
โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
70 ตะบองเพื่อชีวิต
การเข้าค่ายสปาร์ตันของชีวจิต �ผ่านไปแล้วด้วยดี� ผลหรือครับ �จากการวัดผล ซึ่งสมาชิกตอบมาปรากฏว่าพอใจมาก
แต่จากการสังเกตการณ์ของผมเอง �ผมว่าสมาชิกโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกรุงเทพฯ ของเรา ความสมบูรณ์ทางสุขภาพอยู่ในระดับต่ำ� และความอดทนสมบุกสมบันยิ่งต่ำยิ่งขึ้นไปอีก
การจัดค่ายสปาร์ตันคราวนี้�� ผู้จัดการจากนิตยสารชีวจิต ตั้งคำขวัญไว้ง่ายๆ ว่า� "โหด-เฮ้ว-ฮา"
ที่ว่า� "โหด" ��นั้น มีนิดเดียว�คือตื่นตีสี่� แล้วก็ออกเดินและวิ่ง เป็นระยะทางไปกลับ 8 กม. วันสุดท้ายเราเดินและวิ่งขึ้นเขาไปกลับ 20 กม. �และในตอนเช้าทุกเช้า มารำตะบอง�ออกกำลังกาย และบริหารร่างกายเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
นี่คือรายการโหด ซึ่งถ้าในสายตาและความเห็นของผม �เป็นเรื่องไม่โหดเลย ตรงกันข้ามเป็นเรื่องเบามาก แต่สำหรับคนกรุงเทพฯ �ผู้ที่ไม่เคยตื่นเช้า� และร่างกายสุขภาพไม่ค่อยจะฟิต� มักจะทำหน้าเบ้สู้ไม่ไหว� ทั้งๆ ที่ก่อนจะมาก่อนจะถูกคัดเลือก� ก็ได้สัญญากันแล้วว่าจะสู้ทุกคน
แต่กระนั้นก็ตามที� เมื่อทุกคนถูกผมบังคับ (ไม่ทราบว่าผมถูกแช่งไปมากหรือเปล่า) ทุกคนก็เริ่มจะเปลี่ยนนิสัยได้�เกือบจะทุกคน บอกว่าดีใจมาก ที่ได้มาเข้าคอร์ส� เพราะสุขภาพดีขึ้นทัน ตาเห็น และได้เข้าใจถึงวิถีชีวิตที่เป็นไปตามธรรมชาติ และมีความพอดีนั้น ทำให้สุขภาพดีขึ้น และชีวิตมีความสุขขึ้นได้อย่างไร
แต่จุดสำคัญที่สุดก็คือ เขาทุกคนจะต้องมีวิธีการปฏิบัติเหล่านี้ ไปปฏิบัติอย่างอื่นอีกหลายอย่าง คือเรื่องอาหารสุขภาพ เรื่องการทำดีท็อกซ์ เรื่อง RELAXATION และสมาธิ�การใช้สมุนไพรใกล้ตัวง่ายๆ เพื่อช่วยระบบต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น
และข้อสำคัญก็คือ การปรับระบบชีวิตประจำวันการกิน นอน พักผ่อน ทำงาน�และออกกำลังกายให้ดีขึ้น ให้มีความพอดี� ที่สำคัญที่สุดก็คือ �เมื่อชีวิตประจำวันมีความพอดีแล้ว �เกิดความสบายกายสบายใจ แล้วก็ต้องรู้จักคิดในทางบวกตลอดไป นั่นก็คือการแก้ความเครียดที่ดีที่สุด
การปฏิบัติเช่นนี้ �เมื่อปฏิบัติในชั่วเวลาเพียง 4-5 วัน �แล้วก็เลิกปฏิบัติ� กลับไปใช้ชีวิตแบบเก่า �ก็เป็นอันเลิกพูดกันได้ ว่าคุณจะมีชีวิตที่สุขทั้งกายและใจได้อย่างไร� ไม่มีทางครับ
ที่ผมประทับใจมากที่สุด ในการจัดเข้าค่ายคราวนี้คือ สมาชิกสูงอายุผู้หนึ่ง ชื่อ คุณอุดม ไวศยดำรง อายุ 60 ปี จากจังหวัดราชบุรี
คุณอุดมมีอาการของความดันโลหิตสูงเป็นประจำ และก่อนหน้าที่จะมาเข้าค่ายประมาณสองอาทิตย์ เกิดอาการเส้นเลือดฝอยในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ ร่างกายซีกหนึ่งชาเดินไม่ได้ หน้าตาบูดเบี้ยวพูดไม่ชัด
คุณอุดมไม่ได้บอกเรื่องอาการป่วยนี้ ให้ผมทราบล่วงหน้า คงจะกลัวว่าจะถูกห้ามไม่ให้มาค่ายคราวนี้
วันสุดท้าย ที่เราขึ้นเขาระยะทางไปกลับ 20 กม.นั้น ผมเห็นคุณอุดมเดินเร็ว จนเกือบจะวิ่งนำหน้ากลุ่มสมาชิกทั้งหมด และทิ้งระยะของกลุ่มนำหน้าเกือบ 2 กม.
ผมเห็นความตั้งใจของคุณอุดมแล้ว เกิดความประทับใจ เพราะคนอายุ 60 แล้ว ยังเดินนำหน้ากลุ่มได้อย่างนี้ น่าแปลกใจมาก จึงได้สัมภาษณ์กันอย่างละเอียด จึงได้ทราบว่า คุณอุดมป่วยเป็นเส้นโลหิตฝอยแตก เป็นอัมพฤกษ์มาก่อน
ตอนนั้นคุณอุดมรู้สึกตกใจ กับอาการป่วยของตัวเอง แต่ไม่ได้ท้อแท้ กลับคิดอย่างเดียวว่า จะต้องเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บของตัวเองให้ได้
วิธีสู้ด้วยตัวเองก็คือ ไม่ยอมอยู่นิ่ง พยายามขยับตัวเดินเกาะฝา พอเริ่มเดินได้ก็ใช้วิธีออกกำลังกาย ตามแบบชีวจิต ซึ่งคุณอุดมฝึกอยู่เป็นประจำก่อนหน้านี้แล้ว และในเรื่องการกินอาหาร ก็กินตามสูตรชีวจิตมาก่อน ชีวิตประจำวันก็ตามแบบชีวจิต และได้ใช้การปฏิบัติตัว มาเป็นเวลาเกือบปีก่อนหน้าจะมาเข้าค่าย ความดันโลหิตสูงก็ลดลงมาเป็นลำดับ แต่อาการที่เส้นเลือดฝอยแตกนั้น เป็นเพราะการปฏิบัติตัวสมัยก่อนๆ นั้นทำไม่ถูก กินอาหารผิดๆ และปฏิบัติตัวผิดๆ มาเป็นเวลานาน
คุณอุดมเน้นว่า ที่หายจากอัมพฤกษ์ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว���� และสามารถมาเดินนำกลุ่มขึ้นเขาได้นี้ เพราะการรำตะบอง
ผมก็แปลกใจ ถามว่าเป็นไปได้อย่างไร คุณอุดมบอกว่า ได้ฝึกรำตะบองมาเกือบหนึ่งปี และได้ใช้ตะบองนวด ตามที่ได้แนะนำไว้ในหนังสือชีวจิตด้วย และตอนที่ฟื้นจากอัมพฤกษ์ คุณอุดมก็ดีขึ้นๆ ทันตาเห็น เพราะเข้มงวดกับการรำตะบองมากขึ้น โดย เฉพาะท่าเหวี่ยงนั้น ทำให้กระดูกสันหลังทำงานดีขึ้น เคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น เดินได้ดีขึ้น
และเมื่อมีมานะบริหารอย่างเข้มงวด กินอาหารและพยายามจัดช่วงชีวิตประจำวัน ตามสูตรในหนังสืออย่างเคร่งครัด คุณอุดมก็แข็งแรงเป็นปรกติอย่างน่าอัศจรรย์
จากเรื่องตะบองของคุณอุดมนี้เอง ผมก็เลยนึกขึ้นว่าที่จะจัดคอร์สเรื่องออกกำลังกาย -บริหารนวดกดจุดนั้น เราได้ผัดมานานแล้ว
ตกลงเราจะจัดเรื่องออกกำลังกาย-บริหาร-นวดกดจุดนั้น อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ในวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2543 นี้ครับ
จะไม่แต่รำตะบองอย่างเดียว แต่จะแจกเอกสารอธิบาย และสอนหลักการพื้นฐาน ของการออกกำลังกายด้วย และท่านที่มีคำถามต้องการคำอธิบายอย่างอื่น ผมจะเป็นผู้ตอบคำถามต่างๆ หล่านั้นด้วยตนเอง
พบกันวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคมนี้ ที่สนามกอล์ฟรถไฟเก่า ตรงข้ามสวนจตุจักร ด้านถนนกำแพงเพชร เวลา 06.00 น. ตรง ขอย้ำนะครับว่า 06.00 น. ตรง
โปรดนำตะบองไปด้วย จะใช้ไม้ไผ่ก็ได้ หรือใช้ท่อพีวีซี ขนาด 1 นิ้ว ความยาวเท่าส่วนสูงถึงหน้าผากหรือศีรษะของท่าน
กรุณาดูแผนที่ ที่เขียนไว้นี้ด้วยครับ.
สาทิส อินทรกำแหง
| main | ![]() |
![]() |
|
|
![]() |
|