
โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
วันนี้มีข่าวดีครับ ข้าวกล้องตามตลาดลดราคาเหลือกิโลกรัมละ 15 บาท
คงจะจำกันได้นะครับ เมื่อครั้งที่เราได้ชักชวนให้เพื่อนๆ ของเรารับประทานข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องนั้น ผมถูกท่านผู้อ่านหลายท่านต่อว่า ทำไมข้าวซ้อมมือแพงกว่าข้าวขาว
ที่ถูกต่อว่ามากกว่าเพื่อน ก็ตอนที่ผมไปที่วัดป่าหนองไผ่ จังหวัดสกลนคร ท่านอาจารย์สุธรรม ท่านเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเป็นผู้สนับสนุนให้กินข้าวซ้อมมือ หรือข้าวกล้องกันทั้งวัดเลย
ผมถูกท่านต่อว่า "เป็นไปได้อย่างไรกันโยม ข้าวซ้อมมือกิโลกรัมละตั้ง 27 บาท แต่ข้าวขาวกิโลกรัมละ 17 บาทเท่านั้น"
ผมรู้สึกว่าผมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วย เพราะเราได้ชักชวนให้กินข้าว และเมล็ดพืชหรือแป้งต่างๆ ซึ่งไม่ได้ขัดขาว เพราะเมล็ดพืชธัญญาหารซึ่งไม่ได้ขัดขาว หรือเป็นแบบข้าวซ้อมมือนั้น มีประโยชน์มากกว่าข้าวขาวหรือแป้งขัดขาวมากมายนัก
พอชีวจิตได้รับความนิยมขึ้นมา ข้าวซ้อมมือและข้าวกล้องก็ขายดี พ่อค้าก็เลยฉวยโอกาสขึ้นราคา ทั้งๆ ที่โสหุ้ยค่าใช้จ่ายในการทำข้าวกล้องนั้น ถูกกว่าข้าวขาวเกือบเท่าตัว
ผมก็เลยจำเป็นต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พ่อค้าที่ฉวยโอกาสเป็นการใหญ่ ประกอบกับเหตุการณ์เหมาะเจาะขึ้นมา เพราะในหลวงท่านก็ประกาศสนับสนุนการรับประทานข้าวกล้อง
การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็ออกมาสนับสนุนโครงการข้าวกล้องเบอร์ห้า ผมรู้สึกว่าเป็นโชคดีของคนไทย ที่เรามีโอกาสที่จะได้กินข้าวธรรมชาติ และได้มีโอกาสที่จะคืนชีวิตกลับไปสู่วิถีชีวิตเก่าๆ อีกครั้งหนึ่ง
และก็โชคดีมากขึ้นเมื่อแม่บ้านผมไปสำรวจตลาดอีกครั้งหนึ่ง เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม่บ้านกลับมาบอกว่า ตอนนี้ข้าวกล้องจากกิโลละ 27 บาท ลงมาเหลือ 15 บาทแล้ว
ขออนุโมทนาสาธุครับ ท่านพ่อค้าทั้งหลายที่ลดราคาข้าวกล้องลงมาได้ จะด้วยเจตนาดีของท่านหรือ เพราะความจำเป็นใดๆ ก็ตาม ผมก็ขออนุโมทนาว่าท่านได้ประกอบกรรมดีแล้ว ขอให้ท่านทำต่อไปเถิด
ทีนี้ก็มาถึงคำถามซึ่งเป็นเชิงต่อว่ากลายๆ ท่านบอกว่าก็ลองกินข้าวซ้อมมือตามคำชักชวนแล้ว แต่ไม่ไหวเลย มันแข็งฝืดคอ กินข้าวไม่ค่อยลงเลย
ก็คงต้องขอประกาศซ้ำอีกครั้งนะครับ ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องนั้น ถ้าจะหุงให้กินอร่อย ก่อนจะหุงข้าวต้องแช่น้ำเสียก่อนสัก 2-3 ชั่วโมง ข้าวก็จะนุ่มแถมมีกลิ่นหอมน่ากินด้วย
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะข้าวซ้อมมือนั้น ยังมีเปลือกอ่อนเคลือบอยู่อีกชั้นหนึ่ง ปรกติสมัยก่อนนั้นเมื่อข้าวยังเป็นข้าวเปลือกอยู่ เราใช้เอาข้าวมาตำด้วยกระเดื่อง หรือตำด้วยมือ เปลือกที่หลุดออกมานั้น เป็นเปลือกข้าวหรือแกลบล้วนๆ
เมื่อดูข้าวที่เปลือกแกลบหลุดออกมาแล้ว จะเห็นเปลือกบางๆ สีน้ำตาลเคลือบอยู่ นั่นคือเปลือกอ่อนซึ่งหุ้มแป้งในตัวข้าวไว้
ก่อนจะหุงเราต้องเอาข้าวแช่น้ำไว้เสียก่อน เปลือกอ่อนจึงจะนุ่มอุ้มเอาน้ำไว้ เวลาที่เราหุงน้ำก็จะเข้าไปถึงเมล็ดในของข้าวได้ ข้าวก็จะกลายเป็นข้าวนุ่ม หอมน่ากิน
สำหรับบางท่านที่อยากจะให้ข้าวนั้น นุ่มและก็เหนียวหนุบหนับเคี้ยวสนุกยิ่งขึ้น ก็ลองเอาข้าวเหนียวซ้อมมือผสมเข้าไปด้วย
เดี๋ยวนี้มีข้าวเหนียวซ้อมมือขายแล้วนะครับ วิธีหุงก็คือ คุณเอาข้าวกล้องสัก 3 ส่วน ข้าวเหนียวซ้อมมือสัก 1 ส่วน ผสมกันแล้วแช่น้ำไว้สัก 2-3 ชั่วโมง เวลาจะหุงข้าวก็หุงรวมกัน ทั้งข้าวกล้องและข้าวเหนียวนั่นแหละ
ขอแถมอีกนิดนะครับ อยากให้ข้าวหม้อนั้นอร่อย และน่ากินขึ้นอีก ก็ลองเติมถั่วลงไปด้วยนะครับ ถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วเหลือง 3 อย่างนี้เข้ากับข้าวกล้องได้เป็นอย่างดี แต่ถั่วเขียวเข้ากันไม่ค่อยได้ ไม่ควรหุงรวมกันกับข้าวกล้อง
ถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วเหลืองนั้นใช้เวลานาน กว่าข้าวกล้องกว่าจะหุงให้สุก เพราะฉะนั้นควรจะแยกถั่วต่างๆ ไว้ก่อน แช่น้ำไว้ต่างหาก 2-3 ชั่วโมง แล้วต้มหรือนึ่งจนถั่วสุก
เวลาหุงข้าวกล้องก็ใส่ถั่วซึ่งต้มแล้วลงไปด้วย และขอให้เติมเกลือลงไปสักหนึ่งช้อนชา ข้าวหม้อนั้นจะอร่อยมาก กินเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
ดูๆก็เหมือนจะเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่อย่าลืมว่าการจะหุงข้าวหรือตำข้าวเองนั้น ว่ากันที่จริงก็เป็นเบื้องต้น ของการที่เราจะเข้ากันได้กับธรรมชาติ แน่ละในชีวิตประจำวันของสังคมสมัยใหม่ จะให้ตื่นเช้าก่อนจะไปทำงาน ก็เอาข้าวในยุ้งมาตำเสียก่อนนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าเรานึกถึงวิถีชีวิตเก่าๆ สมัยปู่ ย่า ตา ยายของเรา สมัยนี้เราเรียกข้าวว่าแม่โพสพ เวลาเราจะทำไร่ไถนา เราก็ต้องมีพิธีไหว้แม่โพสพ เวลาเรากินข้าวหมดจาน เราก็ยกมือไหว้ขอบคุณแม่โพสพ สมัยนั้น ทุกคนตำข้าวเป็น ฝัดข้าวเป็น ก็ไม่เห็นมีใครต้องเดือดร้อนว่าเปลืองเวลาไปกับการตำข้าว ฝัดข้าว
นั่นก็เพราะวิถีชีวิตสมัยก่อน เราผูกพันอยู่กับ ข้าว เรานับถือข้าว เรากินข้าว ปลูกข้าวด้วยความรัก
มาสมัยนี้ เราต้องการความสะดวกและรวดเร็ว จะตำข้าวก็ไม่มีเวลา ฝัดข้าวก็ไม่เป็นชีวิตต้องเปลี่ยนไป
ก็ในเมื่อต้องเปลี่ยนไป ทำไมจะต้องเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ การสีข้าวสีให้เป็นข้าวกล้องก็ได้ข้าวขาวก็ได้
ก็แล้วทำไมเราจึงต้องเอาแต่ข้าวขาว ในเมื่อโรงสีข้าว สีข้าวให้เป็นข้าวกล้องได้ ประโยชน์จากข้าวกล้องก็มีมากมาย ค่าใช้จ่ายในการสีข้าวเป็นข้าวกล้อง ก็ต่ำกว่าสีข้าวเป็นข้าวขาว
ทำไมเราไม่หันมาลองกินข้าวกล้องกันดูบ้าง ลองกินดูบ้างเถิดครับ
1. ข้าวกล้องมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
2.ข้าวกล้องราคาถูกกว่าข้าวขาว (ตอนนี้ราคาลงมาเหลือ 15 บาทแล้วครับ)
3. เป็นการเข้าใกล้และใช้ชีวิตที่เรียบง่ายกว่าเดิม
เรื่องชีวิตที่เรียบง่ายเช่นนี้ เป็นเรื่องที่กว้างอย่างเหลือเกิน บางคนคุยกันเห็นเป็นโก้ ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย จริงๆ นะมันง่ายอย่างไร
ใส่เสื้อหม้อห้อม สวมร้องเท้าแตะ สะพายย่าม ปล่อยหัวให้มันยุ่งๆ อย่างนั้นใช้ชีวิตให้มันเรียบง่ายหรือเปล่า
ไม่ใช่หรอกครับ ต่อให้คุณแต่งหม้อห้อม ตั้งแต่ชั้นนอกจนถึงชั้นใน สะพายย่ามทั้งซ้ายขวาอีนุงตุงนัง คุณก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ได้
ถ้าความเรียบง่ายนั้นมันไม่ได้อยู่ในใจคุณ
การเริ่มต้นด้วยการกินอาหารง่ายๆ เป็นทางหนึ่งในอีกหลายๆ ทางที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่เรียบง่ายๆ ได้
ตอนนี้อยากจะส่งข่าวถึงกลุ่มชมรมสีข้าวด้วยกัน ซึ่งหลายกลุ่มขาดการติดต่อไปเลยครับ
ไม่มีอะไรมากหรอกครับ คิดถึงพวกเราน่ะ มีอยู่หลายกลุ่มซึ่งสมาชิกห่างการติดต่อไป อาจจะเป็นด้วยว่าตอนนี้ ข้าวกล้องตามร้านมีราคาถูกลงแล้ว เลยขี้เกียจสีข้าวกินเอง หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
ถึงอย่างไรก็ส่งข่าวถึงกันหน่อยได้ไหมครับ เพราะเราตั้งต้นกันง่ายๆ ด้วยวิธีสนใจเรื่องข้าวกล้อง
ต่อจากนั้นเราก็ใช้วิธีสีข้าวกล้องเอง แล้วเอาข้าวกล้องแจกกันกิน เราติดต่อกันเป็นกลุ่มช่วยเหลือกัน โดยเอาข้าวกล้องเป็นตัวศูนย์กลางของเรา เป็นวิธีสร้างกลุ่มช่วยเหลือกันง่ายๆ อย่างไรเล่าครับ กลุ่มอย่างนี้เป็นเพื่อนกันดีนะครับ
กรุณาส่งข่าวด้วย ไปถึงไหนกันแล้ว โทร. 570-8220 หรือ แฟกซ์ 570-8273.
| main | ![]() |
![]() |
|
|
![]() |
|