มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam
[ คัดลอกจากนิตยสารแม่และเด็ก ปีที่ 22 ฉบับที่ 328 มิถุนายน 2542]
ไร้มด (ลูก)...ไร้อารมณ์
น.พ.วีระ สุรเศรณีวงศ์
ยังคงเป็นคำถามที่ต้องคอยตอบอยู่เสมอๆ ว่า ทำไมปัจจุบัน
การสาธารณสุขยิ่งเจริญ คุณสุภาพสตรียิ่งผจญต่อโรคพยาธิมากขึ้น
ต้องไปโรงพยาบาลมากขึ้น ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงไปดูได้
คงจะเป็นทุกโรงพยาบาล ยิ่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ๆ จะเห็นชัดเจน
โดยเฉพาะห้องตรวจผู้ป่วยนอก สูติ-นรี คนไข้มาใช้บริการคึกคักมาก
ยิ่งในทศวรรษนี้จะพบว่า ผู้มาขอใช้บริการในแผนกนี้อายุสูงมากขึ้นๆ
ปัจจัยหนึ่งก็คือ มีการให้บริการกับผู้สูงวัยมากขึ้น คือ คลินิกวัยทอง ซึ่งปริมาณผู้มาใช้บริการเพิ่มตลอดและเป็นนโยบายของรัฐ
ที่จะให้การดูแลผู้สูงวัยอย่างทั่วถึง จึงให้การสนับสนุนอย่างดี โดยมองเห็นถึงในอนาคตที่ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นๆ
ใน 10 ปีข้างหน้า น่าจะมีผู้สูงอายุใกล้ตัวเลข 10 ล้านได้ โรงพยาบาลนั้น
ได้ให้บริการไม่เฉพาะในเชิงการรักษาเท่านั้น ให้ในเชิงรุกด้วยคือ
การให้บริการในเชิงป้องกัน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นยุทธศาสตร์ทางการสาธารณสุข
เพราะจะใช้ทรัพยากรในทุกด้านน้อยกว่า ต้นทุนถูกกว่าและได้ผลวงกว้างกว่า
ด้วยยุทธศาสตร์ทางสาธารณสุขดังกล่าว ทำให้เกิดผลตามมาคือ การตรวจค้นป้องกันโรคและการตรวจค้นวินิจฉัยโรคได้แต่เนิ่นๆ ทำให้ตรวจพบโรคที่ซ่อนเร้นหรือความผิดปกติที่ซ่อนเร้นก่อนก่อโรคมากขึ้น ก็เหมือนกับการทำความสะอาด แต่ก็จะมีขยะถูกกำจัดออกมากขึ้น
แต่บ้านสะอาดน่าอยู่ บ้านมีคุณภาพแวดล้อมดีขึ้น เช่นกันกับการดูแลสุขภาพ เชิงป้องกันก็จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยืนยาว
ด้วยยุทธศาสตร์นี้ปัจจุบันสตรีไทยเลยมีช่วงชีวิตที่ยาวถึง 70-72 ปี
มากกว่าสุภาพบุรุษ การที่มีการตรวจค้นหาโรคหรือความผิดปกติ
ให้บริการมากขึ้น ส่งผลให้ความผิดปกติในสุภาพสตรีโดยเฉพาะอวัยวะสืบพันธุ์สตรี
ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต่างจากสุภาพบุรุษ
ซึ่งร่างกายไม่ค่อยแปรเปลี่ยน ก็อาจจะเป็นที่มาของธรรมชาติอารมณ์
ที่ผู้หญิงมักจะปรวนแปรมากกว่าคุณผู้ชาย เพราะคุณเธออยู่ภายใต้
อิทธิพลของรอบเดือน
คือ ร่างกายของสตรีจะเปลี่ยนแปรทุก 4 สัปดาห์ก็ว่าได้
โดยเฉพาะอวัยวะสืบพันธุ์ซึ่งรวมถึงเต้านม มดลูก รังไข่ฯ
ซึ่งถูกครอบงำด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ตัว
ซึ่งฮอร์โมนสองตัวนี้
จะทำหน้าที่สมดุลซึ่งกันและกันในการกระตุ้นอวัยวะสืบพันธุ์เป็นระยะๆ
(รอบหนึ่งก็ประมาณ 4 สัปดาห์) เป็นธรรมชาติของโลกที่อะไรก็ตาม
ที่มีการเปลี่ยนแปลงมีการเคลื่อนไหว (Dynamic) มากก็ย่อมจะเกิดความผิดพลาด เกิดความผิดปกติได้มาก เพราะฉะนั้นมนุษย์เราก็ไม่พ้นกฎเกณฑ์ดังกล่าว คุณสุภาพสตรีจึงมีโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติในอวัยวะสืบพันธุ์มาก
จากสถิติทางการแพทย์ก็เป็นเช่นนั้น ทางประเทศตะวันตก ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ที่พบได้บ่อย คือ เต้านม ส่งผลให้มะเร็งเต้านม
กลายเป็นมัจจุราชอันดับต้นของคุณสุภาพสตรีตะวันตก ประมาณว่า
คุณผู้หญิง 10 คนจะมี 1 คนที่มีปัญหาที่เต้านมจนอาจจะถึงขั้นเป็นโรคร้าย
ในประเทศทางตะวันออกอุบัติการณ์แตกต่างกันออกไป มะเร็งเต้านม
ยังไม่ใช่โรคอันดับต้นๆ ในประเทศไทยเรากลับเป็นมะเร็งปากมดลูก
แต่ถึงจะมากก็ยังเป็นในอัตรา 1 คนต่อประชากรเป็นแสนที่เป็นความผิดปกติ
และพบบ่อยมากคือ เนื้องอกของตัวเนื้อมดลูก หมายถึงกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเนื้องอกไม่ร้าย สภาวะความผิดปกตินี้พบได้มาก
พูดได้ว่าในคุณผู้หญิงที่เกิดมา 3 คนจะมี 1 คนเป็นหรือมีความผิดปกตินี้
แต่อาจจะยังไม่แสดงอาการหรือแสดงผลแทรกซ้อนจนก่อปัญหาทางสุขภาพ
ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นจากตัวกล้ามเนื้อหรือผนังของมดลูก
ซึ่งมีการเรียงตัวกัน 3 ชั้นสามารถจะขยายตัวยืดตัวได้หลายร้อยเท่า
โดยดูได้จากปกติในสุภาพสตรีจะมีขนาดเท่ากับผลกระจับขนาดใหญ่ หรือเท่าชมพู่ขนาดปานกลางซ่อนอยู่ในช่องเชิงกรานส่วนบนเหนือช่องคลอด
วัดได้ประมาณ 3x4x5 เซนติเมตรโดยเฉลี่ย แต่สามารถจะขยายยึดตัวออกได้
ขนาดให้ทารกน้ำหนัก 3-5 กิโลกรัม ขนาดทารกยาว 50 ซม. หรือเท่าลูกโป่งขนาดใหญ่ที่มีถือเดินขายริมถนน จุน้ำได้ประมาณ 5 ลิตร ซึ่งถือว่ายืดหยุ่นได้มากอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศเช่นกัน ต่อมาเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นอาจจะเกิดที่ชั้นใดชั้นหนึ่งของสามชั้นก็ได้
ก็จะค่อยๆ ขยายใหญ่แต่ไม่รวดเร็วมักจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
โดยจะไม่ก่อให้เกิดอาการ
มีตัวเลขว่าเกือบครึ่งของสตรีที่มาตรวจที่ห้องตรวจจะมีการตรวจพบว่า
มดลูกมีขนาดใหญ่ และมักจะมีก้อนเนื้องอกซ่อนเร้นอยู่
ยิ่งปัจจุบันมีวิวัฒนาการทางเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะที่รู้จักกันดีว่า
"เครื่องซาวนด์" หรือเครื่องตรวจคลื่นความถี่สูง อัลตราซาวนด์ที่ราคาไม่แพง
การตรวจง่าย ไม่เจ็บปวด และมีให้บริการตามสถานบริการทางการแพทย์
แม้คลินิกเล็กๆ ก็มีได้
ทำให้มีการทำซาวนด์กันมาก จนบางคนปวดท้องก็เดินไปขอทำซาวนด์
ซึ่งไม่ถูกต้อง เครื่องมือเหล่านี้มีข้อบ่งชี้การใช้ที่จำเพาะอยู่ ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ
ที่จะช่วยให้แพทย์บอกโรคได้ ใช้ในการช่วยยืนยันการวินิจฉัยของแพทย์
ไม่สามารถที่จะทดแทนการซักประวัติการตรวจร่างกายของแพทย์ได้ และเครื่องมือดังกล่าวก็มีขัดจำกัดการใช้เช่นกัน แต่ในมือของผู้รู้นั้น
เครื่องมือดังกล่าวมีประโยชน์มากมาย จนบางครั้งเกินความจำเป็น
เคยมีคนไข้ผู้หญิงวัยทำงานอายุราว 20 ปีเศษช่วงปลาย
ไปเป็นเพื่อนให้กับเพื่อนสาวที่ตั้งครรภ์ ไปฝากครรภ์และแพทย์
ได้ทำอัลตราซาวนด์เพื่อตรวจดูสุขภาพทารกตามปกติของการฝากครรภ์ คุณเธอเผอิญขอรับการตรวจบ้างทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรบ่งชี้ เผอิญไปตรวจพบ
ก้อนที่ข้างมดลูกขนาด 4 เซนติเมตร เข้าใจว่าน่าจะเป็นของรังไข่ ข้อมูลดังกล่าวก็ได้ถูกนำไปพูดคุยกันในหมู่เพื่อนฝูง
จนเกิดการสื่อความหมายเข้าใจไปว่าก้อนนี้อาจจะเป็นอันตราย
เป็นเนื้องอกร้ายดังคนรู้จัก ซึ่งเพื่อนฝูงบ้าง ญาติบ้างบอกเล่า
ทำเอาเธอวิตกกังวลอย่างมาก เธอได้ช็อปปิ้งตามคลินิกแพทย์
จนไม่เป็นอันทำงาน เสียเวลาเสียเงินเสียทองที่สำคัญคือ
เสียความมั่นใจในตัวเอง จนบุคลิกภาพเธอเริ่มเปลี่ยน เกือบจะเสียแฟนหนุ่มซึ่งหมั้นหมายที่จะแต่งงานกัน
จนแฟนหนุ่มต้องนำมาปรึกษา
จากการตรวจทางการแพทย์อย่างละเอียด และได้ทำการติดตาม
โดยทำความเข้าใจกับเธออย่างสมบูรณ์ เพียงการติดตามในรอบเดือน
ต่อมาอีก 2 ครั้ง ก้อนนั้นก็หายไป ก็สรุปได้ว่าก้อนที่เธอกังวล
จนแทบเสียอะไรไปหลายๆ อย่างนั้น เป็นถุงน้ำรังไข่
ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงของรังไข่ตอบสนองต่อฮอร์โมน โชคดีเธอไม่ถูกผ่าตัด
เอาก้อนรังไข่นั้นออก ซึ่งจะทำให้รบกวนต่อการมีบุตรได้
ก็ด้วยเจ้าเครื่องอัลตราซาวนด์ดังกล่าวนี้เช่นกัน
ที่นำมาซึ่งการตรวจค้นหาความผิดปกติแต่เนิ่นๆ เพราะเครื่องดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติดีมากในการตรวจหาก้อนทูมที่ผิดปกติ เมื่อคนไข้มาตรวจภายในทางสูติ-นรีเวช เมื่อพบว่ามีความผิดปกติ
ในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ คนไข้มักจะได้รับการส่งตรวจอัลตราซาวนด์
หรือเครื่องตรวจคลื่นความถี่สูง ทำให้พบก้อนเนื้องอกที่ซ่อนเร้นอยู่ได้ สถิติของเนื้องอกมดลูกจึงสูงขึ้นจากปัจจัยนี้
ไม่เท่านั้นก้อนผิดปกติที่ปากมดลูกหรือตำแหน่งของรังไข่
ก็มีการตรวจพบได้แต่เนิ่นๆ นับเป็นข้อดีที่ทำให้โรคเนื้องอกรังไข่
ตรวจพบได้เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งก็ดี เนื้องอกรังไข่ไม่ร้ายก็ดี
ได้รับการบำบัดรักษาแต่เนิ่นๆ และนับวันผ่านไปเครื่องมือดังกล่าวก็พัฒนามากขึ้นๆ จนได้ภาพเหมือนจริงมากขึ้นๆ ง่ายต่อการปฏิบัติตรวจบริการ และราคาก็ถูกลง ทำให้มีการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดังกล่าวอย่างกว้างขวาง
จนแทบจะเรียกว่าเป็นส่วนประกอบอันหนึ่งของการตรวจเช็กร่างกายประจำ
โดยเฉพาะในคุณสุภาพสตรี นับเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการ
ที่มีการใช้เครื่องมือนี้มากที่สุด จึงนำมาซึ่งกลุ่มอาการไร้มด (ลูก)
ซึ่งกำลังมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันประเทศไทย
มีสตรีวัยเจริญพันธุ์ขึ้นไปจนถึงวัยสูงอายุไม่น้อยกว่า 18 ล้านคน
เป็นวัยสูงอายุ เสีย 8 ล้านคน ซึ่งในวัยนี้ฮอร์โมนเพศลดอิทธิพลลง
จนแทบไม่มี ทำให้เนื้องอกมดลูกเล็กน้อย ยังเหลือประชากรสตรี 10 ล้านคน ที่หนึ่งในสามจะมีเนื้องอกมดลูกอยู่นับเป็นจำนวนมาก
และในจำนวนดังกล่าวนั้น แม้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ได้มาตรวจอัลตราซาวนด์
หรือตรวจภายในอย่างเป็นระบบแล้วย่อมจะให้การวินิจฉัยได้ แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อพบเนื้องอกแล้วจำเป็นต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเสมอไป
หาไม่ถ้าก้อนนั้นไม่โตเกินกว่าผลส้ม (เช้ง) หรือไม่ก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนข้างเดียว
เช่น ขัดขวางการหยุดของเลือดระดู ไปกดท่อไตหรือไปมีผลต่อวัยวะข้างเคียง ก็ไม่ต้องบำบัดก้อนอาจจะอยู่เพียงนั้นหรือลดขนาดลง เมื่อฮอร์โมนเพศหมดอิทธิพลหรือหมดการสร้างไปแล้ว
แต่ปัจจุบันปัจจัยหนึ่งซึ่งมีผลต่อการบำบัดรักษาคือ ความวิตกกังวล
ต่อความผิดปกติจนมีผลกระทบต่อสุขภาพชีวิต ก็อาจจะเป็นตัวบำบัดแก้ไข
สภาวะผิดปกตินี้ และพบว่าปัจจัยดังกล่าวนี้มีผลมากทำให้มีสตรี
ที่เป็นสมาชิกสมาคมไร้มด (ลูก) และรวมทั้งรังไข่เพิ่มมากขึ้น ผลตามมาก็คือ
การที่ไร้มดลูกและไร้รังไข่ด้วยแล้ว ก็เท่ากับคุณผู้หญิงนั้นได้เข้าสู่ภาวะวัยทอง
คือ เกษียณฮอร์โมนในวัยก่อนวัยอันควร ซึ่งถ้าไม่บำบัดดูแลให้ฮอร์โมนทดแทน ก็จะทำให้เธอต้องผจญกับผลที่ขาดฮอร์โมนคือ ความเสื่อมโทรมของผิวพรรณ
คือ จะแก่ก่อนวัย ซึ่งมันเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคุณผู้หญิงมาก
ไม่เท่านั้นเธอจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน
หรือกระดูกบาง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายของคุณเธอจะเริ่มคุ้มงอ เสียบุคลิกภาพ
และสภาวะจิตใจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางซึมเศร้า เข้าสังคมไม่ได้ดีนัก จะส่งผลให้คุณภาพชีวิตเลวลงและจะมีการเจ็บป่วยตามมาให้เป็นภาระ
แก่ครอบครัวและสังคมต่อไป
มีคำถามที่พบเสมอจากกลุ่มสตรีดังกล่าว ซึ่งแสดงว่าสตรีไทยเรา
ใส่ใจมีความรู้ในเรื่องสุขภาพมากขึ้น คำถามที่มาอันดับต้นๆ
กลับไม่ใช่เรื่องฮอร์โมนดังที่เข้าใจกัน กลับเป็นคำถามีที่ในส่วนลึก
น่าจะเกี่ยวพันกับเรื่องเพศศาสตร์ แทบจะทุกคนมีความสงสัยว่า
เมื่อหมอตัดมดลูกแล้วอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณเธอจะเปลี่ยนแปลงไปในสภาพใด เมื่อมดลูกไม่มีเสียแล้วก็แสดงถึงการสูญเสียหน้าที่ทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะต้องถูกกระทบกระเทือนไปในทางลบเช่นนั้นหรือ แล้วช่องเชิงกรานเธอจะมีลักษณะใดเมื่อมดลูกถูกยกเครื่องออกไปแล้ว
จะไปโทษคุณผู้หญิงเหล่านี้คงไม่ได้ ต้องบอกว่าเป็นความล้มเหลว
ในการให้การศึกษาทางเพศศาสตร์ (ไม่ใช่เพศศึกษา) คือ การให้ความรู้กับประชาชน
ในเรื่องของธรรมชาติ สรีระและกายภาพของร่างกาย มนุษย์ในรูปแบบที่ถูกต้อง
ตั้งแต่ชั้นมูลขึ้นมา
มดลูกและรังไข่นั้นไม่ใช่อวัยวะหลักสำคัญในการปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ ทั้งสองส่วนนั้นทำหน้าที่เตรียมการ (โดยเฉพาะรังไข่) และหน้าที่สนับสนุน (มดลูก) ไม่ได้ทำหน้าที่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานในขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็เป็นอวัยวะที่สำคัญมากในการดำรงเผ่าพันธุ์ ธรรมชาติจึงสร้างไว้
ในเกราะกำบังอย่างดี คือ ในช่องเชิงกราน
ซึ่งมีกระดูกแข็งแรงของเชิงกรานล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
โดยมีเอ็นที่แข็งแรงยึดโยงไว้ 3 ระดับตั้งแต่ยอดมดลูก ตรงฐานมดลูก
และด้านข้างของมดลูก ในสภาพปกติก็จะมีลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก
ย้อยแทรกลงมาอยู่ในช่องเชิงกรานจนเต็ม ถ้าในคนที่อ้วนมาก
ก็จะมีมันเปลวเป็นผืนลักษณะคล้ายผ้ากันเปื้อน (Apron) ห้อยย้อยลงมาแทรกอยู่ด้วย
มันเปลวนั้นมีประโยชน์มากเพราะจะเป็นตัวคอยเติมเสริม
บริเวณที่มีการอักเสบ บริเวณที่มีที่ว่างเพื่อไม่ให้นำเหลืองไปคั่งค้างอยู่
เพราะเป็นธรรมชาติที่ ๆ ได้มีแอ่งมีโพรงในร่างกายก็จะมีน้ำเหลืองไปคั่งค้างอยู่
ถ้ามีปริมาณมากจะเกิดการหมักหมม ไม่มีการไหลเวียนก็จะเน่าเสีย
กลายเป็นแหล่งติดเชื้อได้ง่าย ในช่องเชิงกรานนั้นเป็นช่องโพรงขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีลำไส้ทั้งเล็กและใหญ่รวมทั้งทันเปลวลงไปแทรก
เพื่อช่วยดูดซึมหมุนเวียนน้ำเหลืองไม่ให้มีคั่งค้างมากไป
เมื่อตัวมดลูกถูกตัดออกไปพื้นที่ๆ ว่างก็จะถูกแทนที่ด้วยลำไส้ใหญ่และเล็ก
รวมทั้งมันเปลวซึ่งห้อยย้อยลงมาแทนที่ได้จนเต็มช่องเชิงกราน
ยังเป็นความเข้าใจผิดว่าเมื่อมีการตัดมดลูกออกไปแล้ว
ช่องคลอดจะถูกตัดออกไปด้วย หาใช่ไม่ ถ้าสภาวะผิดปกตินั้น
เป็นโรคที่ไม่ใช่มะเร็งก็จะไม่ตัดเอาส่วนของช่องคลอดออก
แต่ถ้าเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น
จึงจะตัดส่วนบนของช่องเชิงกรานออกไม่มากนัก หน้าที่ในการร่วมเพศ
จึงยังคงปกติไม่เปลี่ยนแปลงและในการผ่าตัดนั้น เมื่อตัดมดลูกออกแล้ว
การเย็บคงสภาพช่องคลอดไว้ยังคงเป็นเช่นเดิม ช่องคลอดก็ยังคงสภาพ
เป็นถุงตันขนาดใกล้เคียงกับเดิม แต่ด้วยเหตุที่เนื้อเยื่อช่องคลอดนั้น
ยืดหยุ่นได้มาก จึงสามารถปรับตัวให้เข้าสภาพเดิมได้ ทำให้การมีเพศสัมพันธ์
จึงไม่ถูกกระทบกระเทือนและจะคงคุณภาพเหมือนเดิม
มีไม่น้อยที่หลังผ่าตัด คุณผู้หญิงจะมีความต้องการทางเพศมากขึ้น
อาจจะเนื่องจากสภาพทางจิตใจที่ไม่ต้องกังวลต่อการจะตั้งครรภ์
ต่อการที่ไม่ต้องกังวล ต่อโรคที่อาจจะเกิดต่อปากมดลูกหรือรังไข่
โดยเฉพาะโรคร้าย เมื่อคลายความกังวลคุณผู้หญิงมีเวลาเอาใจใส่
ในเรื่องเซ็กซ์มากขึ้นได้ ซึ่งบางครั้งก็ก่อปัญหาเนื่องจากความไม่เข้าใจของสามี
ซึ่งเข้าใจผิดว่า หลังผ่าตัดสุขภาพของภรรยาจะอ่อนแอต้องได้รับการดูแลพิเศษ ต้องงดกิจกรรมทางเพศอันนำมาซึ่งความขัดแย้งในครอบครัวต่อมาได้
การให้ความรู้ด้วยระบบปรึกษาแนะนำในคนไข้ผ่าตัดดังกล่าว
จึงเป็นเรื่องจำเป็นทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ดูแลกันอย่างเหมาะสม
ดังนั้นการไร้มด (ลูก)...จึงไม่ไร้อารมณ์ ดังที่เข้าใจ
น.พ.วีระ สุรเศรณีวงศ์
ขอบคุณนิตยสารแม่และเด็ก ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่
[ BACK TO LIST]
มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]
Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600