
โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
เราคุยกันอย่างเพื่อนนะครับ จับเข่าคุยกันด้วยความเห็นใจ เพราะผมเองก็เคยอ้วน น้ำหนักของผมเคยขึ้นถึง 85 กก.
ตอนนั้น ผมไม่ได้นึกถึงรูปร่างหน้าตาว่า มันจะเหมือนตัวตลกให้ใครเขาหัวเราะเยาะหรือไม่ ผมรู้แต่ว่ามันมีความสุขและความสนุก กับการดื่มและการกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาดื่มและกินกับเพื่อนฝูง
อาหารมื้อเย็นแต่ละมื้อกับเพื่อนฝูง ใช้เวลากินและดื่ม 6-8 ชั่วโมง
เลิกงานแล้วก็ไปจ่อมที่ร้านเหล้า สั่งอาหารและเครื่องดื่มมาละเลียดกัน ตั้งแต่เย็นจนดึกค่อนคืน กินกันอย่างนั้น ดื่มกันอย่างนั้น มันจะไม่อ้วนทนไหวหรือ
ผมไม่ได้คำนึงถึงความอ้วนขณะนั้น แท้ที่จริงแล้ว คนเราจะอ้วนอึดฮึดขึ้นมาทันที ในวันเดียวสองวันไม่ได้ แต่มันจะขึ้นมาทีละน้อย จาก 63 กก.ขึ้นเป็น 65 ขึ้นเป็น 70-75-80 และ 85 ในที่สุด ใช้เวลาเกือบ 2 ปี
ผมไม่ได้สนใจว่าผมกำลังจะอ้วน เพราะรู้สึกว่าผมไม่ได้เป็นอะไร ยังกิน เดิน ยืน นั่ง นอนได้ตามปรกติ
แต่พอผมเริ่มหายใจไม่ค่อยออก เดินเหินไม่ค่อยสะดวก ขึ้นกระไดไม่ไหว ปวดเนื้อปวดตัว เจ็บเข่า เจ็บแขน เจ็บหลังไหล่ ปวดไปหมดทั้งตัว
ผมจึงเริ่มรู้สึกตัวว่าร่างกายของเรา ทนต่อสภาพการกิน การดื่มอย่างนั้นไม่ได้แล้ว เรากำลังป่วย ต้องแก้ไขด่วน
จุดนี้แหละที่ผมคิดว่า เป็นจุดสำคัญสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่คิดว่า จะต้องลดความอ้วนเพราะความสวยงาม
ถ้าคุณคิดว่ารูปร่างหน้าตาคุณดูไม่สวย คุณจึงพยายามลดความอ้วน แล้วไม่ว่าคุณจะพยายามสักเท่าไหร่ คุณจะลดความอ้วนไม่สำเร็จ
คุณอดอาหารจนเป็นลมก็แล้ว กินยาลดความอ้วน ยาลดไขมัน ยาขับน้ำก็แล้ว กินเข้าไปเท่าไหร่ มันลดอ้วนได้เพียงชั่วคราว เสร็จแล้วมันก็จะอ้วนขึ้นมาอีก และมันจะอ้วนยิ่งกว่าเดิมเสียด้วย คุณก็จะรู้สึกว่าคุณอ่อนแอลงไปทุกวัน และคุณกำลังป่วย ถ้าหากว่าคุณเคราะห์ร้าย คุณจะพบว่าความอ่อนแอของคุณนั้น ทำให้คุณป่วยหนักได้ด้วย
เพราะฉะนั้น อย่าคิดแก้ความอ้วนของคุณเพราะอยากสวย แต่ขอให้คิดแก้ความเจ็บป่วยของคุณ คิดปรับสภาพร่างกายของคุณ ให้แข็งแรงสมบูรณ์เสียก่อน แล้วความสวยงามมันก็จะตามมาเอง มันจะเป็นผลพลอยได้ของความแข็งแรง และสมบูรณ์ของคุณ
กฎข้อที่หนึ่งของการลดความอ้วนของเรา คือ แก้ความเจ็บป่วย ความไม่สบายของเราเสียก่อน
แก้อาการอึดอัด อาการปวดท้อง เสียดท้อง จุกเสียดแน่น หายใจไม่ออก
แก้อาการปวดหัว ปวดเนื้อปวดตัว ปวดเข่า ปวดแขน ปวดหลัง
แก้ความดันโลหิตสูง แก้อาการมึนซึมของสมอง ฯลฯ
แก้อย่างไร แก้ด้วยเรื่องอาหาร แก้ด้วยการใช้อาหารให้เป็นยา แก้ด้วยการบริหารและออกกำลังกาย และแก้ด้วยการทำร่างกายให้หย่อนคลาย เบาเนื้อเบาตัว และแก้ด้วยสมาธิ
อาหาร สูตรอาหารชีวจิตนั้นดีมากสำหรับสุขภาพทั่วๆ ไป และดีสำหรับผู้ที่อยากจะลดความอ้วนด้วย สูตรอาหารสำหรับสุขภาพทั่วๆ ไปนั้น คาร์โบไฮเดรต หรืออาหารประเภทแป้ง (ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท มัน เผือก ฟักทอง ฯลฯ) ปริมาณ 50% ผักสดและผักสุกอย่างละครึ่ง ปริมาณ 25% โปรตีนจากพืช (ถั่วต่างๆ เต้าหู้ โปรตีนเกษตร และให้กินปลาหรืออาหารทะเลได้อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง) ปริมาณ 15% และเบ็ดเตล็ด (สาหร่ายทะเล เมล็ดพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วกินเล่น ผลไม้ที่ไม่หวาน เช่น มะละกอ ชมพู่ พุทรา) รวมแล้ว 10%
สูตรอาหารสูตรนี้ เป็นสูตรสำหรับทั่วๆ ไป แต่ถ้าอยากจะให้ได้ผลดีเร็วขึ้น ขอให้เปลี่ยนสัดส่วนประเภทอาหารดังนี้ คือข้าว เหลือ 40% ผักเพิ่มเป็น 30% และโปรตีนจากพืช เพิ่มเป็น 20% เบ็ดเตล็ดยังคงเดิม 10% อย่างเก่า
ความสำคัญของหารสูตรนี้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือผัก ขอให้เลือกผักประเภทที่มีกาก ให้มากที่สุดที่จะมากได้ ผักที่มีกากมากก็อย่างเช่น ผักบุ้ง ตำลึง คะน้า บล็อกเคอรี่ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ เห็ดชนิดต่างๆ หัวปลี
นอกจากนี้ สมุนไพรประจำสวนครัวของเราให้ถือว่า เป็นทั้งอาหารและเป็นยาไปด้วยในตัว อย่างเช่น ข่า ขิง ขมิ้น ตะไคร้ โหระพา กะเพรา แมงลัก หอม กระเทียม เหล่านี้เป็นต้น คุณเอามากินเป็นอาหารเพิ่มรสชาติก็ได้ กินเปล่าๆ ก็ได้ และถ้าคุณมีฝีมือในการปรุงอาหารอยู่บ้าง ก็เอามาปรุงเป็นยำ เป็นแกงเลียง ต้มยำ อะไรก็ได้ทั้งสิ้น เท่ากับคุณได้กินยาซึ่งเป็นอาหารเอร็ดอร่อย โดยไม่ต้องไปซื้อยาลดความอ้วนอย่างแพงๆ เลย
ที่ควรจะเสริมอีกอย่างหนึ่ง คือ น้ำเอนไซม์ ซึ่งคั้นจากผัก ควรจะคั้นน้ำจากเซลเลอรี่ หรือขึ้นฉ่าย ดื่มวันละครึ่งแก้ว และถ้าหากคุณใจแข็งหน่อย ก็ลองเอามะระจีน มาคั้นน้ำดื่มวันละครึ่งแก้ว สลับกับน้ำเซลเลอรี่ก็จะดีมากๆ
สำหรับน้ำดื่ม ก็ดื่มน้ำชาสมุนไพร คือ ชาดอกคำฝอย ชาตะไคร้ ชาลูกใต้ใบ ชากระเจี๊ยบ ดื่มสลับกันทุกวัน วันละ 2-3 แก้วก็พอ
นี่คืออาหารตามสูตร และอาหารซึ่งเป็นยาไปในตัว
คู่กันกับอาหารและขาดไม่ได้อย่างแน่นอน คือ การบริหารและออกกำลังกาย ถ้าคุณกลัวเรื่องความอ้วน ก็จำไว้เป็นสูตรง่ายๆ ว่า ถ้าเอาเข้าไปในตัวเราเท่าไหร่ ก็ต้องเอาออกมาให้ได้เท่านั้น
เอาเข้า ก็คือการกิน กินแล้วก็ต้องย่อย ย่อยแล้วก็ไปเลี้ยงร่างกาย มีการเผาผลาญเพื่อให้เป็นพลังงานสำหรับร่างกาย เมื่อเหลือเป็นกาก ก็ถ่ายออกทั้งเป็นน้ำ เป็นเหงื่อ และเป็นอุจจาระ นี่คือการเอาออก
ถ้าเข้าและออกพอดีกัน คุณก็มีสุขภาพและรูปร่างพอดี ไม่อ้วน ไม่ผอม
การทำงาน การบริหารและการออกกำลังกาย เป็นการเอาออก หรือว่าที่จริงเป็นการเผาผลาญพลังงาน ที่อยู่ในตัวเราให้ออกมา และให้เหลืออยู่ในตัวเราในระดับพอดีๆ กัน
ถ้าเอาเข้ามาก คือกินมากๆ และไม่มีการออกคือ ไม่ทำงาน ไม่ออกกำลังกาย พลังในตัวเราก็เหลือเกินความต้องการ มันจึงพอกพูน กลายเป็นต้นตอของความเจ็บไข้ได้ป่วย และพอกพูนจนกลายเป็นความอ้วน
เพราะฉะนั้น รายการนี้ขาดเรื่องการบริหารและออกกำลังกายไม่ได้ กิจกรรมด้านนี้ต้องตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะบริหารและออกกำลังกาย จนกระทั่งถึงระดับ PEAK หรือจุดสูงสุดสำหรับร่างกาย ระดับจุดสูงสุดคือ เหงื่อต้องออกโซมกาย หัวใจเต้นแรง ชีพจรขึ้นสูงนับได้ 100 หรือ 120 ต่อนาที ระดับนี้เป็นระดับสูงสุดสำหรับร่างกาย เมื่อขึ้นถึงระดับนี้ ต่อมพิทูทารีจะขับ GROWTH HORMONE ออกมา และ GROWTH HORMONE เป็นยาวิเศษสำหรับตัวเราเอง ได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องไปซื้อหา
บริหาร คือการบริหารให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายคล่องตัว กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืด ไม่หดและแข็งตัว ระบบต่างๆ ของร่างกายเริ่มทำงานได้ดี เช่น ระบบหายใจ เราจะหายใจได้เต็ม หายใจได้คล่อง มีเรี่ยวมีแรง ระบบเลือดดี การเต้นของหัวใจดี เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายได้เต็มที่
การออกกำลัง คือ การออกแรง และใช้พลังงาน จนกระทั่งร่างกายเกิดความร้อน เหงื่อหลั่งพรั่งพรู และสภาพของร่างกาย จะมีสภาพเหมือนรถยนต์ติดเครื่องและวิ่งได้เต็มที่
การบริหารและออกกำลังกาย คุณถนัดอย่างไหน แบบไหน ก็ใช้อย่างนั้น ถ้ายังไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร ก็ใช้ท่าบริหารแบบชีวจิต และรำตะบองแบบชีวจิต วันหนึ่งๆ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็พอ หรือถ้าวันไหนคุณมีเวลามาก ก็ขยายเป็นหนึ่งชั่วโมง หรือชั่วโมงครึ่งก็ได้
ท่าบริหารและออกกำลังกายแบบชีวจิตนั้น จะรวมท่าซึ่งช่วยให้ร่างกายหย่อนคลาย (RELAXATION) และมีท่าสมาธิรวมอยู่ด้วย ถ้าคุณทำได้จะช่วยให้คุณนอนหลับสบาย และเป็นการคลายเครียดได้เป็นอย่างดี
ความเครียดก็มีส่วนทำให้คุณป่วยและอ้วนได้
ทั้งหมดนี้ คุณควรจะทำโปรแกรมละเอียดของคุณไว้ล่วงหน้า ทำโปรแกรมอาหาร โปรแกรมบริหารออกกำลังกาย และทำโปรแกรมคลายเครียด และสมาธิพร้อมกันไปด้วย
ไม่ยากและไม่ต้องเสียเงินแพงๆ และอย่าไปหลงเชื่อ พวกที่เขาให้คุณกินยาลดความอ้วนเป็นอันขาด.
สาทิส อินทรกำแหง
| main | ![]() |
![]() |
|
|
![]() |
|