มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ คัดลอกจากนิตยสารแม่และเด็ก ปีที่ 22 ฉบับที่ 321 พฤศจิกายน 2541]

ยาที่มากับน้ำนม

ภ.ญ.ยุวดี หงส์รัตนาวรกิจ


ปัจจุบันรัฐรณรงค์ให้แม่หันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันมากขึ้น โดยเฉพาะในโรงพยาบาลของรัฐบาล ซึ่งนอกจากเหตุผลทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีเหตุผลหลักๆ ก็คือ น้ำนมแม่มีคุณประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน อีกทั้งยังมีภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติที่ชนิดอื่นไม่มี

อีกทั้งการให้ลูกดูดนมจากอก เป็นการสร้างความรัก ความอบอุ่น และความผูกพันระหว่างแม่กับลูกให้แนบแน่นด้วย แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ในน้ำนมของแม่นอกจากสารอาหารและภูมิต้านทานที่ส่งให้แก่ลูกแล้ว ยังมีสารและยาอื่นๆ ที่แม่รับประทานเข้าไป หรือรับเข้าไปในร่างกาย โดยวิธีอื่นๆ เช่น ฉีดสูดดม ทาผิวก็มีส่วนที่จะซึมเข้าไปตามกระแสเลือด และขับออกมาทางน้ำนม ให้ลูกต้องได้รับสารหรือยานั้นไปด้วย

นั่นคือ ท่านที่ให้นมลูกหลังคลอดบุตร ควรระมัดระวัง หรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสารหรือยาที่แม่ไม่ควรรับประทาน หรือรับเข้าไปทางอื่น ซึ่งก็ควรระวังมากพอๆ กับตอนที่ท่านตั้งครรภ์

ในด้านคุณสมบัติของยาที่ส่งผลต่อทารกต่างๆ คือ

1. ขนาดโมเลกุลของยา ถ้ายามีขนาดโมเลกุลใหญ่มาก จะไม่สามารถกระจายไปสู่ต่อมน้ำนมได้ก็จะไม่สามารถถ่ายเข้าไปยังลูกได้ ก็ไม่มีผลกระทบต่อลูก เช่น ยาฉีดรักษาโรคเบาหวานกลุ่มอินซูลิน

2. ความสามารถในการละลายในไขมันของยา ถ้ายาใดที่มีความสามารถละลายในไขมันได้ดี จะขับออกทางน้ำนมได้ดีด้วย เนื่องจากผนังของเซลล์ในร่างกายจะมีคุณสมบัติเป็นชั้นไขมัน ถ้ายาละลายในชั้นไขมันที่ผนังเซลล์ได้ ก็จะดูดซึมเข้าไป ได้ง่ายกว่ายาที่ไม่ละลาย

3. การแตกตัวของยา เนื่องจากความเป็นกรด-ด่างของเลือด กับน้ำนมจะใกล้เคียงกัน และมีผลการแตกตัวของยา ยาที่เป็นด่างอ่อน จะแตกตัวได้ดีในสภาพที่เป็นกรด เช่น น้ำนม เลือด ดังนั้นยาที่มีคุณสมบัติเป็นด่างจะแตกตัวและดูดซึม-ขับออก มาทางน้ำนมได้ดีกว่ายาที่มีคุณสมบัติเป็นกรด

นอกจากนี้ ความเป็นพิษของยา ยังขึ้นกับสภาพร่างกายของทารกด้วย กล่าวคือ ขึ้นกับลักษณะทางกายภาพ 2 อย่างคือ

1. ระบบทางเดินอาหาร พบว่า นอกจากนี้ระบบทางเดินอาหาร ของทารกจะช้าและไม่สม่ำเสมอ การดูดซึมของยาจึงไม่แน่นอน

2. ระบบขับถ่าย เนื่องจากยาส่วนใหญ่จะขับออกทางปัสสาวะ มีส่วนน้อยที่ขับออกทางอุจจาระ ดังนั้นไตจึงเป็นอวัยวะสำคัญ ในการกำจัดสารพิษให้แก่ร่างกาย แต่ทารกที่คลอดปกติไตจะทำงานได้เพียง 30% ของผู้ใหญ่ และทารกคลอดก่อนกำหนด ไตทำงานได้เพียง 10% ยิ่งอายุน้อยมากระบบทางเดินอาหารยิ่งไม่สมบูรณ์ เช่น ทารกที่คลอดก่อนกำหนด การพัฒนาการของระบบย่อยอาหารยังไม่เต็มขั้น ทำให้ยาดูดซึมได้มาก จึงเป็นพิษกับทารกได้มากกว่าเด็กโต นั่นหมายถึงยาหรือสารพิษ จะตกค้างอยู่ในตัวทารกนานกว่าผู้ใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับความอ่อนแอของทารก ในการทนทานต่อพิศของยา ท่านจะเห็นได้ว่ามีอันตรายมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่านัก

สำหรับการจัดแบ่งประเภทของยาที่ส่งผลกระทบต่อทารก ผ่านทางน้ำนม แบ่งได้เป็น 5 ระดับ คือ

ระดับ 1 ยาที่ห้ามใช้ในขณะที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ได้แก่ ยาที่มีผลกดระดับภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของทารก เช่น ยารักษาโรคมะเร็งทุกชนิด ยาที่ทำให้ทารกมีอาการท้องเสีย อาเจียน ได้แก่ ยาในกลุ่มรักษาไมเกรน เออร์โกทามีน (Ergotamine) และ ยาเสพย์ติดให้โทษทุกชนิด เช่น โคเคน แอมเฟตามีน เฮโรอีน กัญชา บุหรี่ เป็นต้น จะทำให้ทารกเกิดอาการประสาทหลอน ไม่ยอมดูดนม นอนไม่หลับ และเกิดอาการถอนยา

ระดับ 2 ยาที่ต้องให้หยุดชั่วคราวขณะให้นมลูก หรือหยุดให้นมลูกชั่วขณะให้ยา

ที่หยุดชั่วคราว เนื่องจากมีระยะเวลาในการขับออกทางน้ำนมแม่ นานจึงไม่จำเป็นที่จะต้องหยุดให้นมแม่ตลอดไป การหยุดชั่วคราวก็คือ การหยุดก่อนที่แม่จะได้รับยาครั้งแรก โดยท่านสามารถปั๊มน้ำนมมา เก็บใส่ช่องฟรีซของตู้เย็นไว้ก่อนรับยา และระหว่างรับยา ให้ท่านปั๊มน้ำนมทิ้งไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำนมใหม่มาชดเชย ส่วนระยะเวลาที่ต้องหยุดให้นมลูกแพทย์และเภสัชกรจะเป็นผู้ให้คำตอบแก่ท่าน สารหรือยาในกลุ่มนี้ได้แก่ สารกัมมันตรังสีที่ใช้ขณะเอกซเรย์ หรือยาที่ใช้รักษาอาการตกขาว กลุ่มเมตโทรนิดาโซล (Metronidazole) ทินิดาโซล (Tinidazole) เป็นต้น

ระดับที่ 3 ยาที่พึงใช้ด้วยความระมัดระวัง

หมายถึง ยาที่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากแม่จำเป็นต้องใช้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หรือให้ทารกอยู่ในการดูแลของกุมารแพทย์อย่างใกล้ชิด ได้แก่กลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด ยาทางจิตเวช ยาแก้อาเจียน เมตโทโคลฟามายด์ (Metoclopramide) ยาแก้ปวดลดไข้แอสไพริน ยากันชักฟีโนบาบิทอล (Phenobarbital) ยาเม็ดคุมกำเนิด ยารักษาและในกระเพาะซิเมตทิดีน (Cimetidine) ยารักษาโรคเบาหวาน คลอไปรฟามายด์ (Chlorpropamide) ยารักษาธัยรอยด์เมตทิมาโซล (Methimazole)

ยาถ่ายพยาธิ เมเบนตาโซล (Mebendazole) ทำให้น้ำนมหยุดไหล ยาขับปัสสาวะ เอมิโลไรด์ (Amiloride) ยาแก้อาเจียนกลุ่ม Doxylamine ไดเมนไฮดริเนต (Dimenhydrinate) ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย คลอแรมเฟนิคอล (Chloramphenicol) ที่กดการสร้างไขกระดูกของเด็ก สเปกทิโนมัยซิน (Spectinomycin) และวัคซีนชนิดต่างๆ เป็นต้น

ระดับ 4 ยาที่ใช้ในขณะให้นมลูกได้

เนื่องจากเป็นยาที่ขับออกทางน้ำนมได้น้อย เชื่อว่า ไม่มีผลกระทบต่อทารก ที่ได้รับ

ระดับที่ 5 อาหารและสารอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อทารกโดนผ่านทางน้ำนมแม่ ได้แก่

เหล้า : ถ้าแม่ดื่มเหล้า ลูกที่ได้รับนมแม่จะหลับยาว ร่างกายอ่อนแอ โตช้า และแม่เองก็มีน้ำนมน้อยลง
DDT : ทำให้ทารกมึนงง คลื่นไส้ อาเจียน
ปรอท : มีผลกระทบต่อทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มากกว่า ผลที่เกิดจากการได้รับน้ำนมแม่ ผลกระทบคือ ความพิการทางสมอง
บุหรี่ : แม่ที่สูบบุหรี่จะมีประมาณน้ำนมลดลง ทารกจะมีอาการผิดปกติทำให้หายใจขัด ทางเดินหายใจอักเสบ
น้ำยาทำความสะอาด : ที่มีส่วนประกอบเป็นโพลีโบรมิเนต (Polly brominated) ไบฟีนิล (Biphenyle) เตตราโคลโรไทลีน (Tetrachloroethylene) ซึ่งเป็นสารที่ละลายได้ดีในไขมัน ทารกจะมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตัวเหลือง

แต่อาการพิษที่ทารกจะได้รับมากหรือน้อยขึ้นกับขนาดการใช้ยา ความถี่ในการใช้ยา คุณสมบัติของยา

สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนที่จะใช้ยาหรือสารใดๆ ระหว่างการให้นมบุตร คือ

  • ศึกษาข้อดี-ข้อเสียของยา เปรียบเทียบกับความจำเป็นในการใช้ หากหลีกเลี่ยงได้ควรเลี่ยงไปก่อน
  • ใช้ยาที่มีข้อเสียหรือความเสี่ยงน้อยที่สุด เช่น เลือกพาราเซตตามอล แทนแอสไพรินในการลดไข้ แก้ปวด
  • เลือกวิธีการใช้ยาที่ทำให้ยาผ่านทางนี้เข้มน้อยที่สุด คือ ดูดซึมเข้ากระแสเลือดน้อยที่สุด เช่น ยาทา
  • ถ้าจำเป็นควรรับประทานยาตอนกลางคืน ในกรณีที่ลูกไม่ได้ดูดนม ตอนกลางคืน เพราะจะได้มีช่วงเวลาที่ยาจะถูกขับออกจากร่างกายแม่ นานกว่าช่วงกลางวัน
  • ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ หมายถึงยานั้นมีความสำคัญต่อแม่จริงๆ ก็จำเป็นต้องหยุดการให้นมลูกชั่วคราว

ผู้เขียนยังขอยืนยันว่า ท่านควรเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา เพียงแต่บทความนี้ต้องการชี้ให้ท่านเห็นและระมัดระวังการใช้ยา หรือสัมผัสสารต่างๆ ระหว่างการให้นมบุตรเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกน้อยของท่านต้องได้รับอันตราายจากยาหรือสารพิษ โดยแม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากท่านไม่แน่ใจ ก่อนใช้ยาทุกครั้ง ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกร

ภ.ญ.ยุวดี หงส์รัตนาวรกิจ


ขอบคุณนิตยสารแม่และเด็ก ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600