โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
คนไข้ที่มีอาการของ HYPOGLYCEMIA ซึ่งมีอยู่ถึง 40 อาการดังกล่าว ที่ระบุไว้ในฉบับที่แล้วนั้น เมื่อไปตรวจกับนายแพทย์หลายท่าน มักจะได้รับคำวินิจฉัยว่า "คุณไม่ได้เป็นอะไร" หรือมิฉะนั้นก็จะบอกว่า "คุณเป็นโรคอุปาทาน" หรือ "คุณเป็นโรคประสาท" ไปโน่นเลย
นายแพทย์บิลล์ เกรย์ ซึ่งเป็นแพทย์ทั่วไป และเป็นสมาชิกของ INTERNATIONAL ACADEMY OF BIOLOGICAL MEDICINE และมีคลินิกส่วนตัวอยู่ที่ มิลล์ วอลเลย์ แคลิฟอร์เนีย ก็ได้พบเห็นคนไข้หลายคน ที่เมื่อมีอาการทาง HYPOGLYCEMIA ไปพบกับแพทย์ และมักจะได้รับคำตอบว่า ป่วยเป็นโรคอุปาทาน
คนไข้เหล่านั้นไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นทนทุกข์ทรมานกับอาการเหล่านี้ เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งมาพบกับแพทย์ ซึ่งคุ้นเคยกับโรคนี้เป็นอย่างดี เมื่อได้รับการรักษาในระยะเวลาอันสั้น ก็หายจาก HYPOGLYCEMIA หรือน้ำตาลในเลือดต่ำอย่างรวดเร็ว
เคราะห์ดีที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำตาลในเลือดต่ำ อย่างมากมายในขณะนี้ คนไข้เหล่านี้จึงโชคดีที่ไม่ต้องทนทุกข์ ทรมานกับโรคน้ำตาลในเลือดต่ำอีกต่อไป (ท่านที่ยังไม่ทราบว่า าการน้ำตาลในเลือดต่ำมีอย่างไรบ้าง กรุณาย้อนไปอ่านราย ละเอียดเกี่ยวกับอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งมีอยู่ถึง 40 อาการ ในไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ที่แล้วอีกครั้งหนึ่ง)
เพื่อนของนายแพทย์บิลล์ เกรย์ คนหนึ่งเป็นแพทย์ทางด้านโภชนาบำบัด และเป็นผู้ที่เข้มแข็งอยู่แนวหน้าของวงการแพทย์ ที่รักษาโรค HYPOGLYCEMIA หรือน้ำตาลในเลือดต่ำนี้ เมื่อทราบว่า เพื่อนผู้นี้กำลังรวบรวมหนังสือ และรายงานเกี่ยวกับ HYPOGLYCEMIA เขาก็ขอให้คนไข้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไข้ของเขาเอง และเคยเป็นคนไข้ของเพื่อนผู้นี้ด้วย เขียนรายงานการเจ็บป่วย และส่งไปให้เพื่อนของเขาเพื่อเก็บรวบรวมไว้ในรายงาน
คนไข้ผู้นี้ (ชื่อย่อ อาร์. เอ.) รายงานมาว่า เขาเป็นโรคน้ำตาลในเลือดต่ำ ตั้งแต่เรียนอยู่ปีสุดท้ายในโรงเรียนมัธยม เขารายงานว่า การเรียนของเขาตกต่ำมาตลอด เพราะไม่สามารถจะบังคับใจและสมอง ให้คร่ำเคร่งอยู่กับการเรียนได้ เขาปวดหัวอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกสมองมึนงงและสับสนไปหมด
ในตอนปลายปี เขาสอบตกเพราะในสมองเขาซึมเซา และสับสน จนกระทั่งเรียนไม่รู้เรื่องและสอบไม่ได้ เขากลายเป็นเด็กเกเร อาละวาดในโรงเรียน ทำลายห้องเรียนและเครื่องใช้ไม้สอย จนกระทั่งถูกตำรวจจับและฟ้องศาล ติดคุกอยู่ชั่วระยะหนึ่ง
พ่อแม่ของเขาได้ขอประกันตัวลูกออกมา โดยให้แพทย์ประจำครอบครัวรับรองว่า ตัวเขาป่วยเป็นโรคจิต แต่เขาต้องเข้ารับการรักษาตัว ในโรงพยาบาลประสาท เมื่อรู้สึกดีขึ้นเขาก็ออกจากโรงพยาบาล และเข้าเรียนต่อในวิทยาลัย แต่ก็เรียนไม่สำเร็จ เพราะเขาติดยาเสพย์ติด ดื่มเหล้าจัด และผลสุดท้าย ก็ต้องออกจากวิทยาลัยกลางคัน เรียนไม่จบอีกตามเคย
ขณะนั้นเขาอายุ 26 ปี เขาพยายามเลิกยาเสพย์ติด แต่ก็น้ำหนักลดลง ขณะนั้นเขากิน แต่อาหารประเภทจานด่วน อาหารหลักคือ ไอศกรีม โดนัท น้ำอัดลม ขนมหวาน มันฝรั่งทอดกรอบ และนานๆ จึงจะกินแฮมเบอร์เกอร์
ต่อมาเขาก็ประพฤติตัวเกเรเร่ร่อน ถูกตำรวจจับและติด อยู่ในคุกประมาณหนึ่งปี เมื่อออกมาบิดามารดา ได้พาเขาไปหานายแพทย์บิลล์ เกรย์ และเพื่อน คือนายแพทย์ไอโรร่า ซึ่งเป็นแพทย์เชี่ยวชายทาง โรคน้ำตาลในเลือดต่ำ เขารายงานว่าการพบกับแพทย์ทั้งสอง ได้ช่วยชีวิตของเขาไว้ และได้ให้ชีวิตใหม่แก่เขา เพราะแพทย์ทั้งสองคนเริ่มต้น ด้วยการสำรวจอาหาร และการกินแบบเก่าของเขา ได้สั่งให้เขาตรวจเลือดแบบ GLUCOSE TOLERANCE TEST และได้พบว่าเขาเป็นโรคน้ำตาลในเลือดต่ำอย่างแรง และโดยเหตุที่บิดามารดาของเขา ต้องทำงานอยู่ต่างประเทศในเยอรมนี นายแพทย์บิลล์ เกรย์ จึงสิ่งให้เขาไปรักษา ที่คลินิกของนายแพทย์บูชิงเกอร์ ในเยอรมนี
นายแพทย์บูชิงเกอร์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน HYPOGLYCEMIA คนหนึ่งของเยอรมัน และได้รับเริ่มรักษา โดยการเปลี่ยนอาหาร และวิธีการกินแบบเก่าทั้งหมด เริ่มแรกนายแพทย์บูชิงเกอร์ ให้เขากินผักและผลไม้อย่างเดียว เป็นเวลาสามอาทิตย์ ต่อจากนั้นจึงกินอาหารตามสูตร ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับอาหาร ของนายแพทย์บิลล์ เกรย์ และไอโรร่า (และเป็นสูตรทำนองเดียวกับของชีวจิตด้วย)
หลังจากนั้นเขาได้กลับไปอเมริกา และได้กินอาหารตามสูตรเดิมอย่างเคร่งครัด อาการเดิมของเขาหายขาด และเขารู้สึกเหมือนคนเกิดใหม่
เขาจึงเขียนรายงานมา เพื่อให้นายแพทย์ทั้งสองบันทึกไว้ และเพื่อให้เป็นหลักฐาน และให้เป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นต่อไป
เราจะสังเกตได้ชัดว่า ทั้งกลุ่มนายแพทย์ในอเมริกาและเยอรมนี จะสำรวจและศึกษาในเรื่องอาหาร (DIET) ของคนไข้ก่อนว่ามีผิดพลาดอะไรบ้าง เมื่อพบข้อผิดพลาดแล้ว ก็จัดสูตรอาหารใหม่ให้ และเพียงแค่นั้นก็ปรากฏผลว่า การรักษา HYPOGLYCEMIA ได้ผลดี
คนไข้ชื่อ เอ. อาร์.นี้ได้เขียนไว้ในรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่เขาจะมารักษา กับนายแพทย์ทั้งสองคนนี้ นายแพทย์เก่าๆ ไม่เคยถามเขา หรือสนใจเรื่องอาหารที่เขากินแม้แต่คนเดียว
ถ้าเราดูรายงานของคนไข้ผู้นี้ ก็จะเห็นว่า รายการอาหารที่เขากินเป็นประจำก็คือ อาหารยอดนิยม ของเด็กวัยรุ่นของไทยในขณะนี้ คือ ไอศกรีม น้ำอัดลม โดนัท และขนมหวานต่างๆ รวมทั้งอาหารประเภทจานด่วน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก ด้วย
คนไข้ผู้นี้ได้ชี้ให้เห็นว่า แพทย์ในโรงพยาบาลโรคจิตได้วินิจฉัยว่า เขาเป็นโรคจิตประเภท (SCHIZOPHRENIA) และเขาได้บอกว่า ในขณะนั้นอาหารสุดโปรดของเขาก็คือ อาหารประเภทจานด่วน รวมทั้งพวกไอศกรีม น้ำอัดลม โดนัท และขนมหวานต่างๆ ด้วย
คนไข้ได้รายงานต่อไปว่า เมื่อกินอาหารประเภทหวานมันเหล่านั้น เขารู้สึกว่าก้าวร้าว อยากทะเลาะวิวาท ตีรันฟันแทง และอยากจะอาละวาดอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเขาเลิกอาหารแบบเก่า และหันมากินอาหาร ตามสูตรของแพทย์ทาง HYPOGLYCEMIA ก็หายเป็นปลิดทิ้ง และเขากลับกลายเป็นคนใหม่ มีนิสัยสุภาพและสามารถควบคุมสติ และจิตใจของเขาได้ เขาไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้ง และกลับเป็นคนที่รักสงบ และชอบอยู่เงียบๆ
แต่ก็ต้องนับว่า เอ. อาร์. โชคดีเป็นอย่างมาก ที่สามารถหายจากโรค HYPOGLYCEMIA นี้ได้ และโชคดียิ่งขึ้นไปอีก ที่อาการเขาไม่ได้มากมายถึง 40 อาการดังที่ระบุไว้ในไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ที่แล้ว
อาการสำคัญหลายๆ อย่างนั้นจะทำให้ เขารู้สึกเหมือนดังนายแพทย์รอสส์ ที่กล่าวไว้ว่า "โรคนี้ไม่ทำให้คุณตายหรอก แต่มันจะทำให้คุณรู้สึกอยากตาย"
ที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เช่น การปวดหลัง ปวดเอว ปวดตัวอย่างรุนแรงนั้น จะทำให้กระทบกระเทือน ไปถึงการทำงานของสมองส่วนที่สำคัญที่สุด คือ ไฮโปทาลามัส และจากไฮโปทาลามัสก็จะไปถึงภูมิชีวิตต่ำ และจะทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
ทั้งหมดนี้จะเกิดตามๆ กันเหมือนห่วงลูกโซ่ และการเกิดของลูกโซ่นี้ ห่วงแรกของมันก็คือ การกินผิด
กินผิดอย่างเดียวสามารถจะทำให้ป่วน จนรู้สึกอยากตายได้ด้วยประการฉะนี้
ยังไม่จบครับ ขอต่อเรื่องวิธีรักษาอีกนิดหนึ่ง.
สาทิส อินทรกำแหง
| main |  |
 |
 |
 |
 |
 |
 |