มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

chivajit alternative medicine

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


86 ทรรศนะของรัฐมนตรีสาธารณสุข

นโยบายและการทำงาน ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งผมสนใจ และติดตามสดับตรับฟังมาตลอดเวลา เคยหวังว่าสักวันหนึ่ง จะได้เห็นนโยบายและแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งจะปฏิวัติระบบสาธารณสุข เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทย อย่างแท้จริงเสียที

แต่เชื่อไหมครับ เวลาผ่านไปหลายสิบปี รัฐมนตรีสาธารณสุขเปลี่ยนไปแล้วหลายสิบคน ผมยังไม่เคยเห็นนโยบายใหม่ ยังไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลง แม้แต่ประการใด ยิ่งสมัยนายกฯชวน เป็นหัวหน้ารัฐบาลชุดล่าสุดนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีแต่เรื่องเสียหาย เกี่ยวข้องกับการทุจริตเรื่องเงินทอง เรื่องยา จนกระทั่งมีการสอบสวน ต้องเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีสาธารณสุขกันทั้งชุด

ผมจึงเลิกสนใจเรื่องกระทรวงสาธารณสุข จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง (20 เม.ย.) ผมไปร่วมสัมมนา "บทบาทของ NGO ในการพัฒนาสาธารณสุข" ได้ฟังคำบรรยายของรัฐมนตรีกร ทัพพะรังสี เกี่ยวกับการพัฒนาสาธารณสุขของประเทศไทย ผมเกิดความสนใจอย่างมาก อดถามตัวเองไม่ได้ว่า นี่เป็นการเริ่มต้นของการปฏิวัติ ระบบสาธารณสุขของไทย ดังที่ผมรอคอยมานานหรือเปล่า

คุณกรพูดถึงงานของกระทรวงสาธารณสุขว่า จริงๆ แล้วมีงานสำหรับคนไทยอยู่สองอย่างคือ
1. ดูแลคนดีไม่ให้ป่วย และ
2. รักษาคนป่วยให้หาย

ในข้อที่หนึ่งนั้น คุณกรบอกว่า ควรจะเป็นนโยบายหลักของกระทรวงสาธารณสุข และข้อที่สองคือ หน้าที่และความรับผิดชอบกระทรวง ผมยังไม่เคยได้ยินรัฐมนตรีคนไหน พูดถึงนโยบายและหน้าที่ความรับผิดชอบ ได้สั้นที่สุดและตรงไปตรงมาอย่างนี้

ในเรื่องดูแลคนดีไม่ให้ป่วยนั้น ว่าที่จริงคือเรื่องของคนไทยทั้งประเทศ เพราะจำนวนคนป่วยนั้น เปอร์เซ็นต์น้อยมากเมื่อเทียบกับคนดี และถ้าเรามาดูค่าใช้จ่ายเรื่องของสุขภาพ ตามการประเมินของคุณหมอประเวศ วะสี ว่าค่าใช้จ่ายถึงปีละประมาณ 300,000 ล้านบาท แล้วก็จะเห็นว่า เป็นตัวเลขสูงอย่างน่าใจหาย

ค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพปีละ 300,000 ล้าน บาทนี้ อย่าลืมว่าเป็นค่าใช้จ่าย ของกลุ่มคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ ถ้าจะมองให้ลึกลงไปอีกหน่อยก็หมายความว่า เอาเงินของคนทั้งประเทศมาจ่ายให้คนส่วนน้อย ซึ่งตามภาษาของอาจารย์ประเวศ อีกเหมือนกันคือ คนไทยยิ่งเจ็บป่วยล้มตายโดยไม่จำเป็น

และค่าใช้จ่ายมหาศาลโดยไม่จำเป็นนี้กระมัง ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยยากจน เป็นขี้ข้า IMF อยู่ขณะนี้!

เพราะฉะนั้น ถ้านโยบายเรื่อง "ดูแลคนดีไม่ให้เจ็บป่วย" ของรัฐมนตรีกร ทัพพะรังสี กลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ สุขภาพของคนไทยทั้งประเทศจะดีขึ้น คนเจ็บป่วยก็จะน้อยลง และค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพก็จะน้อยลง รายได้ของประเทศก็เพิ่มขึ้น

คนไทยจะได้เป็นอิสระเลิกเป็นขี้ข้า IMF เสียที

ที่ผมชอบใจเรื่องความคิด ของรัฐมนตรีกรอีกอย่างหนึ่งก็คือ ได้ประกาศต่อข้าราชการและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนว่า เป็นลูกน้องและผู้รับใช้คนไทย 60 ล้านคน เจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นหนี้บุญคุณของคนไทย 60 ล้านคนนี้ตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นต้องตอบแทนผู้มีบุญคุณของคนอย่างสุดชีวิต

คำพูดเช่นนี้อาจจะเป็นคำพูดสวยๆ พูดกันนานมาแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่จากสีหน้าและท่าทางของคุณกร ที่พูดในที่ประชุมวันนั้น ผมรู้สึกว่าคุณกรจะเอาจริง เพราะที่เห็นมาจากรัฐมนตรีคนก่อนๆ มักจะเป็นการพูดแบบนักการเมือง แต่การบรรยายของคุณกรคราวนี้ ได้เล่าถึงประสบการณ์ ในการไปลุยตามโรงพยาบาล และสถานีอนามัยเกือบทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่า คงจะสนใจและศึกษาปัญหาต่างๆ มาแล้วอย่างจริงจัง เอาเป็นว่าขอมองในแง่ดีไว้ก่อนว่า คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ของกระทรวงสาธารณสุขในไม่ช้านี้

ที่ผมเอาเรื่องของสุขภาพของคนไทยมาพูดคราวนี้ ก็เพราะมีเรื่องที่จะต้องไปสัมมนา กับกลุ่มการแพทย์ทางเลือกหลายกลุ่ม รู้สึกว่าขณะนี้กำลังตื่นตัว เรื่องการแพทย์ทางเลือกเป็นการใหญ่ อาจารย์ประเวศกล่าวไว้ในจดหมายเชิญชวน ให้ไปร่วมสัมมนา "ระบบสุขภาพที่คนไทยต้องการ" ไว้ว่า "โดยที่ระบบสุขภาพของไทยกำลังเข้าสู่จุดวิกฤติ" ในปีนี้ค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพของประเทศไทย เป็นเงินเดือน 300,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นด้วยอัตรากว่าร้อยละ 10 ต่อปีมาหลายปีติดต่อกัน แต่สังคมไทยยังไม่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า กล่าวคือคนไทยยังเจ็บป่วยล้มตาย โดยไม่จำเป็นจำนวนมาก และการบริการก็ยังไม่ทั่วถึง และมีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ

จะว่าเป็นการบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ที่ความคิดของรัฐมนตรีกร และของอาจารย์ประเวศมาลงตัวกันพอดีในตอนนี้ คุณกรประกาศนโยบาย และหน้าที่ความรับผิดชอบ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นรูปธรรม ในขณะเดียวกันทางกลุ่มของอาจารย์ประเวศ ก็ประกาศถึงการปฏิรูปสุขภาพ ซึ่งหมายถึงการรื้อโครงสร้างเก่า ออกมาปรับปรุงให้เป็นระบบที่กว้างขวางและสมบูรณ์กว่าเก่า

ถ้าเราจะลองแยกกันดูก็จะเห็นว่า ด้านรัฐมนตรีกรก็ต้องการปฏิรูปภายใน คือในกระทรวงสาธารณสุขเอง ส่วนของอาจารย์ประเวศนั้น เป็นการระดมความคิดจากภายนอก

ถ้าจากสองกลุ่มนี้รวมตัวกันได้ เราก็จะได้ระบบใหม่ซึ่งกว้างขวางและสมบูรณ์กว่าเก่า ปัญหาตรงจุดนี้อยู่ที่ว่า "ขณะนี้ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข พร้อมหรือยังที่จะร่วมมือกัน

อาจารย์ประเวศว่า "การปฏิรูประบบสุขภาพ มีความจำเป็นแต่ทำได้ยาก เพราะความซับซ้อน ของระบบยากแก่การเข้าใจ ความเคยชินในการคิดแบบเก่าๆ และโครงสร้างของผลประโยชน์ เราจึงอยู่ ณ จุดที่ไม่ปฏิรูปก็ไม่ได้ แต่ปฏิรูปก็ยาก แต่ถ้าไม่ทำก็แก้ความทุกข์ยาก ของคนไทยไม่ได้"

ถ้าจะขอพูดภาษาง่ายๆ แบบของผม ก็คงจะมาลงเอยตรงที่เราพูดกันตอนต้น คือการดูแลคนดีไม่ให้ป่วย คือการป้องกัน จะเห็นว่างานของกระทรวงสาธารณสุขแต่ก่อนมา เป็นงานด้านการรักษาการเจ็บไข้ได้ป่วยแต่อย่างเดียว การป้องกันและสร้างสุขภาพ ที่แข็งแรงสำหรับประชาชนแทบจะไม่มีเลย

และการปฏิรูประบบสุขภาพที่อาจารย์ประเวศพูดถึง ก็ไม่ได้หมายความว่าหยุดเรื่องรักษา แล้วหันมาเน้นหนักทางการป้องกันแต่อย่างเดียว

นั่นย่อมไม่ใช่แน่นอน เพราะอย่างไรเสียผู้ป่วยของเรา ก็ยังคงมีอยู่อย่างเดิม ฉะนั้น งานเก่าก็ต้องทำไป และงานใหม่ก็ต้องเพิ่ม เรื่องการป้องกันให้มากขึ้นและมากขึ้น

นี่แหละมันจึงมาลงเอย ตรงที่อาจารย์ประเวศว่าไว้ว่า ทำได้ยาก เพราะความซับซ้อน ของระบบยากแก่การเข้าใจ

ขอแถมท้ายไว้ตรงนี้เลยครับว่า มันไม่ได้ยากเพราะความซับซ้อนของระบบอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเรื่องผลประโยชน์ และการแย่งชิงอำนาจกันอีกด้วย

การแพทย์ทางเลือกกำลังฮิต เห็นว่ามีการดึงยื้อระหว่างสำนักต่างๆ เป็นการใหญ่ การแพทย์แผนไทยก็ว่า ควรจะอยู่กับการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีนก็ว่า ควรจะอยู่กับแผนจีน ทางกระทรวงก็ว่าจะต้องตั้งเป็นสถาบัน และก็คงจะเถียงกันต่อไปว่าจะอยู่กับกรมไหน มหาวิทยาลัยแพทย์ ก็กำลังเสนอสถาบันการแพทย์ทางเลือก และก็เห็นว่ากำหนดตัวคณบดี หรือเจ้าของเรื่องกันไว้ล่วงหน้าแล้ว

มิยุ่งกันเละหรือครับ ยังไม่ทันตั้งเลย ก็แย่งกันแล้ว ใครจะได้ไปก็ตามทีเถอะ ผมว่าคนที่ได้ไป ต้องตอบให้ได้เสียก่อนว่า ประชาชนจะได้อะไรจากสถาบันของคุณ ไม่ใช่คุณจะไปตักตวงอะไรจากประชาชนได้มากเท่าใด

สาทิส อินทรกำแหง

อ่านต่อตอนที่87

[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]

main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600