มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ http://i.am/thaidoc หรือ http://hey.to/yimyam



ทานยาตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด
คือ ความสำคัญในการดูแลรักษาลูกน้อย


การให้ยาเมื่อลูกป่วย


เมื่อลูกป่วยไข้และพาไปหาหมอ หมออาจจะจัดยา 2 จำพวกให้แก่ลูก

ยาพวกแรก คือ ยาแก้อักเสบ (ในที่นี้หมายถึงยาปฏิชีวนะ) ยาจำพวกนี้ไม่จำเป็นจะต้องได้รับทุกครั้งที่ป่วย โรคส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส ซึ่งไม่จำเป็นต้องทานยาแก้อักเสบ บางครั้งการทานยาแก้อักเสบอาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน แต่ถ้าลูกมีความจำเป็นต้องได้รับยาแก้อักเสบ หมอจะเป็นผู้พิจารณาว่า จะให้ยาแก้อักเสบชนิดใด ยาแก้อักเสบมีมากมายหลายชนิด และมีประสิทธิภาพต่อาการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์แตกต่างกัน จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอว่าจะเลือกใช้ยาชนิดใด เช่น

1.โรคหลอดคอ ทอนซิลอักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ เพนนิซิลลิน อีริทโทรมัยซิน, อะม็อกซิซิลลิน และรูลิด
2.โรคหลอดลมอักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ อะม็อกซิซิลลิน , อีริทโทรมัยซิน รูลิด โรวามัยซิน
3.โรคไซนัสอักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ อะม็อกซิซิลลิน, แบคทริม อ๊อกเมนติน และดิสตาคลอร์
4.โรคหูชั้นนอกอักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ ไดคล็อกซาซิลลิน , คล็อกซาซิลลิน, อีริทโทรมัยซิน และรูลิด
5.โรคหูชั้นกลางอักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ อะม็อกซิซิลลิน , แบคทริม อ๊อกเมนติน และดิสตาคลอร์
6.โรคลำไส้อักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ แบคทริม เล็กซินอร์ และวินโตมัยลอน
7.โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ยาที่เหมาะสม คือ แบคทริม , เล็กซินอร์ และวินโตมัยลอน

เมื่อหมอจัดยาแก้อักเสบให้แก่ลูก คุณควรให้ลูกทานตามคำสั่งหมอ ถ้ายาแก้อักเสบชนิดผงสำหรับผสมน้ำ ควรผสมด้วยน้ำเย็นเติมลงไป อย่าให้เกินขีดที่อยู่ข้างขวด แล้วเขย่าเพื่อละลายให้เข้ากัน เสร็จแล้วน้ำเติมน้ำอีกทีเพื่อให้ถึงขีดที่กำหนดไว้พอดี ควรให้ลูกทานยาเท่าที่หมอกำหนดมา คุณแม่บางคนใจร้อน อยากให้ลูกหายเร็วๆ จึงให้ลูกทานยาถี่ๆ หรือให้ลูกทานยาแต่ละครั้ง มากกว่าที่กำหนดไว้บนฉลากข้างขวดยาจะเกิดผลเสียได้

ยาเกือบทุกชนิดควรทานก่อนอาหาร ยกเว้นยาอีริทโทรมัยซิน ที่ควรทานหลังอาหาร เพราะยานี้เมื่อทานขณะท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้มาก ยาแก้อักเสบทุกชนิด เมื่อผสมน้ำแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นตลอดระยะเวลาที่ใช้ยา เพื่อให้ยาคงสภาพนาน โดยปกติยาจะคงสภาพได้นานราว 10 วัน หลังผสมน้ำ จึงควรให้ลูกทานให้หมดทุกครั้ง ถ้าเก็บไว้ก็จะไม่มีประโยชน์ เพราะยาจะหมดสภาพ ในกรณีที่ฉลากข้างขวดยาระบุให้ทานวันละ 2 เวลา ควรทานเวลาเช้าหลังตื่นนอนและเวลาเย็นก่อนทานอาหาร

ถ้าฉลากระบุให้ทานวันละ 3 เวลา ควรทานเวลาเช้าหลังตื่นนอน หลังตื่นนอนรอบบ่ายและก่อนนอน และในกรณีที่ต้องทานวันละ 4 เวลา ควรทาน ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน

เนื่องจากยาแก้อักเสบนี้สำคัญมาก ถ้าลูกอาเจียนหลังทานยาทันที ควรให้ลูกทานใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าลูกอาเจียนหลังทานยาครึ่งชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องให้ลูกทานยาอีกครั้ง

ยาจำพวกที่สอง คือ ยารักษาตามอาการเช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก ยาแก้อาเจียน ยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น

ยากลุ่มนี้ควรให้ลูกทานขณะมีอาการในกรณีการทานยาลดไข้ ถ้าถึงเวลาที่ต้องทายาอีกครั้ง คือ อีก 6 ชั่วโมงต่อมา แต่ลูกไม่มีไข้ก็ควรจะงดยาลดไข้สำหรับมื้อนั้นบางท่านเข้าใจผิด คิดว่าควรทานยาลดไข้ดักไว้ก่อนเพื่อมิให้ไข้ขึ้นมาอีก ยาแก้ท้องเสียก็เช่นกัน เมื่อลูกหยุดถ่ายเหลวก็ควรหยุดยาทันที ควรทานยาละลายเสมหะ เมื่อลูกมีอาการไอ หรือมีเสมหะในลำคอไม่ควรให้ลูกทานยากลุ่มนี้บ่อยกว่า และมากกว่าที่หมอแนะนำให้ทานนะครับ

ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ



[ที่มา..นิตยสาร fitness ปีที่ 10 ฉบับที่105]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600