มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

chivajit alternative medicine

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


68 ป่วยด้วยโรคน้ำตาลในเลือดต่ำคงต้องรอนานหน่อยกว่าจะหาหมอได้ [3]

พราะอะไรหรือครับ เพราะแพทย์เมืองไทย ยังไม่ยอมรับว่าโรคนี้มีจริงบางท่านสนใจ แต่ก็ไม่ยอมศึกษาว่าโรคนี้คืออะไรแน่ และจะรักษากันอย่างไร

เรื่องนี้ก็คงเป็นธรรมดา เมื่อมีโรคใดโรคหนึ่งโผล่ขึ้นมา ในลักษณะนอกระบบท่านที่ยึดติดมั่นอยู่กับตำราและทฤษฎี มักจะไม่กล้าขยับตัว ไม่กล้าออกนอกตำราและระบบกลัวว่าจะกลายเป็น "หมอนอกคอก" ในสายตาของแพทย์ด้วยกัน

ในอเมริกาก็เหมือนกัน กว่าจะเป็นที่ยอมรับกันได้ว่า HYPOGLYCEMIA หรือโรคนํ้าตาลในเลือดตํ่ามีจริงหมอที่ค้นคว้าในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะตัวเองป่วยเป็นโรคนี้ก็เคราะห์ร้าย"แกว่ง" อยู่หลายปี ไม่มีใครยอมรับว่าเขาป่วย ไม่มีใครรักษาให้เขา และเขาก็มีอาการหนักขึ้นๆจนถึงเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

เขาคือนายแพทย์สตีเฟน ไกแลนด์ จากมลรัฐฟลอริดา ซึ่งป่วยด้วยโรคนํ้าตาลในเลือดตํ่าสมัยเมื่อ 40 ปีก่อน เขาไม่รู้ด้วยซํ้าว่าเขาเป็นโรคอะไร เขารู้แต่ว่าเขาอ่อนเพลียจนลุกไม่ขึ้นเดินไม่ได้ นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม ทั้งหมดนี้เป็นแต่เพียงอาการ แต่ทั้งๆที่เขาเป็นแพทย์ เขาใช้ความรู้ทางแพทย์สุดตัวและสุดหัวใจ แต่ความรู้ทั้งหมดก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่าอาการต่างๆ ทั้งหมดนั้น มีสาเหตุมาจากอะไร

และนั่นคือการป่วยที่เพื่อนแพทย์ทุกคนบอกกับเขาว่า เป็นโรคอุปาทาน เพื่อนที่สนิทกันหน่อยจะบอกล้อๆว่า เขาท่าจะเป็นโรคจิตเสียแล้ว ไม่มีใครสักคนที่จะเข้าใจและเห็นใจว่า เขาอยู่ในสภาพคนเจ็บหนักและเกือบใกล้ตายอยู่แล้ว

เขาโชคดีที่ค้นพบโรค และวิธีรักษาจากรายงานของอาจารย์ของเขา ซีล ฮาร์ริสซึ่งเขียนรายงานไว้ในวารสารการแพทย์ เมื่อปี 1924 หรือประมาณ 75 ปีมาแล้ว

และเมื่อค้นพบว่าเป็นโรคอะไร และรักษาอย่างไรแล้ว แพทย์อีกกลุ่มใหญ่ก็หันมาสนใจHYPOGLYCEMIA อย่างจริงจัง และได้พบว่าขณะนั้น อเมริกามีคนป่วยด้วยโรคนี้ถึง20 ล้านคนแล้ว

นายแพทย์เจคอบ ไตเทิ้ลบอม จากแอนนาโปลีส มารี่แลนด์ เป็นแพทย์อีกคนหนึ่งที่ป่วยด้วยHYPOGLYCEMIA หรือนํ้าตาลในเลือดตํ่า เขาโชคดีกว่านายแพทย์ไกแลนด์ เพราะขณะที่เขาป่วยนั้นโรคนี้เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว แต่กระนั้นก็ตามที แม้จะรู้วิธีรักษา แต่ก็ต้องใช้เวลานานถึงหนึ่งปีกว่าจะรักษาโรคของเขาให้หายได้

นั่นก็เพราะเขาเกิดในสมัยหลัง นายแพทย์ไกแลนด์ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนรุ่นหลังอย่างไตเทิ้ลบอมกลายเป็นชีวิตของคนสมัยใหม่เต็มตัว วัตถุนิยมกลายเป็นเป้าหมายในการดำรงชีวิตการแก่งแย่งชิงดี ความรีบร้อน และยุ่งเหยิงในชีวิตประจำวัน ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความเครียดและบีบคั้นโรคนํ้าตาลในเลือดตํ่า จากการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และปวดเนื้อปวดตัว ได้กลายเป็นโรคที่สลับซับซ้อนและมีอาการแปลกๆ มากมายถึง 40 อาการ ดังที่ได้ระบุไว้แล้วในไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์สองอาทิตย์ที่แล้วมา

ถ้าท่านผู้อ่านไม่ได้เก็บไทยรัฐ อาทิตย์ที่ลงอาการต่างๆ ของ HYPOGLYCEMIAไว้ก็ไม่เป็นไร แต่จำง่ายๆ ไว้ก็ได้ว่า อาการทุกอย่างที่เป็นอาการของโรคต่างๆอื่นๆ นั้น จะปรากฏอยู่ในอาการรวม 40 อาการของ HYPOGLYCEMIA นี้หมด

แต่ความแตกต่างระหว่างอาการของโรคอื่นๆ และจาก HYPOGLYCEMIA นี้มีต่างกันอยู่อย่างหนึ่งคืออาการจากโรคอื่นๆ นั้นเรารู้สาเหตุ แต่อาการอย่างเดียวกันซึ่งเกิดจาก HYPOGLYCEMIAนั้น เราจะหาสาเหตุไม่ได้

อย่างเช่น อาการหัวใจเต้นผิดปรกติของบางคนนั้น เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดแล้วเราจะรู้ว่าสาเหตุมาจากโรคหัวใจ แต่หัวใจเต้นผิดปรกติของ HYPOGLYCEMIA ตรวจดูเท่าไหร่ละเอียดเท่าไหร่ก็จะหาสาเหตุไม่ได้

โดยเหตุนี้แหละ เมื่อไปหาแพทย์หลายคน ซึ่งมักจะได้รับคำตอบว่า "ตรวจร่างกายละเอียดแล้วคุณสมบูรณ์ทุกอย่างคุณคงจะเป็นโรคอุปาทานมากกว่า"

นายแพทย์ไตเทิ้ลบอม คงจะเข้าใจความรู้สึกของคนไข้เป็นอย่างดี เขาจึงเตือนเพื่อนนายแพทย์ด้วยกันว่าอย่าด่วนตัดสินใจว่าคนไข้เป็นโรคอุปาทาน จนกว่าคุณจะทดสอบคนไข้ด้วย G.T.T.หรือ GLUCOSE TOLERANCE TEST เพราะการตรวจเช่นนี้ ถ้าพบว่านํ้าตาลในเลือดขึ้นๆลงๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อทำเป็นกราฟก็จะเห็นว่า เส้นกราฟของนํ้าตาลในเลือดขึ้นลงเป็นรูปภูเขาแล้วคนไข้ก็เป็นโรค HYPOGLYCEMIA แน่

แสดงว่าจะรู้แน่นอนว่าเป็น HYPOGLYCEMIA แน่นอนก็ต้องเจาะเลือดดูติดต่อกันเกือบทั้งวันจึงจะรู้แน่ว่าเป็น HYPOGLYCEMIA หรือจะเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า CHRONIC FATIGUESYNDROME หรือ CFS ก็ได้

เรื่องอาการเหนื่อยเพลียนี้ นายแพทย์ไตเทิ้ลบอม ได้อธิบายง่ายๆ ว่า ให้เปรียบเทียบการที่คุณไปวิ่งมาราธอน60 กม.ดู ถ้าคุณวิ่งมาราธอนเสร็จ คุณก็หมดแรงนอนหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ตื่นขึ้นมาคุณก็มีแรงการเหนื่อยและเพลียอย่างนั้น เป็นการเหนื่อยตามธรรมดาของคนออกแรง เมื่อได้พักแล้วคุณก็จะมีแรงขึ้น

แต่การเหนื่อย เพลียแบบ HYPOGLYCEMIA นี้ ไม่มีสาเหตุ คุณไม่ได้ไปออกแรงไม่ได้วิ่ง ไม่ได้ทำงานหนัก แต่คุณก็เหนื่อยเปลี้ยเพลียแรงอยู่ตลอดเวลา ตื่นเช้าขึ้นมาทั้งๆ ที่ได้นอนมาแล้ว 7-8 ชั่วโมง แต่คุณก็ไม่มีแรง ลุกไม่ได้ คุณกินอาหารบำรุงก็แล้วฉีดยาบำรุงกี่เข็มต่อกี่เข็มก็แล้ว แต่คุณก็ยังไม่มีแรงอยู่นั่นเอง

นี่คือความแตกต่างของการเหนื่อย การเพลียอย่างมีสาเหตุ และอย่างไม่มีสาเหตุซึ่งเป็นเพราะ HYPOGLYCEMIA

มาถึงการนอนไม่หลับ ซึ่งเป็นอาการสำคัญอีกอย่างหนึ่งของ HYPOGLYCEMIAซึ่งถ้าพยายามหาสาเหตุเพียงไร ก็จะหาไม่พบและทำให้งงงันอยู่ตลอดเวลา

ปรกติถ้าคนที่ไม่เป็นอะไร ทำงานหนักๆ หรือออกแรงมากๆ เขาก็จะง่วงนอน เมื่อนอนก็หลับทันทีและเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะมีแรง

แต่การนอนไม่หลับของ HYPOGLYCEMIA นั้น แรกๆ เจ้าตัวอาจจะนึกว่าตัวนอนหลับสนิทแต่ในไม่ช้าเขาจะรู้ตัวว่า เขาตื่นขึ้นคืนหนึ่งๆ หลายครั้ง และบางครั้งเขาจะต้องเข้าห้องนํ้าถ่ายปัสสาวะคืนหนึ่งหลายๆ ครั้ง เมื่อเขานอนต่อไปจนถึงรุ่งเช้า ถึงเวลาไปทำงาน เขาจะลุกไม่ไหวยิ่งแข็งใจตื่นมากเท่าไหร่ เขาก็จะงัวเงีย และหมดแรงมากเท่านั้น

ไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุว่า เขานอนไม่หลับเพราะอะไร ก็จะหาสาเหตุไม่เจอ และเมื่อแพทย์พยายามช่วยเขาด้วยการจ่ายยานอนหลับให้ เขาก็จะพบว่าอาการของเขากลับเลวร้ายไปใหญ่ เขาจะนอนหลับเหมือนคนเมาคือ สมองของเขาจะมึนซึมเหมือนคนเมาเหล้า และถึงแม้จะหลับไปได้ แต่จะตื่นไม่ได้และอาการของเขาก็จะเป็นมากขึ้น จนกลายเป็นโรคประสาทเรื้อรังไปเลย

อาการต่างๆ เหล่านี้ ผสมกันหลายอย่างก็จะต่อๆ ไปให้เกิดอาการแปลกๆ มากขึ้นอาการตอนแรกๆ ก็คือ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดตัว ปวดศีรษะ ระบบขับถ่ายทั้งหนักทั้งเบารวนเรไปหมด

และอาการต่างๆ ก็จะมากขึ้นจนถึง 40 อาการดังกล่าวมาแล้ว ที่สำคัญก็คือ ไม่ใช่อาการทางกายแต่อย่างเดียวแต่จะมีอาการทางจิตด้วย เขาจะรู้สึกเบื่อหน่าย ซึมเศร้า อาจจะถึงคิดฆ่าตัวตายก็มี

และนี่แหละ คือโรคที่นายแพทย์ฮาร์เวย์ รอสส์ เพื่อนคนหนึ่งของนายแพทย์ไกแลนด์กล่าวไว้ว่า "โรคนี้ไม่ทำให้คุณตายหรอก แต่มันจะทำให้คุณอยากตาย".

สาทิส อินทรกำแหง

อ่านต่อตอนที่69 วันพุธที่ 29 ธันวามคม 2542

[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]

main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600