มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


49 นอสตราดามุส กับเอ็ดการ์ เคซี่

วันที่เจ็ด เดือนเจ็ดของปีนี้ ที่นอสตราดามุสทำนายไว้ว่า เป็นวันโลกาวินาศผ่านไปแล้วเกือบเดือน ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เรื่องสืบเนื่องมาจากคำทำนายของนอสตราดามุส ยังไม่จบง่ายๆ คนทั่วไปรวมทั้งสื่อมวลชน ยังพูดกันถึงวันโลกาวินาศอยู่ และตอนนี้ที่พูดถึง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งการทำนายโลกอนาคต ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง คู่กับนอสตราดามุส เขาชื่อเอ็ดการ์ เคซี่

เอ็ดการ์ เคซี่ เป็นชาวอเมริกัน เกิดเมื่อปี 1877 และเสียชีวิตเมื่อปี 1945 นั่นคือ 54 ปีมาแล้ว

คำทำนายเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญๆ ของอเมริกาถูกต้องหลายอย่าง เช่น การฆาตกรรมประธานาธิบดีเคนเนดี สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม และแผ่นดินไหวในแคลิฟอร์เนีย

ส่วนคำทำนายเกี่ยวกับโลกาวินาศนั้น ไม่รุนแรงเหมือนนอสตราดามุส แต่เขาได้ย้ำไว้แน่นอนมากมาย เรื่องเกาญี่ปุ่นจะจมหายไปในทะเล และนี่คือความหวาดกลัวของชาวญี่ปุ่นทุกวันนี้

และตอนนี้ชื่อเสียงเอ็ดการ์ เคซี่ ก็ถูกกระพือขึ้นมาอีกจนโด่งดังไปทั่วโลก มีข้อเขียนและสารคดีทีวีหลายเรื่องที่พูดถึง เอ็ดการ์ เคซี่

แต่แทบจะไม่มีใครเลยที่เอ่ยถึง ความสามารถทางด้านการแพทย์ของเอ็ดการ์ เคซี่ ทั้งๆที่ความโด่งดังของเคซี่เกิดขึ้นมาจาก การสั่งยารักษาคนไข้ให้หายโรคภัยไข้เจ็บมานั้น เป็นหมื่นๆ ราย

วิธีสั่งยาของเคซี่ก็ค่อนข้างจะพิสดาร ถึงเวลาที่เขาจะสั่งยา เขาก็ต้องตรวจอาการของคนไข้ก่อน การตรวจคนไข้และการสั่งยา ก็แปลกประหลาดพิสดาร เขาไม่รู้จักคนไข้ และคนไข้ก็ไม่ต้องมาหาเขา จะอยู่ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้

เมื่อถึงเวลาจะตรวจคนไข้ เคซี่ก็จะนอนบนเก้าอี้ยาวในบ้านของเขา หลับตาลง แล้วก็มีอาการเหมือนทำสมาธิ หรือเข้าฌาน แล้วก็หลับลึก (TRANCE) ต่อจากนั้นผู้ช่วยของเขาก็จะอ่านชื่อคนไข้ อายุ และที่อยู่โดยไม่ต้องบอกว่าคนไข้ป่วยเป็นอะไร และอาการเป็นอย่างไร

เคซี่จะบอกที่อยู่ และสภาพภายในบ้านของคนไข้อย่างถูกต้อง เขาจะระบุได้โดยละเอียดว่า ขณะนั้นคนไข้กำลังทำอะไรอยู่ในบ้าน และเขาจะตรวจอาการของคนไข้โดยที่นอนอยู่ TRANCE อย่างนั้น และอยู่คนละที่ คนละแห่งกับคนไข้อย่างนั้น

เมื่อเขาตรวจอาการคนไข้โดยละเอียดแล้ว เขาก็จะบอกคนไข้ป่วยเป็นอะไร ส่วนไหนของร่างกายที่มีอาการป่วย หรือผิดปรกติ

ต่อจากนั้น เขาก็จะสั่งยา ซึ่งการตรวจและการสั่งยาทั้งหมดนี้ ผู้ช่วยของเขาจะเป็นผู้บันทึกไว้ และจะจัดการติดต่อกับคนไข้ต่อไป เมื่อเคซี่ขึ้นจาก TRANCE เขาจะไม่รู้ตัวและจำไม่ได้ว่า เขาได้พูดอะไรหรือสั่งอะไรออกไปบ้าง

แรกๆ ก็จะมีหลายคนที่สงสัยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร เขาแสวงหาผลประโยชน์หรือเปล่า หรือเขาหลอกลวงหรือเปล่า

ก็น่าหรอกที่จะมีคนสงสัย เพราะเอ็ดการ์ เคซี่ เป็นคนมีการศึกษาน้อย เขาไม่ได้เป็นหมอ ไม่ได้เรียนแพทย์ และไม่มีความรู้ทางการแพทย์เลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาอยู่ในลักษณะปรกติธรรมดา คือไม่ได้นอนเข้า TRANCE หากใครมาถามเรื่องเจ็บป่วยแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ขนาดปวดหัวปวดท้อง เขาจะบอกไม่ได้เลยว่าจะแก้ไขอย่างไร

แต่อย่างไรก็ตาม การที่เขาทำทุกอย่างด้วยความสุจริตใจ และหวังแต่เพียงจะช่วยเพื่อนมนุษย์โดยไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน และผลของการตรวจและสั่งยาให้แก่คนไข้ได้ผลดี คนไข้หายจากการเจ็บป่วย ในไม่ช้าคนไข้ก็แห่กันมาทำ ในลักษณะที่เรียกกันภาษาโก๋สมัยนี้ว่า "มากันตรึมเลยทีเดียว"

เอ็ดการ์ เคซี่ ก็ต้องเดือดร้อน เพราะตอนนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว ต้องเข้ามาตรวจและสอบสวนเป็นเรื่องใหญ่

แต่ก็เอาผิดกับเคซี่ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้รักษาคนไข้ ใครก็ตามที่มาถามอาการเจ็บป่วย เขาก็จะตรวจตราโดยใช้การเข้า TRANCE และเมื่อจะสั่งยา เขาก็จะสั่งผ่านทางผู้ช่วย ซึ่งเป็นผู้จดยา และคนไข้ก็จะไปซื้อยามากินหรือมาหาเอาเอง และคนไข้ส่วนมากก็จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บนั้นๆ

แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่หมดเรื่องเดือดร้อน มีแพทย์ผู้ใหญ่ และผู้ที่สนใจการรักษาของเอ็ดการ์ เคซี่ หลายคน ซึ่งสนใจขอเข้าดูวิธีรักษาและการสั่งยาให้คนไข้ แพทย์บางคนก็บอกตรงๆเลยว่า เขาต้องการมาจับโกหกของเอ็ดการ์ เคซี่

แต่ละคนที่มาทำ เคซี่จะต้อนรับอย่างเต็มใจ และด้วยอัธยาศัยอันดียิ่ง อย่างเช่น นายแพทย์ฮิวโก มุนสเตอร์เบิร์ก แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ซึ่งถึงกับลงทุนเดินทางจากนอสตัน ขึ้นรถไฟข้ามคืนข้ามวันลงใต้ไปถึงเมืองฮอพกินส์วิลล์ ในมลรัฐเคนตั๊กกี้ เพื่อจะไปสอบสวนว่าวิธีการรักษาของเอ็ดการ์ เคซี่ เป็นการหลอกลวงประชาชนหรือเปล่า

นายแพทย์มุนสเตอร์เบิร์กต้องเดินทางแบบสมบุกสมบัน เขาต้องนั่งรถม้าจากสถานีรถไฟ ออกไปนอกเมืองเป็นเวลาหลายชั่วโมง รถม้านำเขามาที่ทุ่งนาเชิงเขา บริเวณท้องทุ่งนั้นเป็นฟาร์มปลูกยาสูบเต็มไปหมด

คนขับรถหยุดลงที่กระท่อมเล็กๆ ซึ่งคงจะมีคนอาศัยอยู่ได้ไม่เกินสองคน มุนสเตอร์เบิร์กมองดูบ้านหลังเล็กนั้น อย่างประหลาดใจ เขาถามคนขับรถอย่างไม่ค่อยเชื่อว่า "เอ็ดการ์ เคซี่ อยู่ในบ้านเล็กๆ แค่นี้เองหรือ?"

ชายร่างเล็กและค่อนข้างผอมเดินมาเปิดประตู นายแพทย์มุนสเตอร์เบิร์กถามเขาว่า เขาคือเอ็ดการ์ เคซี่ ใช่หรือไม่

เคซี่พยักหน้ารับ มุนสเตอร์เบิร์กแนะนำตัวเอง และบอกเคซี่อย่างตรงไปตรงมาว่า "ผมมาที่นี่เพื่อจะมาจับโกหกคุณ"

เขาควักกระดาษหนังสือพิมพ์ปึกใหญ่ ออกมาจากกระเป๋า กระดาษหนังสือพิมพ์เหล่านั้นลงข่าวต่างๆ เกี่ยวกับเอ็ดการ์ เคซี่ และหนึ่งในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ตัดมาเต็มหน้านั้น เป็นหน้าจาก นสพ.นิวยอร์กไทม์ ซึ่งเป็นหนังสือที่แพร่หลายที่สุดในอเมริกา และเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นพาดหัวว่า "หนุ่มไร้การศึกษากลายเป็นหมอขณะตกอยู่ในภวังค์ลึก"

เอ็ดการ์ เคซี่ ยิ้มอย่างถ่อมตัว และเชิญมุนสเตอร์เบิร์กเข้าไปในบ้าน แพทย์อาวุโสผู้นั้น ยังไม่ยอมถอดเสื้อคลุมและถอดหมวก เขายังมีท่าทางซึ่งดูถูกเคซี่อยู่มาก

"ห้องแพทย์และห้องตรวจโรคของคุณอยู่ที่ไหน"

เอ็ดการ์ เคซี่ มองอย่างงงๆ แล้วชี้ไปที่โซฟายาวซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง

"ถ้าคุณหมายถึงห้องแพทย์อย่างในคลินิกละก็ นั่นก็คือห้องแพทย์ของผม"

มุนสเตอร์เบิร์กมีอาการดูถูกมากยิ่งขึ้น "ถ้ามีโซฟาเพียงตัวเดียวอย่างนี้ คุณจะรักษาคนไข้ได้อย่างไร"

"ผมไม่ได้รักษาคนไข้ ผมเพียงแต่อ่านรายการของคนไข้ให้ผู้ช่วยของผมฟัง แล้วเขาก็จดไว้"

มุนสเตอร์เบิร์กมีอาการที่ไม่เชื่อถือมากขึ้นอีก เขาทำท่าจะกลับ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ถอดเสื้อถอดหมวกแล้วก็นั่งลง

เขาเริ่มซักถึงวิธีรักษาคนไข้ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาพอจะเข้าใจถึงวิธีรักษา แต่ก็ไม่ยอมเชื่อว่าวิธีเข้า TRANCE อย่างนั้นจะช่วยอะไรได้

เขาถามถึงหลักฐานคนไข้ เอ็ดการ์ เคซี่ เอารายชื่อต่างๆ ของคนไข้มาให้ดู มุนสเตอร์เบิร์ก ขออนุญาตไปพบคนไข้ และซักถามคนไข้

เขาไม่เพียงแต่พบหลักฐานว่าคนไข้ ป่วยมีอาการอย่างนั้นจริงๆ เท่านั้น แต่ยังพบว่า วิธีตรวจอาการ และการสั่งยานั้นถูกต้องตาม แบบแผนการรักษา แบบการแพทย์แผนปัจจุบันทุกอย่าง และคนไข้ก็หายป่วยจริงๆด้วย

เอ็ดการ์ เคซี่ ทำได้อย่างไร

ขณะนั้นเป็นปี 1910 เอ็ดการ์ เคซี่ อายุได้ 33 ปี.

สาทิส อินทรกำแหง

อ่านต่อตอนที่50 วันพุธที่ 18 สิงหาคม 2542

[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]

main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600