|
อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบในคนไข้ได้บ่อยและเป็นหนึ่ง
ในห้าปัญหาแรกที่คนไข้มาพบแพทย์ อาจจะคิดว่าปัญหานี้
ไม่สำคัญแต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่มาก ๆ
ถ้าจำแนกตามกลุ่มอาการ พบว่า อาการปวดหัวมี 7 กลุ่มคือ
- ปวดหัวไมเกรน
- ปวดเนื่องจากกล้ามเนื้อตึงตัว
- ปวดหัวเนื่องจากสาเหตุผิดปกติในสมอง เช่น
โรคเนื้องงอกในสมอง อาการติดเชื้อในสมอง อาการโป่งพอง
ของเส้นเลือดหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ
- ปวดหัวเนื่องจากสาเหตุนอกสมอง เช่น หูชั้นในอักเสบ
โรคจากกะโหลกศีรษะหรือกระดูกคอ โรคไซนัส ฯลฯ
- ปวดหัวเนื่องจากอุบัติเหตุทางสมอง
- ปวดหัวเนื่องจากโรคทางกายอื่นๆ เช่น ภูมิแพ้ เส้นเลือดอักเสบ ฯลฯ
- ปวดหัวเนื่องจากภาวะทางจิตใจ เช่น เครียด ซึมเศร้า ฯลฯ
หากดูถึงกลไกของการปวดหัวแล้ว จำแนกได้เป็น 3 กลุ่มคือ
- มีสาเหตุเนื่องจากการกระตุ้นระบบประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวดในสมอง
ได้แก่ ไซนัสในสมอง เส้นเลือดในสมองและเยื่อหุ้มสมอง
- เนื่องจากการกระตุ้นระบบประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวดนอกสมอง
ได้แก่ หนังศีรษะ พังผืดและกล้ามเนื้อ เส้นเลือดแดง
- เนื่องมาจากเส้นประสาทถูกกระตุ้น เส้นประสาทที่ว่านี้ก็มี
เส้นประสาทสมองคู่ที่ 5,7,9,10 และเส้นประสาทคอคู่ที่ 2 และ 3
ประวัติคนไข้ที่แพทย์ต้องทราบเพื่อประกอบการวินิจฉัย
เพื่อนำไปสู่สาเหตุ จะได้ช่วยแยกชนิดอาการปวดหัวด้วย ได้แก่
เวลาที่มักเกิดอาการ ระยะเวลาการปวดหัว ความรุนแรง
ลักษณะของการปวด ตำแหน่งของการปวด อาการร่วม เช่น
คลื่นไส้ อาเจียน ภาพซ้อน เวลาที่สัมพันธ์กับอาการปวด
การตอบสนองต่อยาและสิ่งที่มากระตุ้นให้ปวดหัวเพิ่มเติม
หรือสรีระทางร่างกายที่เปลี่ยนแปลงเช่น การมีประจำเดือน
อาการเครียด ฯลฯ รวมทั้งประวัติอื่นที่ควรทราบ เช่น
ประวัติการปวดหัวในครอบครัว ประวัติในช่วงวัยหนุ่มสาว
ประวัติปวดหัวระหว่างถูกเกณฑ์ทหาร ช่วงแต่งงาน ตั้งครรภ์
การเมารถ ฯลฯ
ชนิดของโรคปวดหัว
1. ปวดหัวไมเกรน
แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ไมเกรนที่มีอาการเตือน
และที่ไม่มีอาการเตือน
อาการเตือนนั้นจะเกิดก่อนปวดหัว ไม่น้อยกว่า 4 นาที
แต่ไม่เกิน 60 นาที อาการเตือนมักปรากฏทางการมองเห็น เช่น
จุดในตาดำ มองภาพเป็นสีรุ้ง เห็นภาพเล็กหรือใหญ่กว่าความเป็นจริง หลังอาการเตือนหายไปแล้วจะค่อย ๆ ปวดหัวปรากฎขึ้น อาจจะปวดข้างเดียว
หรือสองข้างก็ได้ ลักษณะการปวดจะปวดแบบตุ๊บๆ ที่ขมับท้ายทอยหรือหัวคิ้ว ถ้าปวดมากที่สุดอาจจะมีอาการอาเจียนด้วย อาการปวดมักจะเกิดเป็นชั่วโมง
ถึงหลายชั่วโมง แล้วถึงจะดีขึ้น แต่ละคนก็จะมีรูปแบบการปวดเป็นเฉพาะคนๆ ไป สามารถบรรเทาอาการปวดโดยใช้ยา Ergotamine tartrate
2. ปวดหัวเนื่องจากเส้นขอดในสมอง
หรือเส้นเลือดโป่งพองในสมอง
อาการปวดหัวชนิดนี้ มักจะเกิดทันทีทันใดอย่างรุนแรง
หากปวดมากผู้ป่วยอาจหมดสติได้ และจะมีอาการอื่นร่วมด้วย
เช่น แขน ขาไม่มีแรง อาเจียน ชัก มักมีอาการปวดต้นคออยู่ด้วย พบได้ในคนทุกอายุทั้งที่เคยมีอาการและไม่มีอาการปวดหัวมาก่อน
ถึงใช้ยาแก้ปวดก็จะไม่ดีขึ้น
3. ปวดหัวเนื่องจากกล้ามเนื้อตึงตัว
ปวดหัวชนิดนี้มักปวดสองข้าง รู้สึกเหมือนถูกรัดที่ศีรษะ
เกิดอยู่ทั้งวันทั้งคืน เมื่อรับประทานยาคลายเครียดแล้วอาจจะดีขึ้น
4. ปวดหัวเนื่องจากเนื้องอกในสมอง
กลุ่มนี้อาการจะรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนไข้จะมีอาการ
ผิดปกติทางระบบประสาท เช่น มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป
ช้าลง ก้าวร้าวขึ้น ความจำไม่ดี อารมณ์เพศเปลี่ยนแปลง ตามัว
เห็นภาพซ้อน ชัก เดินผิดปกติ อ่อนแรง เป็นอัมพาต ฯลฯ
หากตรวจร่างกายคนไข้โดยละเอียดควบคู่กับการเอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์
จะสามารถช่วยวินิจฉัยโรคได้
5. ปวดใบหน้าจากเส้นประสาทสมอง
กลุ่มนี้มีหลายโรค
5.1 Trigeminal Neuralgia จะมีอาการปวดเส้นประสาทสมอง
คู่ที่ 5 ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงใบหน้าตั้งแต่หน้าผาก แก้ม คงด้านข้าง
และในปาก กระพุ้งแก้ม เหงือกด้านบน และด้านล่าง แต่จะปวดสั้นๆ
ครั้งหนึ่งไม่กี่นาที แต่ปวดขึ้นมาแล้วจะปวดรุนแรงมาก เพียงแค่ลูบใบหน้า รับประทานอาหารหรือแปรงฟันก็อาจจะปวดหน้าอย่างรุนแรงได้
อาการปวดก็จะเรื้อรังเป็นปี 3-5% จะปวดทั้งสองข้าง
5.2 Post Herpetic Neuralgia จะมีอาการปวดใบหน้า
โดยเกิดจากการแทรกซ้อนจากโรคงูสวัด อาการปวดจะเกิดในตำแหน่ง
ที่เป็นงูสวัดบริเวณหน้าผากหรือตาด้านใดด้านหนึ่ง
5.3 Occipital Neuralgia ผู้ป่วยกลุ่มนี้
จะปวดบริเวณท้ายทอย เปลี่ยนที่ไปมาได้ จะเสียวที่หนังศีรษะ
เวลาลูบผมหรือหวีผม ส่วนใหญ่จะหายไปเองในเวลา 2-3 สัปดาห์
เป็นอาการปวดตามเส้นประสาท Greater lesser Occipital Nerve
ถ้ามีอาการปวดหัวเป็นประจำและมีอาการเหล่านี้
ควรจะไปปรึกษาแพทย์ครับ |