
โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
ผมนึกว่าจะจบเรื่องของเอ็ดการ์ เคซี ตั้งแต่ฉบับที่แล้ว แต่ได้มาพบว่าเรื่องของเอ็ดการ์ เคซี นอกจากจะเป็นเรื่องของพลังทางจิต ซึ่งค่อนข้างแปลกแล้ว ยัง เป็น เรื่องที่สนุก และมีแง่คิดเหมาะแก่รสนิยมของคนไทย จะเอามาคุยกันสนุกๆ ก็ได้ จะคุยกันในแบบของความรู้วิชาการก็ได้
อย่างเรื่องของการนวด เคซีจะใช้เรื่องการนวดช่วยในการรักษาผู้ป่วย มานานนับหลายสิบปีแล้ว ถ้าหากจะนับเวลา ซึ่งมีการบันทึกจากนายแพทย์วิลเลียม แม็คคารีย์ ผู้อำนวยการสถาบัน ARE เอ็ดการ์ เคซี ได้ใช้การนวดร่วมกับการรักษาแบบอื่นๆ เป็นเวลากว่า 100 ปีมาแล้ว นั่นคือนับตั้งแต่ปี 1897 เป็นต้นมา
วิธีการนวดของเอ็ดการ์ เคซี ไม่เหมือนการนวดแบบของไทย ซึ่งจะหนักไปในด้านการนวดเส้น แต่การนวดของเคซี จะเป็น การนวดจุดคล้ายของจีน และก็เป็นการนวดสัมผัสพร้อมกันไปด้วย
นวดแบบจีนก็คือการกดจุดต่างๆ ทั่วร่างกายด้วยหัวแม่มือ นวดสัมผัสก็คือการถู การลูบเบาๆ ผสมกับการใช้น้ำมันถูไปตามแนวต่างๆ ตามตัวด้วย
เรื่องของการนวดแบบจีน ซึ่งเป็นการกดจุดตามจุดฝังเข็มนั้น แน่นอนว่า เคซีไม่เคยได้ร่ำเรียนมาจากที่ไหนเลย เมื่อ 100 ปีมาแล้ว อเมริกาแทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า มีการฝังเข็มรักษาโรคได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เคซีรู้หรือเรียนรู้ก็คือ การค้นพบความจริงได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นของแปลก
และการนวดจุดของเคซีตรงกับจุดต่างๆ และคล้ายกับวิธีฝังเข็มของจีน ก็แสดงว่าจุดต่างๆ นี้เป็นของจริงตามหลักการแพทย์มานานแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นวิชาการของใคร หรือชาติใดชาติหนึ่ง ถ้าค้นคว้าทดลองอย่างจริงจัง ผู้นั้นหรือชาตินั้นก็จะค้นพบความจริง หรือวิชาการที่แท้จริงได้ด้วยตนเอง
เรื่องของการนวดสัมผัสก็เช่นกัน เป็นเรื่องของธรรมชาติ หรือสัญชาตญาณเก่าแก่ของมนุษย์เรา เวลาเราถูกตีตรงไหนเจ็บๆ เราก็รู้จักที่จะเอามือลูบคลำ หรือนวดเค้นเพื่อคลายความเจ็บ โดยที่ไม่ต้องมีใครมาสอน การบีบการคลำนี้เราก็พบด้วยตนเองว่า ทำให้เราคลายความเจ็บปวดได้ เมื่อรู้จักจำจุดต่างๆ เหล่านั้นและรวบรวมไว้เป็นเรื่องเป็นราว ในไม่ช้าก็จะกลายเป็นวิชานวดขึ้นมา วิธีการทดลองหรือทดสอบขึ้นมา เราก็จะพบว่า การนวดก็คือการบำบัดซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ได้
ลองใช้หลักการแพทย์มาแยกแยะดู เมื่อเราถูกตี เนื้อของเราก็ช้ำดำเขียว การช้ำดำเขียวแปลว่าเส้นเลือดแตกภายใน เลือดออกใต้ผิวหนังจึงทำให้มองเห็นเป็นเช่นนั้น เวลาเราเจ็บเราก็ลูบคลำบีบเค้นโดยอัตโนมัติ เพราะเราจะรู้สึกคลายเจ็บปวดลง เวลาบีบเค้นเช่นนั้น
เพราะอะไรเวลาเราบีบเค้นบ่อยๆ กล้ามเนื้อก็คลายตัว การหมุนเวียนของเลือดย่อมกระจายไปได้ทั่วตัว ทำให้อาการฟกช้ำดำเขียวบรรเทาลง นี่คือการรักษาตัวเองโดยธรรมชาติ
ถ้าเราศึกษาทดลองต่อไปอีก เรารู้ว่าการบีบการเค้นช่วยบรรเทาความเจ็บปวด เราก็ต้องมาศึกษาต่อว่าบีบเค้นอย่างไร และแค่ไหนจึงจะพอดี การใช้มือใช้นิ้วทำอย่างไรจึงจะพอดีกับการบำบัด ไม่ทำให้ร่างกายยิ่งบอบช้ำยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อการทดสอบมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงจะต้องทดลองต่อไป นักวิทยาศาสตร์หลายคนคงจะได้พบว่า กระแสไฟฟ้าและคลื่นความสั่นสะเทือนบางอย่าง ช่วยให้การบีบนวดนั้นได้พอดีขึ้น จึงได้กลายเป็นหลักการต่างๆ ในการบำบัดรักษาร่วมกับการใช้ยา
นี่กระมังวิชาการเรื่องกายภาพบำบัด (Physical Therapy) จึงได้เกิดขึ้น ผมหวังว่า อาจารย์ทางด้านกายภาพบำบัด คงจะยอมรับข้อนี้ และคงไม่มีใครปฏิเสธเสียงแข็ง โดยไม่นึกถึงบุญคุณของการแพทย์พื้นเมือง และการแพทย์สมัยเก่า
ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ เอ็ดการ์ เคซี ได้ใช้ เรื่องของการนวดบำบัด มาตั้งแต่สมัยก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในระหว่างสงครามโลก อเมริกาขาดแคลนแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ ตลอดจนยาไม่มั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนเก่า การรักษาและการบำบัดแบบของเอ็ดการ์ เคซี จึงได้ แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องใช้ยาแพงๆ และเครื่องไม้เครื่องมือวิจิตรพิสดารแต่อย่างใด
และพอตอนปลายๆ มหาสงครามโลกครั้งที่สอง มีการคิดค้นอุปกรณ์ทางไฟฟ้าและคลื่นเสียงเพิ่มขึ้น ปรากฏว่า เอ็ดการ์ เคซี กลับเป็นคนแรกและกลุ่มแรกที่สั่งให้ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าช่วยในการนวดต่างๆ เช่น นวดหลัง นวดแขน นวดตัว โดยเฉพาะตามข้อต่อต่างๆ ปรากฏว่า ช่วยบำบัดรักษาโรคเกี่ยวกับการปวดกล้าม และปวดข้อได้อย่างน่าอัศจรรย์
ส่วนประกอบอีกอย่างหนึ่งในการนวดก็คือ น้ำมันนวด เคซีมีสูตรของตัวเอง คือ น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันมะกอก ลาโนลิน (Lanolin-ไขมันจากขนแกะ มีขายอย่างเป็นขวดและเป็นก้อน) และน้ำดอกกุหลาบ
สูตรน้ำมันนี้เป็นสูตรซึ่งเคซีแนะนำให้ทำเอง เป็นสูตรง่ายๆ และเชื่อหรือไม่ว่ากลับเป็นสูตรมีชื่อเสียงโด่งดัง บริษัทขายยาและบริษัทเครื่องสำอาง นำไปผลิตจำหน่ายร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีไปตามๆ กัน แต่แน่นอน เคซีก็ยังคงยากจนอยู่เช่นเดิม
ในปัจจุบันสูตรน้ำมันของเคซีมีจำหน่ายทั่วโลก โดยที่เคซีไม่มีส่วนรู้เห็นหรือได้รับผลประโยชน์แต่ใดๆ บริษัทยาและบริษัทเครื่องสำอางบางแห่ง ได้คิดแปลงสูตรของเคซีบ้างเล็กน้อย เช่นได้เติมวิตามิน E ลงไปด้วย และทางบริษัทก็ตัดน้ำกุหลาบออกเสีย เพราะน้ำกุหลาบเมื่อเอามาผสมกับน้ำมัน ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนได้ง่าย แต่โดยเหตุที่เคซีแนะนำให้คนทั่วไปทำใช้เอง ถ้าทำตามสูตรของเคซีก็จะได้ผลดี และเสียค่าใช้จ่ายในราคาถูก
เคซีจะแนะนำสูตรน้ำมันนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะสำหรับคนไข้ทุกคน ไม่ว่าจะป่วยเป็นอะไร เขาจะอธิบายแก่คนไข้ว่าการนวดจุด และนวดตัวผสมกับการใช้น้ำมันนั้น จะทำให้คนไข้สบายเนื้อสบายตัว จิตใจแจ่มใสสดชื่น ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้คล่องตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบขับถ่ายจะดีขึ้น
ระบบขับถ่ายตามแบบของเคซีนั้น ไม่ได้หมายถึงการขับถ่ายอุจจาระ-ปัสสาวะเท่านั้น แต่หมายถึงระบบหายใจ ระบบผิวหนัง การขับเหงื่อ และการหมุนเวียนโลหิตด้วย เคซีจะแนะนำให้นวดตัวและถูตัว โดยเริ่มด้วยการนวดจุดก่อน แล้วทาน้ำมัน นวดด้วยฝ่ามือทั่วตัว ต่อจากนั้นใช้น้ำมันอีก ซึ่งมีน้ำกุหลาบผสมอยู่ด้วย ลูบไล้ไปตามผิวหนังเบาๆ ทั่วทั้งตัว
เคซีกล่าวว่า แม้แต่ไม่ได้ป่วยเป็นอะไร หากจะใช้น้ำมันผสมน้ำกุหลาบนวดไปทั่วตัว ก็จะทำให้ผิวหนังและผิวพรรณสวยขึ้น
อีกตัวอย่างหนึ่งซึ่งเคซีจะแนะนำก็คือ การช่วยให้คนไข้ใกล้จะตายมีอาการสบายขึ้น ตามปรกติคนไข้เหล่านี้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยานอนหลับ และยาแก้ปวด (มอร์ฟีน) ซึ่งคนไข้ก็จะไม่รู้สึกตัวเลยจนกระทั่งสิ้นชีวิต
แต่ในกรณีของคนไข้ที่ไม่ต้องการให้ใช้ เครื่องมือเหล่านั้น เคซีให้ใช้การนวดเบาๆ ผสมกับการใช้น้ำมัน ปรากฏว่าคนไข้แทบทุกคนหายใจดีขึ้น สบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น ที่แน่นท้องแน่นหน้าอกก็คลายลง และก็จากไปอย่างคนมีสติ
ทั้งหมดนี้ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เป็นวิชาความรู้จากมนุษย์พิเศษมหัศจรรย์ผู้หนึ่ง คนผู้นี้เรียนรู้และมีวิชาความรู้ด้วยตัวของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลและแปลกปลอม เพราะความรู้และการปฏิบัติทั้งหมด ได้รับการทดสอบตรวจตราวิเคราะห์ จากวงการแพทย์ปัจจุบัน และจากกระทรวงสาธารณสุขของอเมริกา และปรากฏผลเป็นโรงพยาบาลแบบผสมผสาน ของเอ็ดการ์ เคซี ซึ่งยังเปิดทำงานและรับรักษาคนไข้อยู่จนบัดนี้
ข้อสำคัญซึ่งผมอยากจะเตือนก็คือ เมืองไทยก็จะมีคนเอาอย่าง และอ้างอิงว่าเป็นผู้วิเศษขึ้นมาบ้าง อย่าเชื่อและอย่าฟังจนกว่าจะได้ พิสูจน์ว่าคนคนนั้นไม่ใช่จอมปลอม ไม่ใช่คนหลอกลวง
แต่เขาจะต้องเป็นของแท้ และมีเจตนาบริสุทธิ์อย่างแท้จริง.
สาทิส อินทรกำแหง
| main | ![]() |
![]() |
|
|
![]() |
|