มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


56 ลดน้ำหนัก ระวังโลหิตจาง

"เลือดน้อย" หรือ "โลหิตจาง" เหมือนเส้นผมบังภูเขา เรามองไม่เห็น และไม่ค่อยสนใจ เพราะเราชอบมองแต่รูปร่างภายนอก ข้างในเป็นอย่างไร ไม่เคยสังเกต

รูธ วินเตอร์ แพทย์หญิงด้านเบาหวาน เขียนไว้ในหนังสือ CONSUMER'S DICTIONARY OF FOOD ADDITIVES เล่าถึงความนิยมของประชาชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลัวความอ้วน โดยเฉพาะกลุ่มคุณผู้หญิงว่า เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมา ก็เกิดกลัวว่าจะไม่สวย วิธีแก้ความไม่สวย ตามคำแนะนำของแพทย์สมัยใหม่บางคนก็คือ ให้ลดความอ้วนหรือลดน้ำหนัก

หนึ่งในวิธีลดน้ำหนักก็คือ ให้งดน้ำตาล ห้ามกินหวานกินมัน ให้ยาละลายไขมัน และให้กินน้ำตาลเทียม น้ำตาลเทียมซึ่งนิยมกันมากให้สมัยแรกๆ คือ ซอบิโทล ซึ่งสกัดมาจากผลไม้ประเภทลูกเบอรี่

ในตอนแรกๆ น้ำตาลจากลูกเบอรี่นี้ มีประโยชน์ในการช่วยลดไขมัน และน้ำตาลในเลือดได้ แต่การผลิตค่อนข้างทำได้ยากและราคาแพง ความนิยมเพิ่มขึ้น พ่อค้าขายยาและแพทย์ประเภทหัวการค้ารุนแรง ก็ช่วยกันประดิษฐ์พวกน้ำตาลเทียมขึ้นมา

รูธ วินเตอร์ ได้เตือนไว้ว่า การใช้น้ำตาลเทียมมากๆ อาจจะเป็นผลร้ายไปทำลายระบบต่างๆ ของร่างกายให้เสียไปได้ แต่ตอนนั้นไม่มีใครฟัง เพราะการแก้อาการต่างๆ เช่น อาการที่เกิดจากเบาหวาน อาการเหนื่อยเพลียจากการที่น้ำหนักตัวมากนั้น แก้ได้ง่ายด้วยวิธีใช้น้ำตาลเทียม แพทย์หัวการค้าหลายคนเปิดคลินิกลดความอ้วนอย่างเดียว ก็ไม่ต้องลงทุนมาก ยิ่งตอนหลังๆ มีการผลิตน้ำตาลเทียมหลากชนิดออกมา ง่ายต่อการใช้ และง่ายต่อการจะสั่งให้เป็นยารักษา ธุรกิจเรื่องลดความอ้วน ก็เลยกลายเป็นธุรกิจ ที่ทำเงินแบบมหาเศรษฐีให้กับแพทย์ พ่อค้าและผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนักโภชนาการอีกหลายคน

แซนดี ชอว์ และเติร์ก เพียร์สัน ได้ศึกษาเรื่องนี้ต่อจาก รูธ วินเตอร์ ได้รายงานไว้ในหนังสือ "LIFE EXTENSION" ว่า ได้พบถึงอันตรายจากการใช้น้ำตาลเทียม และการใช้อาหารประเภทที่คุยว่า ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างศักดิ์สิทธิ์ว่า การใช้อย่างผิดๆ และเชื่อแพทย์การค้าเหล่านี้ อย่างไม่ลืมหูลืมตาแล้ว ผลบั้นปลายทำให้ถึงตายได้

กลุ่มแพทย์เหล่านี้ได้รายงานว่า อันตรายประการแรก คือ ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง (PERNICIOUS ANEMIA) โรคโลหิตจางมีหลายชนิด แต่ชนิด PERNICIOUS ANEMIA นี้มีผลโดยตรงจากการขาดวิตามิน B12 ที่ขาดวิตามิน B12 นี้ก็เพราะเมื่อกินอาหารประเภทน้ำตาลเทียม และอาหารชนิดลดความอ้วนแล้ว ระบบย่อยจะทำงานไม่สมบูรณ์ และวิตามิน B12 จะไม่ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในร่างกาย แต่จะถูกขับออกมาจากร่างกาย โดยที่ยังไม่ได้ไปทำประโยชน์สำคัญให้แก่ร่างกายเลย

ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของ B12 ก็คือ เป็นตัวสร้างเม็ดเลือดแดง ถ้าร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้สมบูรณ์ การเจ็บป่วยเนื่องมาจากโลหิตจางก็ไม่มีวันเกิดขึ้น

ถ้าขาด B12 นอกจากเลือดจางแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นอีก ที่ตามมาอย่างแน่นอนก็คือความอ่อนเพลีย ไม่มีแรง มีอาการเซื่องซึม

ที่เซื่องซึมนั้นก็เพราะเลือดที่ไปเลี้ยงสมองมีน้อย ระบบประสาทก็ทำงานไม่ได้เต็มที่ การสั่งงานไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายก็บกพร่อง ทำงานแบบกะปลกกะเปลี้ย เหมือนรถเครื่องดีแต่เดินไม่เต็มสูบ เพราะหัวเทียนบอด

คนที่โลหิตจาง ลองสังเกตดูซิครับว่า ร่างกายทั่วไปมันไม่ปรกติ เหมือนคนร้อนๆ หนาวๆ กระสับกระส่ายไปหมดทั้งตัว นั่นก็เพราะความรู้สึกที่เกิดจากระบบประสาท มันแปรปรวนไปหมด

ถ้ารู้สึกแบบนี้ ไม่ว่าจะไปนอนห้องสบายๆ ในโรงแรมชั้นหนึ่ง มีที่นอนนุ่มๆ แอร์เย็นเจี๊ยบ คุณก็นอนไม่หลับ นี่ก็เป็นผลจากการขาด B12

หรือถ้าหากว่ายังเป็นเด็กเป็นเล็ก ขาด B12 และโลหิตจาง เด็กนั้นก็จะไม่โต ความเจริญเติบโตทางร่างกายก็จะหยุดทันที เรื่องสมองก็จะหยุดตามไปด้วย

นี่คือความสำคัญอย่างย่อๆ ของ B12

และจากรายงานของกลุ่มแพทย์ที่กล่าวมานี้ เมื่อผ่านระยะโลหิตจางร้ายแรงมาแล้ว ก็จะถึงอาการของหัวใจและระบบเลือด หรือก็อาจจะเป็นอาการของโรคหัวใจโดยตรง

การเต้นของหัวใจจะผิดปรกติ อาการอ่อนเพลียก็จะมีมากขึ้น จะนอนแบบไม่รู้สึกตัว และถ้าถึงขั้นนั้นก็เป็นอาการร้ายแรง ถึงขั้นสุดท้ายแล้ว

B12 มาจากไหน คำตอบตรงนี้ก็คือ มาจากอาหาร

และอาหารที่สร้าง B12 ก็มาจากโปรตีนเสียเป็นส่วนมาก โปรตีนนั้นเรารู้ว่า มีได้จากพืชและจากเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เราก็จะได้โปรตีนซึ่งมีแอมิโนแอซิด ครบสมบูรณ์ (COMPLETE PROTEIN)

โปรตีนก่อนจะเป็นสารอาหาร (NUTRIENT) จะต้องแตกตัวออกเป็น AMION ACID ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 22 ตัว ในจำนวน 22 ตัวนี้ มีอยู่ 8 ตัว ซึ่งเป็นแอมิโน แอซิด สำคัญจะขาดเสียไม่ได้เป็นอันขาด

ตรงนี้แหละที่เราจะต้องมาคุยกันสักนิด เกี่ยวกับอาหารมังสวิรัติ เพราะอาหารจากพืชอย่างเดียวนั้น แอมิโน แอซิด บางตัวไม่ครบ

และโดยเหตุนี้ทางชีวจิตจึงแนะนำว่า ควรจะกินอาหารทะเลหรือปลาบ้าง สักอาทิตย์ละหนึ่งหรือสองครั้ง

ทั้งนี้ เพราะปริมาณอย่างต่ำของโปรตีน ที่ร่างกายต้องการนั้น ประมาณวันละ 45 กรัมก็พอ เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะเกินเนื้อสัตว์บ้าง เราก็กินแต่เพียงเล็กน้อย เพียงเพื่อไม่ให้ขาดแอมิโน แอซิด ตัวสำคัญๆ เท่านั้น

ถ้าหากจะแนะนำให้กินเนื้อ หมู ไก่ หรือเนื้อนมไข่ ก็เคยอธิบายให้ฟังแล้วว่า เนื้อสัตว์ใหญ่ๆ นั้น มีท็อกซินมาก เกินไป ไม่เหมาะแก่ร่างกายมนุษย์ ยิ่งผู้ที่นิยมบริโภคเนื้อมากๆ ยิ่งกินมากจนเกินไปเท่าไหร่ เช่น กินสเต็กเนื้อ มื้อละกิโล เช่นนี้ก็รังแต่จะเป็นโทษแก่ร่างกายมากขึ้นเท่านั้น

เพราะฉะนั้น อาหารทะเล (ซึ่งปลอดสารพิษ) ประมาณอาทิตย์ละ 100-200 กรัม จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดี

แต่ผมก็เห็นใจ ผู้ที่บริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด เพราะท่านเหล่านั้น มิใช่แต่บริโภคอาหารเพื่อประโยชน์ของร่างกาย อย่างเดียวเท่านั้น แต่ท่านยังบริโภค เพราะรู้สึกว่าเป็นการกุศลที่ไม่ได้เบียดเบียนชีวิตสัตว์ใหญ่ต่างๆ อีกด้วย

ความรู้สึกเช่นนี้สำคัญมาก สำหรับการดำรงชีวิตของหลายๆ ท่าน

ผมเห็นทางแก้ของนักมังสวิรัติบางท่าน ด้วยการดื่มนมเสริม หรือกินไข่ (ลม) ได้

ก็คงจะเป็นทางออกที่ดี ถ้าหากว่าท่านที่ดื่มนมไม่แพ้แลคโตสหรือน้ำตาลในนม

แต่ท่านที่ดื่มนมไม่ได้ และไข่ก็ไม่ยอมกินนั้น รู้สึกว่าจะมีทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งก็คือ ควรจะรับประทาน แอมิโน แอซิด รวม ซึ่งเขาสกัดออกมาให้เป็นเม็ดๆ แต่ควรจะเลือกยี่ห้อให้ดีๆ นะครับ สำหรับพวก MADE IN THAILAND นั้น ต้องระวังให้มาก เพราะพ่อค้าฉวยโอกาสมีมากเหลือเกิน

และก็ควรจะกิน วิตามิน B12 เสริมด้วยทุกวัน

เรื่องของ B12 และกลุ่มวิตามิน B ทั้งหมด เป็นเรื่องสำคัญพอสมควรครับ ขออนุญาตต่ออาทิตย์หน้าครับ

เชิญ...เข้าร่วมสัมมนาเรื่อง "เดี้ยงก็ต้องฟัง ไม่เดี้ยงก็ต้องฟัง" ในวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2542 นี้ เวลา 08.45-16.00 น. ณ โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค (สุขุมวิท 22) ภายในงานท่านจะได้พบกับ อ.สาทิส อินทรกำแหง น.พ.ม.ร.ว.ธันยโสภาคย์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา พร้อมนักวิจารณ์อีกหลายท่าน จะมาช่วยกันอธิบายว่า ชีวจิตคืออะไร พร้อมทั้งแนะวิธี และแนวทางในการดูแลสุขภาพ ให้กับตัวคุณเองและคนที่คุณรัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 225-3274-6 (คุณจินตนา) 434-0286 ต่อ 4500.

สาทิส อินทรกำแหง

อ่านต่อตอนที่57 วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2542


[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]

main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600