โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
ได้เขียนมาหลายตอนแล้วนะครับ เรื่องปวดหลัง ปวดขา ปวดเอว ซึ่งตามประวัติทำท่าจะเป็นโรคกรรมเก่า จากการที่บรรพบุรุษของเรา พยายามจะแสดงความเป็นมนุษย์ ด้วยการเดินสองขา เพราะท่าทางการเดินสองขาของเรา ผิดธรรมชาติจากลักษณะเดิม เราจึงต้องชดใช้กรรมเก่าด้วยการปวดหลัง ปวดเอวแทน
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่น่าจะสรุปได้แล้วนะครับ ว่าวิธีที่ผมแนะนำเรื่องการแก้ปวดหลังนั้นทำ ได้หลายวิธี แต่วิธีที่ดีที่สุดนั้นคือ เอาการแก้แต่ละอย่างมารวมกัน คือเริ่มตั้งแต่เราใช้อาหารตามสูตรชีวจิต ต่อด้วยการบริหารออกกำลังกาย และนวดกดจุด และจบลงด้วยการใช้วิตามินและแร่ธาตุช่วย
ผมต้องขอเรียนให้ทราบไว้ตรงนี้ว่า เราไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการไปหาแพทย์ให้ตรวจ และรักษาโดยถูกต้อง ตรงกันข้ามเราจะแนะนำตลอดเวลาว่า เมื่อรู้สึกว่ามีอาการอย่างใดขึ้นมา ก็ต้องไปหาแพทย์เสียก่อน เมื่อพบว่าแพทย์ ช่วยไม่ได้ หรือคุณต้องการจะหาวิธีทางเลือกอย่างอื่นดูบ้าง เราก็จะแนะนำให้ลองวิธีผสมผสานนี้ดู
เหตุผลอีกประการหนึ่ง ที่กล้าออกมาแนะนำก็คือ วิธีต่างๆ ที่ได้แนะนำมาแล้ว และจะแนะนำต่อไปในฉบับนี้ ไม่ใช่วิธียกเมฆ แต่เป็นวิธีทางเลือกอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งได้ศึกษาและเป็นที่รับรอง ของวงการแพทย์มาแล้วด้วย กลุ่มนายแพทย์ที่ได้ศึกษาวิธีแบบผสมผสานนี้คือ นายแพทย์ โจนาธาน ไรท์, แอล แอล ชไนเดอร์, คีธ เซเนอร์ท, โฮเอิด ไอเซนเบอร์ก โดแนวด์ นอร์ฟอล์ค และแพทย์อื่นๆ อีกกว่าสิบคน
ท่านจะหาอ่านจากรายงานของแพทย์เหล่านี้ได้ใน "DOCTOR WRIGHT' BOOK OF NUTRITIONAL THERAPY" ของ RODALE, "OLD FASHIONED HEALTH REMEDIES THAT WORK BEST" "HOW TO BE YOUR OWN DOCTO (SOMETIMES)" ฯลฯ
ที่ยกตัวอย่างการค้นคว้า และรวบรวมของแพทย์ต่างๆ เหล่านี้ เพราะเนื่องมาจากความเชื่อที่ว่า โรคนี้ไม่มีเชื้อโรค ดังเช่น โรคปวดหลังนี้ ควรจะรักษาแบบที่ยึดเอาตัวเราทั้งหมดเป็นที่ตั้ง หรืออย่างที่เราเรียกกันว่า แบบองค์รวม (HOLISTIC) ไม่ใช่รักษาแบบเน้นที่จุดใดจุดหนึ่ง
กลุ่มแพทย์ต่างๆ เหล่านี้ได้รวบรวมวิธีต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันเป็นแบบฉบับของวิธีผสมผสาน ได้แนะนำและรักษาคนไข้หลายรายได้ สำเร็จเป็นผลดีด้วยวิธีผสมผสานเช่นนี้
การเริ่มต้นด้วยการใช้อาหารเป็นวิธีเริ่มต้นที่ดีที่สุด ทั้งเรื่องสุขภาพทั่วๆ ไป และเรื่องการเจ็บป่วยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะอาหารตามสูตรชีวจิต เป็นสูตรที่ได้ค้นคว้าและทดลองแล้ว เป็นสูตรกลางๆ ซึ่งเหมาะสมกับชีวิตประจำวันของคนไทย
และผมขอยืนยันว่า ได้ศึกษาตามหลักการการแพทย์ และหลักโภชนาการทุกประการ
เราได้พูดถึงเรื่องสูตรอาหารชีวจิต มาหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่พูดถึงรายละเอียดอีก แต่ขอฝากข้อสรุปสั้นๆ ของสูตรอาหารไว้ว่า ข้าว (ซ้อมมือ) หรือถ้าชอบอาหารฝรั่งก็ควรเป็น ขนมปังโฮลวิท ปริมาณ 50% ของอาหารรวมแต่ละมื้อ ผัก 25% ของอาหารรวม โปรตีน (จากพืช) 15% และเบ็ดเตล็ดอีก 10% ควรจะตัดอาหารประเภทหวานและมัน ให้เหลือน้อยที่สุดที่จะน้อยได้
ต่อไปก็คือ เรื่องบริหารออกกำลังกาย และนวดกดจุด ซึ่งได้แนะนำไว้ในฉบับที่แล้ว
และขอเพิ่มอีกนิดหนึ่ง ในเรื่องการบริหารและออกกำลังกายนี้ นั่นก็คือ ท่านั่งและท่ายืน ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ อย่านั่งตัวงอ ขอให้นั่งตัวตรง ถ้าหากว่านั่งตัวตรงแล้วยังเจ็บหลังอยู่ ก็นั่งเก้าอี้ที่มีพนักหลัง นั่งตัวตรง และพิงพนักหลังไว้จะช่วยได้มาก และถ้ามีโอกาสให้งอเข่ายกให้สูงกว่าสะโพก งอขาซ้ายสลับกับขาขวาตลอดเวลา ถ้าต้องยืนมากๆ อย่ายืนอยู่กับที่ เปลี่ยนที่และท่ายืนบ่อยๆ ในขณะเดียวกัน ถ้าจะต้องยืนนานๆ ก็หาที่ซึ่งคุณจะยืนยกขา หรืองอเข่าได้ข้างหนึ่ง และก็งอสลับกับขาอีกข้างหนึ่ง สลับกันอย่างนั้นบ่อยๆ ก็จะช่วยไม่ให้หลังของคุณ ต้องเกร็งหรือแข็งเกินไป จะช่วยบรรเทาอาการปวดของคุณได้ดีขึ้น
อีกท่าหนึ่ง ถ้านั่งเก้าอี้นานๆ ให้ลองก้มหัวคุณให้ตํ่าลง จนอยู่ระหว่างหัวเข่า ต่อจากนั้นแขม่วกล้ามเนื้อท้อง และค่อยๆ ยืดตัวขึ้นตามเดิม
มีท่านวดและกดจุดแบบจีน ซึ่งจะช่วยให้หย่อนคลายและบรรเทาการปวดได้ คือใช้นิ้วหัวแม่มือกดใต้คิ้วทั้งสอง รีดจากปลายคิ้วเข้ามาหาดั้งจมูก แล้วรีดกลับจากดั้งจมูกไปถึงปลายคิ้ว ทำสลับกันไปมาสัก 10 ครั้ง
ต่อไปก็ถึงเรื่องของวิตามินและแร่ธาตุ แพทย์ที่ได้ระบุนามมาแล้ว จะแนะนำรายการวิตามิน ต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ที่เหมือนกันทุกคนก็คือ วิตามินซี และ วิตามินอี
วิตามินซี ที่แนะนำนั้นส่วนมาก แนะนำ มื้อละ 1,000 มก. ซึ่งส่วนมากจะเป็นเม็ดมาตรฐาน เม็ดละ 1,000 มก. อยู่แล้ว ให้กินมื้อละ 1 เม็ด 3 มื้อ
วิตามินอี จะให้กินมื้อละ 400 IU 3 มื้อ
สำหรับนายแพทย์ไรท์ จะแนะนำให้กิน วิตามินบี 3 และ วิตามินดี ควบไปด้วยวันละ 3 มื้อเช่นกัน
ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรขาดแร่ธาตุด้วย แร่ธาตุที่แนะนำคือ แมงกานีส แคลเซียม และ แมกนีเซียม กินอย่างละเม็ด วันละมื้อก็พอแล้ว
จะเห็นว่าทั้งหมดนี้ เป็นรายการซึ่งจะปฏิบัติง่ายๆ ด้วยตนเอง กลุ่มนายแพทย์เหล่านี้ โดยเฉพาะโจนาธาน ไรท์ จะเน้นว่า เรื่องการปวดหลังนั้น แพทย์หลายท่านเมื่อตรวจอย่างละเอียด แล้วมักจะหาสาเหตุไม่เจอ และก็จะสรุปว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อหลังอ่อนแอ จึงปวดหลัง อย่างที่เรียกว่า "BAD BACK" ตัวนายแพทย์ไรท์เอง ก็เคยได้รับการวินิจฉัยอย่างนี้ เมื่อเป็นโรคปวดหลัง
แต่เมื่อนายแพทย์ไรท์ได้มาศึกษา และหาวิธีแก้ด้วยตนเอง เขาจึงได้พบว่าการปวดหลังนั้น มักจะผสมกับการปวดขาด้วย (LUMBAGO และ SCIATICA)
LUMBAGO คือการปวดส่วนกลางและส่วนล่างของหลัง SCIATICA จะปวดทั้งหลังและขาทั้งสองข้าง ซึ่งสาเหตุข้อหลัง เนื่องมาจากประสาท SCIATIC อักเสบประกอบกันด้วย
จากการพบสาเหตุเหล่านี้เอง นายแพทย์ไรท์จึงได้ศึกษาถึง ความบกพร่องของกระดูกสันหลัง และสาเหตุของประสาทอักเสบ เขาได้พบว่าอาหารและวิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของอาหารนั่นเองเป็นสาเหตุ
เมื่อเอาอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ มาประกอบกับการบริหาร และออกกำลังกาย ก็ปรากฏว่า เขาหายขาดจากโรคปวดหลัง คนไข้ของเขาก็เช่นกัน
วิธีผสมผสานดูจะเป็นวิธีดีที่สุด.
สาทิส อินทรกำแหง
| main |  |
 |
 |
 |
 |
 |
 |