|
ฟันผุเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในคราบอาหาร
ที่สะสมอยู่บนตัวฟัน โดยจะเริ่มเกิดขึ้นที่ผิวเคลือบฟัน ซึ่งเป็นผิวชั้นนอกสุด ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาโดยการอุดฟัน แล้วจะผุต่อไปถึงชั้นเนื้อฟัน ในที่สุดก็จะลุกลามจนถึงโพรงฟัน ซึ่งอยู่ชั้นในสุดของฟัน ในโพรงฟันนี้จะมีเส้นเลือดและเส้นประสาทขนาดเล็กๆ อยู่ภายใน
คอยหล่อเลี้ยงฟัน และรับความรู้สึกเมื่อมีสิ่งใดมาสัมผัสกับฟัน
-
- เมื่อฟันผุลึกถึงประสาทฟันจะมีอาการปวด โดยเฉพาะเมื่อรับประทานของเย็น ของร้อนหรือเมื่อมีเศษอาหารมาอุดในรูผุ ซึ่งอาการปวดอาจจะไม่รุนแรงนัก เมื่อรับประทานยาแก้ปวดก็จะทุเลาลงและหายปวดไปได้
แต่ถ้าปล่อยให้ฟันผุต่อไปจนเนื้อเยื่อในโพรงฟันติดเชื้อเกิดอักเสบ
เน่า ตายไป ในที่สุดจะลุกลามไปถึงปลายรากฟันและกระจาย
ผ่านรูเปิดปลายรากฟันออกไปที่เนื้อเยื่อและกระดูกขากรรไกร
บริเวณรอบปลายราก เกิดเป็นฝีหรือหนอง
ระยะนี้จะปวดฟันมากเมื่อเคี้ยวอาหารหรือฟันกระทบกัน
หากไม่ได้รักษาอาจจะเกิดรูเปิดของหนองที่เหงือก มีลักษณะ
เป็นตุ่มเหมือนเป็นสิวหรืออาจจะทำให้บริเวณเหงือก แก้ม
หรือใบหน้าบวมขึ้นมา การมีฝีหนองที่ปลายรากฟันจะมีผลต่ออวัยวะข้างเคียงด้วย
เช่น โพรงจมูกอักเสบ ตาอักเสบ เป็นต้น
- การรักษาโรคฟันผุที่เกิดในส่วนเคลือบฟันและเนื้อฟันนั้น ทันตแพทย์จะทำโดยใช้เครื่องมือกรอเอาส่วนฟันผุนั้นออก
แล้วอุดฟันโดยใช้วัสดุอุดฟัน ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
ทั้งวัสดุอมัลกัมที่มีสีเงิน หรือชนิดที่สีเหมือนฟัน
ส่วนฟันที่ผุถึงโพรงประสาทฟันแล้ว จะไม่สามารถอุดได้ทันที เนื่องจากมีการติดเชื้อของเนื้อเยื่อในโพรงประสาทฟัน
ถ้าอุดไปจะทำให้ยิ่งปวดฟันมากขึ้น
การรักษาขึ้นอยู่กับว่าเชื้อโรคกระจายไปถึงเนื้อเยื่อส่วนใด
ทันตแพทย์อาจใช้วิธีตัดเอาเฉพาะเนื้อเยื่อบางส่วนที่มีการติดเชื้อออก
ใส่ยารักษาเอาไว้แล้วจึงอุดฟัน แต่ถ้าโพรงประสาทฟันนั้น
ติดเชื้อโรคเข้าไปถึงรากฟันแล้ว ทันตแพทย์จะทำการรักษา
โดยกรอเอาส่วนฟันที่ผุออกให้หมดก่อน แล้วใช้เครื่องมือที่มีลักษณะ
เป็นตะไบขนาดเล็ก มีด้ามจับแยงผ่านเข้าไปตามคลองรากฟัน เพื่อขูดเอาเส้นประสาทฟันที่มีการติดเชื้อและอักเสบนั้นออกทั้งหมด ร่วมกับการใช้น้ำยาล้างคลองรากฟันให้สะอาด จนแน่ใจว่าไม่มีเชื้อโรคตกค้างอยู่อีก หลังจากนั้นจึงอุดในคลองรากฟันก่อนที่จะอุดตัวฟัน
|
ฟันผุงถึงโพรงประสาทฟันรักษาได้ทุกรณีหรือไม่ |
- ฟันผุถึงโพรงประสาทฟัน ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ได้โดยการรักษารากฟัน ยกเว้นฟันที่มีการติดเชื้อรุนแรงหรือฟันที่ผุลึกถึงส่วนรากฟันด้วย
- โดยปกติการรักษาฟันที่มีคลองรากเดียว เช่น ฟันหน้า ฟันเขี้ยว หรือ
ฟันกรามน้อย จะใช้เวลาทำการรักษาประมาณ 2-3 ครั้ง ติดต่อกัน
อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยใช้เวลาครั้งละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ในบางกรณีทันตแพทย์อาจรักษาให้เสร็จได้ในครั้งเดียวถ้าเชื้อโรคไม่รุนแรงนัก
ส่วนฟันที่มีหลายราก เช่น ฟันหลังหรือฟันกรามน้อยบางซี่ก็จะต้อง
ใช้เวลาในการรักษานานขึ้น
|
ฟันที่รักษารากแล้วจะเหมือนเดิมหรือไม่ |
- ฟันที่รักษารากฟันนี้ จะทำหน้าที่ได้เหมือนเดิมแต่สีฟันจะเปลี่ยน
เป็นสีคล้ำขึ้นกว่าเดิม ทำให้มองเห็นแตกต่างจากฟันธรรมชาติซี่อื่นๆ
แลดูไม่สวยงาม นอกจากนี้ฟันที่รักษารากฟันแล้วจะไม่ค่อยแข็งแรง
ทนทานเหมือนเดิม และเนื่องจากว่าเป็นฟันที่ไม่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง
ฟันจึงเปราะ แตกหักได้ง่าย อาจจะจำเป็นต้องทำครอบฟัน
มาสวมทับฟันอีกชั้นหนึ่ง แทนการอุดฟันตามปกติ
|
ฟันที่รักษารากฟันแล้วจะอยู่ได้นานเท่าใด |
- ฟันที่รักษารากฟันไว้ จะอยู่ได้นานเท่ากับฟันธรรมชาติซี่อื่นๆ
ซึ่งต้องดูแลทำความสะอาดให้ดี มิฉะนั้นจะผุได้เช่นเดียวกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับฟันที่รักษารากฟันแล้วก็คือ
ฟันแตกหัก ซึ่งจะป้องกันได้โดยการทำครอบฟันเอาไว้
|
ค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นเท่าใด |
- ค่ารักษารากฟันจะแตกต่างกันพอสมควร ถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐ
จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคลินิกหรือโรงพยาบาลของเอกชน
สำหรับโรงพยาบาลของรัฐ ราคาค่ารักษารากฟัน 1 ราก
จะอยู่ประมาณ 1,000-2,000 บาท
อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจทำการรักษา เราสามารถสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทราบอย่างชัดเจนเสียก่อน
|
ไม่อยากให้ฟันผุถึงโพรงประสาทฟันทำอย่างไร |
- ฟันผุมักจะไม่มีอาการใดๆ ในระยะแรกเราจึงควร
ตรวจฟันด้วยตนเองเป็นประจำโดยอ้าปากส่องกระจกดู
เมื่อพบว่ามีฟันผุ ก็ควรจะต้องรีบไปให้ทันตแพทย์อุดฟัน แต่จะเป็นการดีกว่าถ้าจะไปให้ทันตแพทย์ช่วยตรวจทุก 6 เดือน
หรืออย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งจะสามารถตรวจพบฟันผุได้ตั้งแต่เริ่มแรก
แม้เป็นเพียงจุดเล็กๆ เมื่ออุดฟันแล้วจะช่วยไม่ให้ผุลุกลามต่อไป
จนทะลุถึงโพรงประสาทฟัน ซึ่งการรักษาจะยุ่งยากขึ้น ตามที่กล่าวมาแล้ว
ที่สำคัญมาตรวจสุขภาพฟันส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
สำหรับการตรวจนะคะ |