญ่แม้จะถือว่าเป็นส่วนปลายของทางเดินอาหาร
แต่จริงๆ แล้วจะเห็นว่ามันแทบไม่มีหน้าที่ในการย่อยอาหารเลย กล้ามเนื้อที่อยู่บนผนังลำไส้ใหญ่จะค่อย ๆ หดตัวเป็นคลื่นเป็นจังหวะ
เพื่อบีบไล่อุจจาระไปตามโพรงลำไส้ใหญ่ ในขณะที่ผนังลำไส้
ทำหน้าที่ดูดซับน้ำและเกลือแร่ไปตลอดทาง
1. เนื้องอก (Tumors)
การเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ
เรียกว่า เนื้องอกหรือทูเม่อ (Tumor) ซึ่งที่ลำไส้ใหญ่มักจะเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง หากปล่อยทิ้งไว้
จะเจริญเติบโตและลุกลามไปผนังส่วนต่างๆ ของร่างกาย
มะเร็งมักจะค่อยๆ เจริญเติบโต ใช้เวลาหลายปีกว่าจะปรากฏอาการ การรักษาจะมีโอกาสหายขาดได้มากถ้าตรวจวินิจฉัยได้ตั้งแต่เริ่มเป็น
หรือก่อนมีอาการ
2. ติ่งถุงเนื้อ (Diverticula)
ถ้าหากมีแรงดันภายในโพรงลำไส้สูงขึ้นเนื่องจากท้องผูก
หรือมีลมในลำไส้ใหญ่ค้างอยู่มาก จะทำให้เกิดแรงดัน
ผนังลำไส้ใหญ่ออกไปจนเกิดเป็นติ่งเป็นถุงเนื้อโผ่ลออกไป
ทางผิวลำไส้ใหญ่ เรียกว่า "ไดเวอร์ติคูลา" (Diverticula)
ซึ่งเวลามีหลายๆ อันก็รวมเรียกว่าโรค "ไดเวอร์ติคูโลสิส" (Diverticulosis)
ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อมีอุจจาระไปค้างอยู่ในโพรงติ่งถุงเนื้อเหล่านี้
จนเกิดการติดเชื้อและอักเสบรุนแรงเรียกว่า "ไดเวอร์ติคูไลติส" (Diverticulitis) ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดท้องน้อยโดยมากด้านซ้าย มีไข้และท้องผูก
3. เนื้องอกโพลิป (Polyps)
เป็นเนื้องอกที่ผนังด้านในของลำไส้ใหญ่มีขนาดและรูปร่างต่างๆ กัน
ตั้งแต่เม็ดถั่วไปจนเท่าเห็ด ถ้ายังมีขนาดเล็กๆ โดยมากจะไม่เป็นเนื้อร้าย
แต่ถ้าขนาดใหญ่ๆ แล้วโอกาสกลายเป็นมะเร็งมีมาก อาการที่โพลิป
อาจก่อขึ้นได้มีตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงเลือดออก, ปวดมวนท้องหรือท้องผูก โดยมากถ้ามีอาการรุนแรงหรือถ้าโพลิปมีขนาดใหญ่หมอ
มักจะแนะนำให้ตัดออกเสีย
|