มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


50 นอสตราดามุส กับ เอ็ดการ์ เคซี่ (ต่อ)

มื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้ทิ้งท้ายเรื่องของเอ็ดการ์ เคซี ไว้ว่า เขาได้กลายเป็นหมอรักษาคนไข้นับหมื่นๆ คน ทั้งๆ ที่เขาเองก็ไม่ได้เป็นหมอ ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนการแพทย์ และไม่มีความรู้ในด้านการแพทย์แม้แต่นิดเดียว

วิธีรักษาของเอ็ดการ์ เคซี ก็ต่างกว่าแพทย์ต่างๆ ทั้งหลาย เขาไม่ต้องพบกับคนไข้ แท้ที่จริงแล้วเขาไม่รู้จักคนไข้เลยด้วยซ้ำ เวลาที่เขาตรวจหรือรักษาคนไข้ เขาจะนอนหลับตาเหมือนกับเข้าสมาธิ (TRANCE) เขาจะบอกรูปร่างลักษณะของคนไข้ ที่อยู่ของคนไข้ สภาพในบ้านของคนไข้ได้ถูกต้อง ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักคนไข้เลย

ต่อจากนั้นเขาจะวินิจฉัยโรค และจะบอกยารักษาโรค ซึ่งจะไปซื้อได้จากร้านขายยา หรือให้เภสัชกรปรุงยาให้ และคนไข้ก็จะหายจากการเจ็บป่วย

ได้มีกลุ่มสื่อสารมวลชนและกลุ่มแพทย์ ของทางราชการและเอกชน ไปศึกษาและสอบสวนการทำงานของเขา

หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ แม้แต่หนังสือพิมพ์ระดับโลก เช่น นิวยอร์กไทม์ ต่างรายงานเป็นเสียงเดียวกันว่า การรักษาของเอ็ดการ์ เคซี ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ และเคซีไม่ใช่คนหลอกลวง ตรงกันข้ามเขาเป็นคนมีน้ำใจดีงาม และต้องการช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อน โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน

และกลุ่มของแพทย์ที่ไปสอบสวนวิธีรักษาของเอ็ดการ์ เคซี ก็รายงานเหมือนกันอีกเช่นกันว่า การรักษาและวิธีสั่งยาของเคซี แม้จะค่อนข้างแปลกประหลาด แต่ก็ถูกต้องตามหลักการแพทย์ และเภสัชกรรมทุกประการ โดยเฉพาะการวินิจฉัยโรค ซึ่งเคซีสามารถตรวจภายในของคนไข้ได้ ทั้งๆ ที่คนไข้อยู่คนละที่ห่างไกลกัน แต่เคซีก็วินิจฉัยได้ถูกต้องอย่างน่าอัศจรรย์ว่า อวัยวะภายในส่วนไหน หรือระบบไหนของร่างกายคนไข้เกิดเจ็บป่วย หรือเกิดอาการบกพร่อง จนทำให้คนไข้ป่วย

ในภายหลังกลุ่มแพทย์และทางการ ได้ขอร้องให้เอ็ดการ์ เคซี บันทึกรายละเอียดของประวัติคนไข้ อาการเจ็บป่วยและสาเหตุของการเจ็บป่วย ตลอดจนการรักษา และการให้ยา ไว้ให้เป็นระบบ เพื่อความถูกต้อง และการค้นคว้าในด้านการแพทย์ต่อไป

ปรากฏว่า เลขานุการและคณะของเอ็ดการ์ เคซี ได้บันทึกประวัติคนไข้โดยละเอียดไว้ถึง 14,000 ราย และประวัติคนไข้และการรักษานี้ มีจำนวนหน้ากระดาษกว่า 900,000 หน้า

นับว่าเป็นประวัติการค้นคว้า ซึ่งหนามากมายเหลือเกิน ถ้าจะนับกันในด้านการเป็นตัวหนังสืออย่างเดียว ก็ต้องนับว่าเป็นการเขียนหรือการบันทึก ซึ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่งในวงการหนังสือด้วยกัน

ในระยะแรกกลุ่มลูกศิษย์ของเอ็ดการ์ เคซี ได้จัดตั้งมูลนิธิเอ็ดการ์ เคซี เพื่อค้นคว้าด้านการแพทย์ขึ้น แต่ในภายหลังเมื่อเอ็ดการ์ เคซี เสียชีวิตแล้ว (ปี 1945) กลุ่มแพทย์และกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาของเคซี ได้ร่วมกันขยายมูลนิธิให้เป็น สถาบัน ASSOCIATION FOR RESEARCH AND ENLIGHTENMENT ขึ้น เพื่อการค้นคว้าและศึกษาในด้านการรักษาผู้ป่วย ตามแนวของเอ็ดการ์ เคซี และในขณะเดียวกันก็ช่วยกันค้นคว้า และปรับปรุงการรักษาของเคซีให้ถูกต้อง ตามกระบวนการของการแพทย์ปัจจุบันให้มากยิ่งขึ้น

ปรากฏว่ากรรมการของสถาบันแห่งนี้แทบทั้งหมด คือกลุ่มแพทย์ซึ่งได้เคยมาสอบสวนพฤติกรรม และวิธีการรักษาของเอ็ดการ์ เคซี มาแล้ว อย่างเช่น นายแพทย์ฮูโก มุนสเตอร์เบิร์ก จากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด ซึ่งเป็นผู้ที่บอกกับเอ็ดการ์ เคซี เมื่อวันแรกพบกันว่า "ผมมาที่นี่เพื่อจะมาจับโกหกคุณ" ก็ได้กลายเป็นกรรมการคนหนึ่งของสถาบัน

นายแพทย์วิลเลียม แมคคารีย์ จากมหาวิทยาลัยซินซินนาติ และภรรยาของเขา ซึ่งเป็นแพทย์เหมือนกัน คือ เกลดีส์ ได้ร่วมกันเป็นผู้ค้นคว้า และรวบรวมวิธีรักษาของเอ็ดการ์ เคซี และต่อมานายแพทย์แมคคารีย์ ก็ได้รับตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ ของมูลนิธิเอ็ดการ์ เคซี และภายหลังได้จัดตั้งสถาบันเพื่อค้นคว้า และเป็นคลินิกด้วย นายแพทย์แมคคารีย์ก็ได้รับตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการของสถาบันแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

นายแพทย์แมคคารีย์ ได้รวบรวมวิธีรักษาของเอ็ดการ์ เคซี ไว้เป็นตำรา เขาได้เน้นว่า แม้เอ็ดการ์ เคซี จะไม่มีความรู้ในด้านการแพทย์เลย แต่ในขณะที่เคซีเข้าสมาธิจนถึงขั้น TRANCE เขาก็ดูเหมือนแพทย์ชั้นเอก ซึ่งทรงคุณวุฒิอย่างไม่มีข้อสงสัย

เขาได้ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ ในการรักษาของเคซีนั้น อยู่ที่การเน้นในเรื่องสุขภาพเบื้องต้น

สุขภาพเบื้องต้นซึ่งเคซีเน้นนักเน้นหนา ก็คือเรื่องของการกิน การถ่าย ความสมดุลของกรด และด่างในร่างกาย ความสมดุลของโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกสันหลัง ความสมดุลของระบบประสาท ความสมดุลย์ของระบบเลือด การทำงานที่ถูกต้อง และประสานกลมกลืนกันของต่อมต่างๆ ความเครียดและการใช้งานมากเกินควร ของอวัยวะหรือระบบบางอย่าง และประการสุดท้าย สิ่งที่เคซีระบุไว้อาจจะทำให้บรรดาอาจารย์ หรือพระคุณเจ้าของไทยเราสะดุ้งกันบ้างก็คือ เคซีระบุว่า สาเหตุของการเจ็บป่วยที่สำคัญอันหนึ่งก็คือ มันขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรม (LAW OF KARMA)

เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ที่คนความรู้น้อยเป็นชาวนาธรรมดาคนหนึ่ง จะสามารถพูดถึงความรู้การแพทย์สูงๆ รวมทั้งเรื่องของร่างกายและจิตใจ ได้อย่างละเอียดและถูกต้องเช่นนี้ การแพทย์สมัยโน้น และแม้กระทั่งสมัยนี้ เราไม่เคยพูดกันถึงการป่วยทางจิตใจ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยทางกาย แต่เคซีได้พูดไว้นานแล้ว และเขาจะเน้นอย่างมากมายในบท ที่ว่าด้วยความสมดุลของระบบประสาท

vเคซีกล่าวไว้ว่า เรี่ยวแรงหรือพลังงานของคน ที่จะทำให้มีชีวิตชีวาอยู่ได้นั้นขึ้นอยู่กับความคิด ความเคลื่อนไหว ทั้งที่รู้ตัว (CONCIOUS) และไม่รู้ตัว (UNCONCIOUS)

vกลไกในความเคลื่อนไหวทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัวนี้ เคซีระบุไว้ว่าได้แก่ การหายใจ การเต้นของหัวใจ การหมุนเวียนของเลือดและน้ำเหลือง การทำงานของต่อมต่างๆ (ฮอร์โมน) การย่อย การเปลี่ยนการย่อยให้เป็นสารอาหาร (ASSIMILATION OF NUTRIENTS) และสิ่งสำคัญประการสุดท้าย คือ การถ่าย

เคซียังได้ระบุเลยไปถึงส่วนอื่นๆของระบบประสาทอีกว่า แบ่งออกเป็นส่วนสำคัญ 3 ส่วน (ตามแนวคิดของเคซี) คือ น้ำเลี้ยงสมอง ระบบประสาทอัตโนมัติ และระบบสัมผัส (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)

การพูดและอธิบายถึงระบบประสาทนี้ เคซีทำได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง เพราะระบบประสาททั้งหมดของมนุษย์นั้น ลึกลับซับซ้อนเหลือประมาณ แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท อาจจะรู้จักระบบและการทำงานของระบบเป็นอย่างดี แต่เมื่อขอให้แพทย์ผู้นั้นอธิบาย เขาก็จะทำไม่ได้ดีเหมือนอย่าง เอ็ดการ์ เคซี ซึ่งเป็นชาวนา และไม่เคยศึกษาในเรื่องการแพทย์มาก่อนเลย

ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างกายและใจ หรือความเป็นหนึ่งเดียวของการมีชีวิตนั้น เคซีกล่าวไว้ว่า กายและใจต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อที่จะเป็นที่รวมของการมีชีวิตอยู่ได้ เพราะการมีชีวิตนั้น เป็นพลังส่วนหนึ่งของพลังอันยิ่งใหญ่จากธรรมชาติ เพราะฉะนั้น พลังต้องร่วมกันและประสานกัน

นี่คือเรื่องย่อๆ ของชายอัศจรรย์ผู้หนึ่ง ซึ่งที่มาเล่าสู่กันฟังนั้นก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า พลังมหัศจรรย์ในมนุษย์นั้นมีจริง แต่จะเป็นพลังมหัศจรรย์จริงหรือไม่นั้น ต้องดูที่ว่าผู้อ้างว่ามีพลังมหัศจรรย์นั้น มีความสุจริตใจหรือเป็นของแท้ ของจริง แน่นอนหรือเปล่า

ไม่ใช่ว่ามีแต่ของปลอม ซึ่งไปแอบอ้างและหลอกลวงกันอยู่ทั่วเมืองขณะนี้

สาทิส อินทรกำแหง

อ่านต่อตอนที่51 วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2542

[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]

main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600