เภสั�รจัก� ศิริบริรักษ์
คุณชาต� ภิรมย์กุ� นักเ�ยนเรื่องสั้นไฟแรงของเมืองไทย ผู้นิยมเกาเหลาเป็น�วิตจิตใจ คุยกับผมในงานปีใหม่ว่า อยากให้ช่วยเ�ยนเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้บ้า� �่งผมก็เห็นว่าดีเพราะอาทิตย์ที่ผ่านมา เราเพิ่งจบเรื่องโรคหวัดกับอาหา� โรคภูมิแพ้กับโรคหวัดก็มีอาการบางอย่างคล้ายกั� เหมาะที่�นำมาเขียนต่อเนื่อง
และในยุคสมัยสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ รู้สึกว่าคนรุ่นใหม่ประสบปัญหาภูมิแพ้มากขึ้� หลายคนมีอาการฟืดฟา� หายใ�ำบากทั้งปี บางคนระคายเคืองตาเมื่ออุ้มแม� และบางคนเกิดอาการหงุดหงิดวิตกกังวล หรือห่อเหี่ยวซึมเซ� โดยไม่ทราบสาเหตุ
เหล่านี้อา�ป็นผลจากโรคภูมิแพ้ได้ครั�
โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่มีที่มาที่ไป�บซ้อ� �ดเป็นโรคเรื้อรังที่น่ารำคาญอย่างที่สุด
การศึกษาในประเทศพัฒนาอย่างอเมริกาพบว่า รา� 1 ใน 5 ของชาวอเมริกัน เคยมีอาการของโรคภูมิแพ� โพรง�ูกอักเสบ�กการแพ� หอบหืด แพ้อาหาร และสิ่งแวดล้อม
สารกระตุ้นภูมิแพ้เอง ก็มีมากมายหลายประเภทเช่น เกสรดอกไม้ที่ลอยตามล� ดอกสัก ละอองฟาง ยางไม้ ฝุ่นผง เชื้อร� �สัตว� �้นส่วนของแมล� ยา อาหา� เครื่อ�ำอาง สารเคมีจากสิ่งแวดล้อ� หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงขอ�ดูกาลกะทันหั� ก็สามารถกระตุ้นภูมิแพ้ได� ทั้งในเรื่องอุณหภูมิคื� ร้อนเป็นเย็น และความชื้นเ�� แห้งเป็นเปีย�
คนเป็นโรคภูมิแพ้�งมีกรร� เดินเข้าห้องแอร์ก็คัดจมู� เจอควันบุหรี่หายใจไม่ออก ไปเที่ยวภูเที่ยวดอยก็ทำหน้ากลัดกลุ้ม หายใจดังวี๊ด�วี๊ด�
อาการแพ้ เป็นผลมา�กระบบป้องกันภัยในตัวเร� (เรียกว่าระบบภูมิคุ้มกั� หรือ Immune System) ทำงานผิดพลาด ทำนอ�่าเห็นกง�กรเป็นดอกบัว อะไรประมาณนั้น เพราะโดยปกติ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา มีหน้าที่ต่อต้านและทำลายผู้บุกรุกที่เป็นอันตรายต่อร่างกา�
เทียบได้กับยามที่เรา�างไว้เฝ้าบ้า� เราสั่งไว้ว่าถ้าเห็นขโมยบุกเข้าม� ให้ใ�ไม้ตะบองตีหัวได้เล� แต่นี่พี่ยามแกเดินเมายาบ้า เจอบุรุษไปรษณีย์หรือแขกแวะมาเยี่ยม พี่แกสำคัญผิดคิดว่าโ�ขโมยไล่ตีกระเจิง เผลอ � เจ้าบ้านโดนด้ว�
นี่แหละคือ ลักษณะขอ�ะบบภูมิคุ้มกันที่มีปัญหา มันอาจมองเห็นขนแมวหรือละอองเกสรดอกไม� เป็นสารที่ก่ออันตรายรุนแรงต่อร่างกาย �งพยายามต่อสู้กับเจ้าสิ่งแปลกปลอมทุกวิถีทาง เช่น
ทำให้หลอดลมหดตัว เพื่อจะได้หายใ�ด้น้อย � ไม่สูดละอองเข้าไปอีก หรือ�บน้ำเหนียวข้นมาดัก�บฝุ่นละอองในทางเดินหายใจ หรือ�บน้ำตาออกมาชะล้า� หรือทำให้คลื่นไส้อาเ�ยน เพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออกจากกระเพา� ทั้ง � ที่สารดังกล่าว มิได้ก่ออันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใดหรื� ฯล�
คนที่เป็นภูมิแพ้�งตกอยู่ในอาการประหวั่นพรั่นพรึงไม่รู้จ� กลัว ว่างานเลี้ยงมื้อค่� เจ้าบ้านอา�ตรียมอาหารที่กระตุ้นภูมิแพ� หากกินยาแก้แพ้กันไว้ล่วงหน้า ก็กลัว�มีปัญหาต่อการขับรถหรือนั่งสัปหงกในที่ทำงาน
นอกจากนี้ผลการวิ�ยใหม� � ยังแสดงให้เห็นว่� เมื่อเกิดอาการแพ� มันไม่เพียงจะแสดงผลต่อร่างกายเท่านั้� แต่มันยั�่งผลต่อจิตใจและอารมณ� โดยที่เราไม่รู้ตัวอีกด้ว� เช่นว่� มันไม่แค่ทำให้คุณน้ำมูกไหล แต่ยังทำให้คุณหงุดหงิดโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใ�ม้แต่น้อ�
ที่แย่กว่านั้น คุณอาจต้องยอมรับความ�ิงที� โรคภูมิแพ้อา�ยู่เป็นเพื่อนร่วมชีวิตของคุณ จนถึ�ันอำลาโล� ดังนั้นการเรียนรู้�กมันด้วยความเข้าใจ�งเป็นสิ่งจำเป็� และคอลัมน์นี้จะช่วยแนะนำหนทางคลี่คลายด้วยหลักการอิงธรรมชาติของการแพทย์ทางเลือก ผสมผสานกับความรู้ใหม� � เพื่อช่วยให้ท่านผ่อนคลาย
และยังแถมด้วยเคล็ดลับในการ�ดการกับโรคภูมิแพ้ให้อยู่ในโอวาทได้อย่างชะงัด
| ภูมิแพ�-โรคเรื้อรั� |
ถ้าเส้นเลือดอุดตันเพราะไขมันไปเกาะ เราก็อยากให้ตัดก้อนไขมันหลุดออกไปด้วยบัลลู� หรือตัดต่อเส้นเลือดทำบายพา� แทนที่�ปรับเปลี่ยนบริโภคนิสัยและออกกำลังกาย
ถ้าระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดพลา� เช่น ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ� เราก็นึกถึ�าเม็ดแก้แพ้หรือยาฉีดสารพัน โดยลืมนึกไปว่าตัวผู้ป่วยเองก็มีความสามารถปกป้องตัวเองมิให้เกิดการกำเริ� หรือ�วยตัวเองด้วยการปรับสมดุลขอ�่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไ�
ดังนั้� เมื่อยาชุดหนึ่�มดฤทธิ� โรคก็กลับมาเยือน และเราก็ถามหายาชุดใหม่ต่อไ� ยาและการผ่าตัดใช้ได้ผลดีในหลายโอกาสที่ต้องการผลตอบสนองทันทีเ�� กรณี�กเ�� แต่ไม่ใช่กรณีของโรคเรื้อรั�
ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน เรามักแบ่งอาการโรคเป็น 2 กลุ่� คื�
โรคเ�ยบพลัน มักเกิดในทันทีทันใ� มีสาเหตุเดียวอาจวินิจฉัยได้โดยง่าย อาการของโรคตอบสนองดีต่อการรักษ� เช่น กินยาหรือผ่าตั� และเมื่อให้การรักษาแล้� คนไข้จะหาย�กอาหารเด็ด�� ถือว่าการรักษาเสร็�ิ้นสมบูรณ์
แต�โรคเรื้อรั�มิใช่เ�นนั้� โรคเรื้อรั�่วนใหญ่จะเกิดช้า � แสดงอาการกำเริบช้า อาจกินเวลาหลายปีกว่าผู้ป่วยจะรู้ตั� บางคนจนตายยังไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองมีโรคร้า� แอบแฝงอยู่หลายโร� แพทย์มักประสบปัญหา ในการวินิจ�ยในระยะต้น และพยากรณ์โรคยากมา�
โรคเรื้อรังมักมีสาเหตุ�บซ้อ� หลายสาเหตุร่วมกั� ตั้งแต่กรรมพันธุ� วิถีการดำรงชีวิต ไปจนถึ�ภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ล้วนมีผลทำให้เกิดโรคเรื้อรังได�
โรคเรื้อรั�ากรักษาให้หายขาด และไม่มีวิธีบำบัดอย่างทันอกทันใจ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยเ�าะโรคภูมิแพ้ นอกจาก�ต้องทนทุกข์กับอาการประ�โรคนั้� � ยังต้องทนกับอาการร่วมหลายประการเ��
อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เพราะร่างกายไม่อาจใช้พลังงานได้เต็มที่ บา�่วนต้องนำไปใ�ในการซ่อมแ�ส่วนที่สึกหร� คนเป็นโรคภูมิแพ้��าจรู้สึกเพลียไม่มีแร� บางครั้งเป็นต่อเนื่องจนเ�าของร่างมีสีหน้าอมทุกข� เดินเป็นผี�มบี้ หายใ�ม่เต็มอิ่ม เกิด�กการได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เพราะมีการหดเกร็งของหลอดลม หรือมีการอุดตันในทางเดินหายใ� �กเสมหะ น้ำมูก น้ำคัดหลั่งเหนียวข้น ในหลอดลม หรือถึ�มอุดตั� การได้รับออก�เจนไม่เพียงพอติดต่อกันนา� � ทำให้มึนงง สมองไม่แล่� ปว� การแพ้อาจทำให้เกิดการบวมที่ข้อ หรือแสบต� คั� ระคายเคือง กล้ามเนื้อปวดตึงเครียด ภาวะเครียดเกิดกับผู้ป่วยโรคเรื้อรั�่วนใหญ� เป็นผล�กการที่คุณไม่อาจบังคับร่างกา� ให้เป็นไปดังที่ปรารถนา รู้สึกสิ้นหวัง วิตกกั�� กับสุขภาพของตนเอ� ผสมกับความรู้สึกโกรธตัวเอง โกรธบรรพบุรุ� โกรธแพทย� โกรธญาติพี่น้อ� คู่สมร� ฯล� ทั้งหลายทั้งปว�้วนทำให้เครียด
คำโบราณว่า "รู้เ�รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยคร�"
โรคภูมิแพ้ มีที่มาที่ไป�บซ้อ� ดังนั้นถ้าคิดจะเอา�ะโรคภูมิแพ� ก็ต้องทำความรู้จักเจ้าศัตรูตัวร้ายให้ดีก่อนครั�
ถ้าเปรียบร่างกายคนเหมือนประเทศ เราก็มีผิวหนัง�้นนอกเป็นเสมือนรั้วที่แข็งแกร่� ประดุจกำแพงเมือง�นนั่นเ�ยว ถ้าเข้าไปยังระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่เป็นกองทัพอันเกริกไก� คอยตระเวนไปในกระแสเลือ� รักษาความปลอดภัยแก่บ้านเมือง ทำให้ประ��คื� เซลล์ทุกเซลล์อยู่กันได้อย่างมีความสุ�
ป้อมปราการอันเป็นด่านหน้าคือ ผิวหนังจะไม่ยอมให้เชื้อโรคเล็ดลอดเข้าโดยง่าย เว้นแต่จะมีบาดแผลในรูจมูกยังมี�กรองอากา� ในปากมีเอ็นไ�� บางชนิ� ทำหน้าที่ย่อยสลา� สิ่งไม่พึงประสงค์ได้ระดับหนึ่ง ในกระเพาะมีกรดเข้มข้� �าเ�้อเกือบทุก�ิด
และหากศัตรูร้ายเล็ดลอดเข้าไปได้จริ� เรายังมีเม็ดเลือดขาวและระบบภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็� คอยพิชิตผู้บุกรุกด้วยกลวิธีอันน่ามหัศจรรย์ยิ่งกว่าด่านสิบแปดอรหันต�
แต่เดชะบาป เจ้าระบบภูมิคุ้มกันในคนบางคนกลับประพฤติตัวเกมะเหรกเกเร กลายเป็นผู้ก่อโรคภูมิแพ้เสียนี�
ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าตัวบุกรุ� �่งเป็นศัตรูร้า� กำลังมีจำนวนเพิ่มมาก�้น จนแทบจะข�ดไม่ไห� ไม่เพียงศัตรูตามธรรม�ติ เช่น ไวรั� แบคทีเรี� เชื้อร� แต่ยังมีศัตรูประดิษฐ� เช่น สารกันบู� สารสังเคราะห์ในอาหาร ในอากา� ในดิ� หรือแม้กระทั่งในยาที่เรากิ�
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สารเคมีมากล้นรอบตัวเรานี่เอง ที่ทำให้คนรุ่นใหม่เป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้� ดังนั้นก่อนที่�รู้จักโรคภูมิแพ้ เราจำต้องทำความเข้าใจกลไกการทำงานของ ระบบภูมิคุ้มกันเสียก่อ� ตามควรครับ
| ที่มาของอาการแพ้ |
Mediators มีหลายตั� แต่ที่รู้จักกันด� คื� ฮีสตามีน �่งทำให้เกิดอาการแพ� คัดจมู� น้ำมูกไห� หายใ�ม่ออ� เคืองต� หลอดลมหดแค� ผื่นคั� กระเพาะลำไส้หดเกร็� ท้องเดิน
ดังนั้� หมอจึง�ายยาต้านฮีสตามีน เพื่อไปยับยั้งฤทธิ์ที่ไม่พึงปรารถนาเหล่านั้น ยาต้านฮีสตามีนตัวเก่งคือ คลอเฟนิรามีน หรือบางคนเรียก คลอเ� หรือยาแก้แพ้ นั่นเอ�
นอกจากฮีสตามีน ยังมีสารอื่น � หลั่งตามมาคื� ไคนินส�, พรอสตาแกลนดินส�, ลิวโคทรินส� �่งล้วนก่อผลทุก�ทรมา� ทำให้ปวดหัวอารมณ์เสี� หงุดหงิด ฯล� และหากมีการต่อต้านอย่า�ุนแร� �เกิดอาการช็อกแบบเฉียบพลันเรียก Anaphylactic Shock �่งน่ากลัวมาก คนที่แพ้เพนิ�ลลิน อาจตายคาเข็ม ถ้าได้รับเพนิซิลลินฉีดเข้าร่าง
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันมีปัญห� มันอาจ�แนกมิตรศัตรูผิดดังที่กล่าว หรืออา�สดงความผิดปกติแบบอื่� � เช่น ภูมิคุ้มกันลดจำนวนลงอย่า�วดเร็วในโรคเอดส์ (ภูมิคุ้มกันบกพร่อง) หรือมันอาจ�หลงทำร้ายพวกเดียวกันเอ�
หลงคิดว่าเนื้อเยื่อที่อยู่ในร่างกายเป็นศัตรูบุกรุก มันก็ระดมโ�ตีตัวเอง ก่อให้เกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด� โรคเอสแอลอ� ที่คร่าชีวิตคุณพุ่มพวง ดวงจันทร� หรือโรคเลือดพิสดารที่เม็ดเลือด�วไล่งับกันเอ� เพราะนึกว่าเป็นศัตรู
เพราะความซับ�อนของการทำงานนี้เอ� ร่างกายจึงต้องมีระบบผสมผสานต่อเนื่องถึงกัน เพื่อลดความรุนแรงของการแพ้ เป็นการรักษาตัวเองตามธรรมชาติคือ เมื่อสารฮีสตามีนถูกหลั่งออกมาจนน้ำมู� น้ำตาไหล หายใ�ม่ออ� ร่างกายก็จะกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาแก้ฤทธิ์
หากการแพ้กำเริ� แพทย์แผนปัจจุบัน��ดฮีสตามี� หรือ ยาแก้แพ้แก่ผู้ป่วย แต่ถ้ากำเริบหนัก อาจฉีดอะดรีนาลีนให�
�ะที่การแพทย์ทางเลือก หาทางกระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไ� ให้หลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาด้วยตนเอ�ย่างเป็นธรรม�ติ ต่างฝ่ายต่างมีหลักการของตัวเองครับ
| ระบบภูมิคุ้มกั� |
ความน่าพิศวงของเม็ดเลือด�� คื� มันสามารถจำแนกมิตรศัตรูของร่างกายได้อย่างแม่นย� ระบบภูมิคุ้มกันสามารถบอกได้ว่า สิ่งนี้คือเชื้อแบคทีเรียอันตรา� เซลล์มะเร็� หรือเป็นเพียงเ�ล์ปกติในร่างกา� เหมือนกับเวลาเราเดินไปตามถนน เราสามารถบอกได้ว่านี่คนไทย นั่นฝรั่งต่างด้า�
และเมื่อใดก็ตา� มันพบสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรา� �่งทางการแพทย์เรียก "แอนติเจน" (Antigen) มันก็จะเปิดหวอเป่านกหวีดเรียกพวกพ้องมา�วยกันรุมสกรัมซะเลย หากจำผิดยุ่งแน�
แอนติเจนแปลกปลอมที่เราพบทุกวี่ทุกวันได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรี� เชื้อร� ทำไมผม�งต้องเป็� ทำไมคนอื่นไม่เป็� ทำอย่างไรจึง��อมแซมความผิดปกตินี้ได้ ?
อย่าเพิ่งท้อแท้นะครั� ถ้าจะตอบว่� ไม่มีใครรู�
จนทุกวันนี� ความรู้ทางการแพทย์ยังมีไม่พอที่จะตอบคำถามที่ว่� แต่อย่างไรก็ตา� เราก็ต้องขอบคุณผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ช่วยกระตุ้นในวงการแพทย์หันมาศึกษาเรียนรู้ เรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายจนได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มากมาย
สักวันหนึ่งเราอาจพบหนทางยุติโรคนี้โดยเด็ดขาด ระหว่างนี้นักวิทยาศาสตร์ได้พบข้อสังเกตเกี่ยวกับสาเหตุของโรคภูมิแพ้หลายประการ คื�
เห็น�ดเจนคื� คนที่เป็นโรคไขข้อรูมาตอยด์ (�่งเป็นโรคภูมิแพ้�ิดหนึ่�) ลูกจะเสี่ยงต่อโรคนี้มากขึ้�
ภาวะ�ดโภชนาการเรื้อรั� โดยเ�าะวิตามินหรือเกลือแร� อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแ� รายละเอียด�คุยต่อไปครับ
| ประเภทของการแพ� |
| การแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergies) |
|
กล่าวโดยทั่วไป การแพ้แบ� Contact Dermatitis �เกิดเฉพาะที่ คื� สัมผัสตรงไหนก็คันตรงนั้น ไม่ลุกลามไปส่วนอื่� และหายง่ายเมื่อเลิกสัมผั�
หากการแพ้ขยายลุกลามกว้าง�างจนบางครั้งตาปิ� ปากบวมเจ่อ เห่อไปทั้งตั� นั่นคื� ลมพิ� (Hives หรือ Urticaria) อา�ป็นชั่วครู่ชั่วยาม หรือกินเวลาข้ามวัน บางครั้งมีอาการบวมขอ�ิ้� ริมฝีปากหรือเท้าร่วมด้วย
พบว่� ลมพิษมักเกิด�กอาหารทะเล นม พิษจากแมลง การแพ้ยาเพนิ�ลิ� แอสไพริน �แม� เกสรดอกไม้ เหล่านี้เป็นการแพ้ทางผิวหนัง อาทิตย์หน้าผมจะพาไปรู้�กการแพ้ในทางเดินหายใ�รือที่เราเรียกว่� โรคภูมิแพ้ครับ
| โรคภูมิแพ้ |
| การแพ้ในระบบทางเดินหายใจ |
แต่คนที่แย่ที่สุดคือ เป็นทุกกรณ� ทั้งวันทั้งคืน เพราะมีป�กิริยาต่อสารกระตุ้นภูมิแพ้แบบทุก�ิด ที่จะลอยอยู่ในอากา� ลักษณะการแพ้ที่พบบ่อยคือ Alergic Rhinitis เป็นอาการแพ้ ที่เกิดจากละอองฟาง เกสรดอกไม้ เชื้อร� ควัน น้ำหอม สารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่อาหารจำพวกนม ธัญพืชบางชนิ� เมล็ดพืชเปลือกแข็งจนถึ�าหารทะเล
อาการของ Allergic Rhinitis ที่เห็นชัดคื� �มแน่นจมู� คันต� ระคายเคือง มีน้ำมูกไห� อา�ีการ�มซ้ำ � เกิดได้หลายครั้งในหนึ่�ัน
ถ้าการแพ้เกิดเ�าะ�กละอองเกสรหรือละอองฟาง และมีอาการไข้ร่ว� อา�รียกอีกอย่างว่� ไข้ละอองฟา� (Hayfover)
คนที่เป็นโรคภูมิแพ� ต้องหมั่นสังเกตตัวเอ� อาการแพ้เกิดเมื่อไ� สิ่งใดน่าจะเป็นสาเหต� เช่น พบว่ามีอาการเมื่อยู่บ้าน ลองพิจารณาความสะอาดภายในบ้าน สารกระตุ้นภูมิแพ� มักแ�นลอยอยู่ในอากา� เชื้อราเกาะตาม�กที่เปียกชื้� ก็เป็นตัวสำคัญ มันอาจปล่อยสปอร์ ออกมาตามลม โดยเ�าะเชื้� Alernaria, Penicillium, Aspergillus, Rhizopus
�้นส่วนเล็ก � ของแมลงที่ต้องส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ ก็ทำให้คนหลายล้านคนทั่วโลก หายใ�ม่ออ� โดยเ�าะ�หรือเศษแ��ของมอดไม้ตามเครื่องเรือน พร� ผ้าห่ม ม่าน ไรในฟูกนอน หรือเศษเ�ล์�กขนสัตว์ �นก ฯล�
ผมอยากฝากข้อสังเกตตรงนี้สักนิด คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่มักระมัดระวังสารกระตุ้นภูมิแพ้ที่แขวนลอยในอากาศ แต่ลืมไปว่าอาหารที่กิน และสารเคมี�กการสัมผัส ก็ก่อโรคภูมิแพ้ได้เช่นกั�
| การแพ้ที่ก่ออาการหอบหื� |
| การแพ้กับอารมณ์แปรปรวน |
การแพ้สามารถทำให้มนุษย์คนหนึ่งมีอารมณ์แปรปรว� หงุดหงิด เครียด เกียจคร้าน หรือมีความผิดปกติทางอารมณ์ โดยที่เจ้าตัวไม่ตั้งใจ
ทุกวันนี� เราสามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างระดับน้ำตาลกับอารมณ์ สารอาหารกับอารมณ� แต่ยังไม่ทราบกลไกความสัมพันธ์ระหว่างการแพ้กับอารมณ�
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราต้องตระหนักว่า สิ่งที่คุณสัมผัส กิ� ดื่ม หรือหายใ�ข้าไ� อา�ีผลต่ออารมณ์ในทางที่ไม่พึงปรารถน� และปรากฏการณ์นี้สะท้อนความ�ิงว่� ความเจ็บป่วยมิได้ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์ �ตใ� �ตวิญญาณความเป็นมนุษย์ในสังคมได�
| การแพ้ที่ก่ออาการอื่� � |
นอกจากนี� สารอื่นที่ทำให้ปวดหัวยังรวมถึงควันบุหรี่ สารพิษ �กมลภาว� น้ำหอม ฝุ่นละอองเกส� ฯล�
ในบางค� เมื่อเกิดอาการแพ้อาจมีอาการไม่สบายในท้องร่วมด้วย เช่น ท้อง�้น ท้องผู� ท้องเดิน ปวดเกร็ง ฯล�
พบว่� การแพ้อาหารมักเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการไม่สบายในท้อง
| แนวทางการรักษาในปัจจุบัน |
คน�นวนไม่น้อยที่ไปพบแพทย์ 2-3 ครั้� ด้วยความหวังว่าจะหาย�� หมอให้ยาเม็ดเล็ก � มากิ� อาการดีขึ้นบ้า� แย่ลงบ้า� เกิดผลข้างเคียงเ�� ง่วงนอนบ้า� และกลับมีอาการเป็นเช่นเดิมเมื่อหยุดยาทำไมเป็นอย่างนั้น ?
เหตุผลสำคัญคือ
ยังไม่มียาตัวใดในปัจ�บันที่สามารถรักษาความผิดปกติขอ�ะบบภูมิคุ้มกันได้ครั� ยาเป็นเพียงเครื่อง�วยลดความทุกข์ทรมาน�กโรคเป็นครั้งครา�
นั่นแปลว่า คุณต้องกินยาตามแพทย์สั่งไปเรื่อย � จนกว่าร่างกายของคุ� ��อมแซมระบบภูมิคุ้มกัน ให้คืนปกติด้วยตนเอ� �่งอาจกินเวลาหลายปีหรือตลอด�วิ�
แต่ถึงกระนั้นคุณ ก็ยังควรไปพบแพทย์โดยสม่ำเสมอ เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง และแพทย์��วยหาสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้คุณแพ้ อันจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ย� การสัมผัสสารกระตุ้นภูมิแพ้ได้มากที่สุด การทดสอบว่าคุณแพ้อะไ� อาจทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
|
ไม่ใ�ง่าย แต่คุณต้องทำ เพราะมันคือทุก�สุขของคุณเอง
อาทิตย์หน้� เราจะคุยกันเรื่องการรักษาโรคภูมิแพ� ทั้งแผนปัจ�บันและการแพทย์ทางเลือกที่ควรรู� ตลอดจนการใ�อาหารบรรเทาโรค
| การรักษาโรคภูมิแพ้ |
ดังนั้� บทความนี้จึงพยายามกล่าวถึง โรคภูมิแพ้ในแง่มุมที่แตกต่าง�กหนั�ือทั่วไป และเสนอเคล็ดลับการควบคุมโรคภูมิแพ้ เพื่อจะช่วยให้คุณดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปกติสุ� มากที่สุ� ยกตัวอย่างเช่น คำแนะนำอัน�เป็น ที่จะเตือนคุณให้ต้องคอยดูแ� เครื่องปรับอากาศให้สะอาดอยู่เสมอ หากคุณอยากหายใ�ล่�บา� เพราะการหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นภูมิแพ้นั้� นับเป็นหัวใจของการต่อสู้กับโรคภูมิแพ� เลยทีเดียว ดังคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า "ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ"
อย่าเจอะเจอสารกระตุ้� ดีกว่าคอยกินยาเมื่อเกิดอาการ ยิ่งคุณทำสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณให้ปราศ�กการกระตุ้นได้เพียงไ� คุณยิ่งปลอดภัย�้นเท่านั้น
และระหว่างที่รอให้ระบบภูมิคุ้มกันกลับคืนเป็นปกตินั้น บ่อยครั้งที่คุณอาจ�เจอะเจอสารกระตุ้นภูมิแพ้โดยไม่ตั้งใจ แพทย์แผนปัจจุบัน��วยแก้ปัญหาให้คุณได้ดีด้วยยาเม็ดหรือยาฉีดที่จะช่ว� บรรเทาอาการแพ้ได้ชั่วครั้ง�่วคราว และป้องกันมิให้โรคกำเริบ ยาเหล่านี้ได้แก่
|
| การแพทย์ผสมผสานกับโรคภูมิแพ้ |
ข้อดีหลายประการของการแพทย์แผนปัจ�บันคือ มี�ดเด่นที่ความรู้เ��ึก แพทย์แผนปัจจุบัน��วยคุณวินิจ�ยว่า คุณเป็นโรคภูมิแพ้จริ�รือเป็นโรคติดเ�้ออื่น � ที่มีอาการใกล้เคียงกัน และช่วยทดสอบว่� สารตัวใดในสิ่งแวดล้อมรอบตั� หรือในอาหารเป็นตัวกระตุ้นภูมิแพ้ และความรุนแรงของโรคภูมิแพ้ในระดับใ� ต้องการการรักษารีบด่วนเพื่อบรรเทาอาการหรือไม� ยาแผนปัจ�บันออกฤทธิ์ได้รวดเร็วรุนแร� �งช่วยชีวิตได้ในหลายกรณ�
ในทางกลับกัน ถ้าคุณเหมือนคนอีกจำนวนมากที่เป็นโรคภูมิแพ้แบบไม่รุนแรงแต่เรื้อรั� นับปีหรือหลายป� คุณจะเริ่มเห็นข้อจำกัดของการแพทย์แผนปัจจุบันว่� ไม่สามารถช่วยให้คุณหาย�ดได้
เช่นนี้แล้� คุณอาจมอ�าวิธีอื่� � ที่ไม่มีในตำราแพทย์แผนปัจจุบัน เป็นการลองถูกลองผิดที่คุณตัดสินใ�ลือกด้วยตัวเอง และนี่คือที่มาของการแพทย์ทางเลือ�
และต่อไปนี� คื� การแพทย์ทางเลือกบางประกา� ที่มีผู้นิยมใช้เพื่อบรรเทาโรคภูมิแพ้ในภาพรวม มันอาจเป็นประโยชน์หากรู้�กนำมาใ�ผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจ�บั�
|
| การดูแลตนเองด้วยโภ�าการ |
สารก่อภูมิแพ้เรียก อัลลเลอร์เจน (Allergen) �่งอา�ีอยู่ในสิ่งแวดล้อม มลภาวะอากา� เครื่องนุ่�่ม และอาหาร ผู้ป่วยคนหนึ่ง เมื่อทำการทดสอบหาสารกระตุ้นภูมิแพ้ด้วย วิธี Skin test พบว่� แพ้สารรอ� � กายถึง 36 �ิด ยังไม่นับรวมการแพ้ที่เกิดจากอาหา�
| อาหารกับภูมิแพ� |
�ดี� อายุ 38 ปี ได้รับการวินิจ�ยจากแพทย์ว่า ป่วยเป็นโรคไขข้อรูมาตอยด� มานานถึง 11 ปี ข้อแ��และสะโพกมีอาการอักเสบรุนแรงและบวมโ� การเคลื่อนไหวทำได้อย่า�ากลำบา� และเ�บปวดจนต้องร้องโอ� เธอใ�เวลาส่วนใหญ่นั่งนิ่ง � บนเก้าอี้ล้อเลื่อน คิดดูสิครั� ใครจะเลี้ยงดูเธอ อา�พการงานจะเป็นอย่างไร
�ดี้พยายามรักษาตัวเองทุกวิถีทาง แต่ไม่มีใครช่วยเธอได้เลย แพทย์ใ�วิธีการสมัยใหม่ทุก�ิด ยาทุกตัว เช่น �ลิ�ยเลต หรือแอสไพริน ยาแก้ปวดแก้อักเสบที่มิใช่สเตียรอยด� สารประกอบทองคำเพนิ�ลลามีน เพรดนิโซโล� หรือแม้แต่การถ่ายเลือด
ยาทั้งหมดที่กล่าวม� ไม่ทำให้�ดี้อาการดี�้นแต่ตรงข้าม เธอกลับได้รับผลข้างเคียง �กยาอีกต่างหา� เช่น เกิดแผลในกระเพาะ คลื่นไส้ อาเจีย� ฯล�
ต่อมาผู้เชี่ยว�ญด้านโรครูมาตอยด� ของโรงพยาบาลแฮมเมอร์สมิธ ในลอนดอน ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมแปล� � บางประการของเธอเกี่ยวกับการรับประทานอาหา� �ดี้กินเนยแข็งเป็นว่าเล่น
แพทย์ซักประวัติใหม� และพบว่าผู้ป่วยเป็นคนติดเนยแข็� เธอสารภาพว่า เมื่ออายุพ้นวัยยี่สิ� ตนเองคลั่งไคล้เนยแข็� บางครั้งกินถึงวันละครึ่งกิโล
นอกจากนี� แพทย์ยังสังเกตพบว่� �ดี้แพ้ยาหลายตั� แม้แอสไพรินก็ยังให้ความรู้สึกป่วนท้อ� แพทย์ผู้เชี่ยว�ญนึกสงสัยขึ้นมาว่า เป็นไปได้ไหม โรคปวดข้อรูมาตอยด์ที่เธอเป็นนา� 11 ปี แท้ที่�ิงเป็นอาการที่เกิดเพราะแพ้อาหารมีความสัมพันธ์กับเนยแข็งที่เธอกินวันละมาก � หรือบางทีอาการเจ็บข้อทั้�มด เกิดเนื่อง�กสารบา�ย่างในเนยแข็� ไปกระตุ้นให้ร่างกายหลงเข้าใจผิดว่า เนื้อเยื่อบริเวณข้อเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ต้องกำ�� ดังนั้� ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย�งถูกกระตุ้� จนกลายเป็นการทำลาย เนื้อเยื่อในกระดูกและข้อของตนเอง ?
เมื่อส�ัยก็ต้องพิสูจน� และพิสูจน์ไม่ยากเลยครั� คนไข้ถูกขอให้งดอาหาร�พวกเนยและนมทุก�ิด
สิ่งมหัศ�รย์บังเกิดในเวลา 2 เดือ� อาการปวดข้อและบวมตอนเช้าพลันหายไปเป็นปลิดทิ้� เธอสามารถกำมือได้สบา� การวิเคราะห์เลือดแสดงให้เห็นว่� ภูมิคุ้มกันที่ถูกสร้างมาแบบผิด � บัดนี้กลับคืนสู่สภาพปกติ
ลองคิดดูเถิดครับ อา�พการงานเสียหายยับเยิ� �กคนปกติกลายเป็นคนพิการเพราะเนยแข็งแท� �
หลัง�กนั้� 10 เดือ� แพทย์ได้เชิญ�ดี้มาทำการทดสอ� โดยให้เธอดื่มนมและเนยแข็�ย่างเต็มที่สมใ�ยา� พบว่าเพียง 24 �่วโม� ร่างกายเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันทันท� เธอมีอาการปวดข้อ ข้อบวมอีกครั้ง เมื่อทดสอบทางภูมิคุ้มกันก็ได้พบว่า IgE แอนตี้บอดี� ให้ผลเป็นบวกทั้งกับนมและเนยแข็� �ดี้คงจะจำไปจนตาย
ลองดูอีกสักตัวอย่างครั�
�ศรีพบด้วยตนเองว่� เวลาเธอทานอาหารบางอย่า� เธอจะมีอาการผิดปกต� คื� ปวดตามข้� คั่งใน�ูก และรู้สึกโหวงเหวงเหมือนสมองกลว� แพทย์ผู้เชี่ยว�ญด้านภูมิแพ้ทดสอบหาสารกระตุ้นภูมิแพ้โดยวิธีทดสอบ หาสารกระตุ้นภูมิแพ้โดยวิธีทดสอบผิวหนัง หรือ Skin test พบว่� เธอแพ้ฝุ่นละออ� เกสรดอกไม้ ใยฝุ่น�กพรม �งให้ยาแก้แพ้ถุงใหญ� และให้ระวั�ลีกเลี่ย�ารกระตุ้�
น่าเสียดายที่การทดสอ� Skin test ไม่ค่อยมีประโย�์ในกรณีแพ้อาหา� ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าชูศรียังแพ้อาหารบาง�ิด
�ศรีทนทรมานอีกหลายป� มีเพื่อนแนะนำให้ไปหาหมอคนหนึ่งในต่างประเทศ หมอสั่งเ�ะเลือดทดสอบหาสารกระตุ้นภูมิแพ้โดยวิธ� IgG RAST และพบว่าเธอแพ้อาหารพวกธัญพืช ข้าวโพ� มะเขือเท� แล� อื่น � อีกหลายชนิ�
�่งเมื่อค้นหาอย่างถึงที่สุด ก็พบว่าเกิดจากยีสต์ที่ปนปลอมในอาหารเหล่านั้น
หมอให้หยุดอาหารที่สงสั� 3 อาทิตย� ปราก�่าอาการภูมิแพ้หายเป็นปลิดทิ้� ทุกวันนี้เธออาการดีขึ้นมาก หมอสั่งให้ออกกำลังกายสม่ำเสม� กินอาหารผลัดเปลี่ยนไม่�ำซาก กินกระเทียมสกั� เมล็ดเกรพฟรุตสกั� และนมเปรี้ยว�ิดมีเชื้อแลคโตบา�ลลัส อซิโดฟิลัส
บัดนี้สุขภาพโดยรวมของชูศรีดี�้นมา� เธอทานอาหารได้หลาก�ิด รวมถึงบางชนิดที่เคยกระตุ้นภูมิแพ� เธอไม่ทานอาหาร�ิดใด � �ำกันเกินสอ�ัน งดอาหารที่มียีสต� เดี๋ยวนี้เธอมีสมองแจ่มใส ผิดกับ�ศรีคนเดิมอย่างน่าแปลกใ�
| อาการภูมิแพ้�กอาหาร |
อาการภูมิแพ้อาหารสามารถเกิดได้ทั่วร่างกา� ตั้งแต่ปวดท้อง นิ� � จนถึงตาย ถ้าป�กิริยาการแพ้เกิดระหว่างที่อาหารเดินทาง�กปากถึงกระเพาะลำไส� ร่างกายจะแสด�าการตอบโต้ เพื่อขับสารที่ไม่ต้องการออกทันที ด้วยการคลื่นไส้อาเ�ยน หรือถ่ายออกอย่างรวดเร็� ทำให้ท้องเสี� ท้องเดิน หรืออา�ยุดยั้งมันไว� ทำให้เกิดอาการหดเกร็งในช่องท้อ�
แต่ถ้าสารกระตุ้นภูมิแพ้จากอาหารถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด อาการแพ้ก็�ลุกลามทั่วตั� ทำให้หอบหื� คัดจมูกน้ำมูกไหล หายใ�ำบาก หรือแสดงอาการทางผิวหนั� เกิดลมพิ� เห่อบว� ร้อนแด� และมีอาการต่อการทำงานของสมอง ทำให้ปวดหั� หงุดหงิด กระวนกระวา� อารมณ์แปรปรว� เหล่านี้ล้วนเกิด�กการแพ้อาหารได้เ�นกัน
อาหารทุก�ิด ไม่ว่า�เป็น พื� ผั� เนื้อสัตว์ ปล� อาหารทะเ� เมล็ดพืช ธัญพืช น้ำตาล กาแฟ สุรา นมและผลิตภัณฑ์ สารปรุงแต่�สอาหาร ล้วนสามารถกระตุ้นการแพ้ได้ โดยอาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง หรืออา�ปทำให้ภูมิคุ้มกันแปรปรวน อ่อนแอจนทำงานผิดพลาด
ภูมิแพ้ที่เกิด�กอาหาร สามารแสด�าการได้เ�นเดียวกับการแพ้ฝุ่นละอองและควันบุหรี� เราสามารถจำแนกลักษณะการแพ้อาหารเป็นกลุ่มได้ดังนี�
|
| การวินิจ�ยภูมิแพ้�กอาหาร |
| ปัญหาในการวินิจฉัย อาจจำแนกได้เป็� 4 ประการคื� หนึ่� คนเรากินอาหารหลากหลา� แพทย์จะรู้ได้อย่างไรว่� คุณแพ้อะไร แม้แต่คนที่กินอาหารซ้ำ�กจำเจทุกวั� เช่น เช้ากินขนมปั� กาแฟ ไส้กรอ� ใน�มปังมีทั้งสารกลูเต� นมหรือผลิตภัณฑ์จากนม เน� ไขมันแปลสภาพ กลิ่นสังเคราะห� สีสังเคราะห์ สารกันบู� แล้วในกาแฟหนึ่งแก้วมีอะไรบ้า� ครีมเทีย� มีสารสังเคราะห์มากมา� น้ำตาลทราย มีสารฟอกสี หรือคุณอาจเติมสารให้ความหวานแทนน้ำตา� โอ��ระไนไม่หมด ดังนั้นการ�ค้นหาให้ถึงต้นตอว่าคุณแพ้อะไรในอาหาร �งมิใ�เรื่องง่าย และอาหารสำเร็จรูปมักมีสารเคมีปะปนมากมายคาดไม่ถึงทีเดีย� สอ� การแพ้อาหารมีอาการคล้ายคลึงกับโรคบาง�ิด คุณดื่มนมแล้วท้องเสี� พูดอย่าง�วบ้านว่า คุณแพ้นม แต่เมื่อพูดในแง่มุมของนักวิชาการ คุณอาจไม่ได้แพ้น� คุณเพียงไวต่อน้ำตาลแลคโตสในน� คุณกินอาหารทะเลแล้วปวดท้อง อา�ป็นเพราะเชื้อแบคทีเรียบางชนิ� �่งก่อโรคอาหารเป็นพิษ หรือคุณอาจเป็นผื่นคันจากสารกระตุ้นภูมิแพ้ในอากาศ�วงที่คุณกำลังทานอาหารพิเศษ บา�ย่าง คุณเลยหลงเข้าใ�่าเกิดลมพิษเพราะแพ้อาหาร สา� เมื่อคุณเกิดอาการแพ้ ไม่ว่า�มีสาเหตุมา�กอาหาร ฝุ่นละออ� เกสรดอกไม้หรือฝุ่นไรในห้องนอ� มันสามารถก่ออาการเหมือนกันคื� หายใ�ำบาก �� ผื่นลมพิ� คนส่วนใหญ่�เพ่งเล็งสารแปลกปลอมในอากาศมากกว่าจะคิดถึ�ารแพ้อาหาร และนอก�กนี้การทดสอบทางผิวหนัง �่งเป็นที่นิยมในปัจ�บั� �ให้ผลดีกับการสารกระตุ้นในอากาศ แต่มักไม่ได้ผลกับอาหาร ดังนั้นแพทย์�งมุ่งประเด็นไปที่อากาศมากกว่าอาหาร กล่าวกันว่าการทดสอบการแพ้อาหารที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบันเรียกว่า วิธี Ellmination challenge diet ฟังชื่อยาวน่าตกใ� แต่วิธีการกลับง่ายไม่มีเครื่องมือยุ่�าก เพียงใ�ความอดทนและความร่วมมือ�กคนไข้อย่างเต็มที่ วิธีกา� คื� คนไข้ต้องคอยสังเกตสม่ำเสมอว่� ก่อน�มีอาการภูมิแพ้นั้น ตนกินอะไรบ้า� จดไว้ทุกครั้� และหาดูว่าอาหารชนิดใดที่น่าส�ัยว่าจะเป็นตัวกระตุ้นภูมิแพ้ �ดเมนูอาหารใหม่ งดอาหารที่สงสัยทุก�ิดเป็นเวลา 3 สัปดาห� หากอาการแพ้หายไป�งค่อยใส่รายการอาหารนั้นกลับคืนมา แล้วสังเกตว่� อาหารใดบ้างที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ทุกครั้ง หลักสำคัญคือ ต้องสังเกตทุกสิ่งที่ตกลงสู่กระเพาะ ไม่ว่า�เป็นอาหา� เครื่องดื่� ยา และสังเกตภาวะแวดล้อม สภาพ�ตใ� ความเครียด �ะทานอาหารด้ว� ด้วยความพยายามของคุณเอ� คุณอาจพบสารกระตุ้นภูมิแพ้อาหารได้ด้วยตนเอง |
| คำแนะนำพื้นฐาน สำหรับโรคภูมิแพ้�กอาหาร |
การหลีกเลี่ย� เป็นวิธีที่ตรงไปตรงม� ได้ผลดีกรณีที่คุณแพ้สา� ไม่มาก�ิด แต่ในทางปฏิบัติจริ� � กลับทำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่นคุณแพ้ไข่แดง คุณต้องงดไข่แด� �่งอาจปรุงเป็นอาหารเห็น�ดเจน�พวกไข่เจีย� ไข่ดาว ไข่ลวก หรือแฝงตัวมาในข้าวผั� ราดหน้� �มปัง เค้ก ทอ�ยิ� สังขยา บะหมี่ ฯล� การหมุนเวียน ในกรณีที่คุณแพ้อาหารบางชนิ� ที่ไม่รู้แน่�� คุณอาจได้รับประโยชน์�� วิธีการทานอาหารหมุนเวียน สลับกันไม่�ำซาก ผมเคยเห็นคนที่ทานข้าวไข่เจียวราด�สแดงเป็นอาหารเที่ยงทุกวันนานเป็นปี แบบนี้อันตรายครั� ในแง่โภชนาการเราควรทานอาหารหลากหลา� ดังนั้� คำแนะนำข้อนี้จึงมีแต่ประโย�์ไม่มีโทษครั�
ผู้เ�่ยวชาญท่านหนึ่งแนะนำว่� คุณไม่ควรทานอาหารซ้ำเกิน 2 ครั้งในหนึ่งวั� เช่น เช้าก๋วยเตี๋ยว เที่ยงก๋วยเตี๋ยว เย็นน่าจะเปลี่ยนไปเป็นอย่า�ื่� ใครที่ทานบะหมี่ซองวันล� 3 มื้อ ปรับเปลี่ยนดีกว่าครั�
การหมุนเวียนยังช่วยให้คุณได้รับสารอาหารครบถ้วน ระบบ ต่าง � ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และบางทีระบบภูมิคุ้มกันอาจกลับสู่สภาพดีด้ว� อ้�ออกห่า�าหารสำเร็จรูปให้มากไว้ครับ
นอกจากนี้เราควรเรียนรู้ว่า มีสารอาหารบางชนิ� ที่มีบทบาทหน้าที่เป็นพิเศษต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกั� ดังนี้
| สังกะส� (Zinc) |
มีการศึกษาหลาย�้นที่ให้ผลว่� ถ้าคนเราได้รับสังกะสีปริมาณเพียงพอแก่ความต้องการขอ�่างกายแล้ว �มีผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราอยู่ในสภาพสมบูรณ�
เรารู้มานานแล้วว่าในร่างกายมนุษย์มีต่อมชนิดหนึ่ง เรียกว่า ต่อมไทมั� (Thymus Gland) �อนอยู่ด้านหลังของกระดูกหน้าอ� ทำหน้าที่สำคัญในการควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตลอดชีวิต
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า �วงแรกเกิดต่อมไทมัส ในทารกมี�าดใหญ่กว่าหัวใ�สียอีก แต่มัน�ค่อย � ลด�าดลง สวนทางกับอายุที่เพิ่มขึ้�
เมื่ออายุถึง 40 ปี แพทย์แทบ�หารอยรูปต่อมไทมัสของคุณบนฟิล์มเอ๊ก�รย์ไม่พบ การลดขนาดของต่อมไทมั� เป็นหนึ่งในตัว�้วัดสำคัญที่บอกให้รู้ว่า คุณกำลังแก่ล� �่งก็เป็นเรื่องธรรมดา พอแก่ตัวลงบา�ย่างก็หดบา�ย่างก็เหี่ยว
ถ้าลำพังต่อมไทมัสลดขนาดเพียงอย่างเดียว คงไม่มีใครเดือดร้อ� แต่เราพบว่� ภูมิคุ้มกันในร่างกายพลอยเหี่ยวตามไปด้ว�
ดร.วิลเลียม แอดเลอร์ ผู้เ�่ยวชาญระบบภูมิคุ้มกั� ได้ศึกษาการทำงานของต่อมไทมัสมาเป็นเวลานา� เขาพบว่า หากต่อมไทมัสลด�าดลง การทำงานของเ�ล์เม็ดเลือดขาว�บกพร่อ� ไม่สามารถทำลายเชื้อโรคผู้บุกรุกได้ อัตราตาย�กโรคธรรมดาเช่น หวัดในคนอายุ 70 ปี ��ูงเป็น 35 เท่าของเด็กสิบ��
ดร.นิโคลา ฟาบริส ได้ทำการศึกษาที่อิตาลี โดยป้อนหนูทดลองที่มีอายุ ด้วยอาหารผสมแร่ธาตุสังกะสีทุกวัน พบว่� ร้อยละแปดสิบขอ�นูทดลองมีการทำงานของต่อมไทมัสดีขึ้� มีการหลั่งฮอร์โมนไทมิวลิ� (Thymulin) และฮอร์โมนอื่น � �่งไปกระตุ้นการสร้า� T-cells �่งมีหน้าที่กำจัดเชื้อโรค
เช่นเดียวกับนักวิจัยในอเมริกาและฝรั่งเศส ที่สามรถกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยสังกะส� มีการทดลองให้สังกะสี 20 มิลลิกรัมต่อวันแก่ผู้สูงอายุ 73-106 ปี พบว่าภายในสองเดือน ฮอร์โมนไทมิวลินเพิ่ม�้น 50% โดยไม่มีผลข้างเคีย�ื่นใ� แต่พบปริมาณอัลบูมินและแกมมาอินเตอร์เฟอรอนเพิ่มด้วย �่งเป็นสิ่งดีสำหรับผู้สูงอายุ
การค้นพบใหม่ � เหล่านี้ ได้นำทางนักวิทยาศาสตร์ให้เ�ะลึกไปในโลกของสังกะสีกับความสัมพันธ์ต่อสิ่งมีชีวิต เรายังต้องการผลการศึกษาอีกมากเพื่อนำสังกะสีมาบรรเทาโรคภูมิคุ้มกั�
| แหล่�ังกะสีในอาหา� |
ปริมาณที่แนะนำสำหรับการบริโภคประ�วันคือ สำหรับผู้ชาย 15 มิลลิกรั� ผู้หญิ� 12 มิลลิกรั� ทารก 3 มิลลิกรั� เด็ก 1-10 ปี 10 มิลลิกรั� หญิงมีครรภ� 15 มิลลิกรั�
กรณีที่ท่านทานวิตามินเกลือแร่ชนิดเม็ดอยู่แล้� ขอแนะนำให้เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของสังกะส� ทองแดง และซิลีเนียมอยู่พร้อมหน้ากันเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภา� อัตราส่วนของสังกะสีต่อทองแดงควรเป็� 10:1 เช่น ถ้ามีสังกะสี 15 มิลลิกรั� ก็ควรมีทองแดงผสมในสูตร 1.5 มิลลิกรัมด้ว�
| �ลีเนีย� |
มันมีฤทธิ์�วยร่างกายต้านมะเร็� ป้องกันโรคหัวใ� และมีการอ้างอิงในวงการแพทย์สมัยใหม่ว่า �ลีเนียมสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ หากร่างกายได้รับเพิ่มในปริมาณที่เพียงพ�
ผล�กการทดลองให้�ลีเนียมร่วมกับวิตามินอีแก่สัตว์ทดลอง แล้วพบว่� สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เพิ่ม�้นได้อีกถึ� 30 เท่า นับว่าภูมิคุ้มกันเพิ่มสู�ย่างยิ่ง
และการวิ�ยคล้ายคลึงกันในโ�วียตยังช่วยยืนยันงาน�้นนี้ว่า น่าเ�่อถือได้
งานวิจัยอีกชิ้� ทำโดยหยด�ลีเนียมใส่ในน้ำดื่มในความเข้� 2.5 ppm (ส่วนในล้านส่วน) แล้วให้อาสาสมัครที่เป็นมาลาเรียดื่� พบว่� �ลีเนียมช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคมาลาเรีย ทำให้หาย�กโรคเร็ว�้น เห็นได้ชัด และอัตราตายก็ลดลงเ�นกัน
การขาด�ลีเนียมส่งผลให้เ�ล์ฟาโกไซท์ �่งทำหน้าที่ป้องกันร่างกา� ลดประสิทธิภาพล� เช่นเดียวกับเซลล์เม็ดเลือด�วในสุนัข�เฉื่อย�เมื่อขาด�ลีเนีย� และในทางตรงกันข้ามกลับกระฉับกระเ�เมื่อได้รับซิลีเนียมเพิ่มในอาหาร
�ะนี้งานวิจัยหาความสัมพันธ์ระหว่างภูมิคุ้มกัน �ลีเนีย� และวิตามินอี กำลังดำเนินไปไม่หยุดยั้ง สักวันหนึ่งความลับคงถูกไขออกมาให้เป็นที่กระจ่า�
แหล่งซิลีเนียมในธรรม�ติ แหล่งที่ดีที่สุดคื� แหล่งจากธรรม�ติ อาหารที่มี�ลีเนียมสูงได้แก่ บร็อกโคลี่ เห็ด กะหล่ำปล� แตงกวา หอ� กระเทียม
แต่อย่างไรก็ตา� ปริมาณ�ลีเนียมในอาหารธรรม�ติ �้นกับแหล่งดินที่เพาะปลูก และในเมืองไท� ผมไม่เห็นรายงานการวิ�ยปริมาณซิลีเนียมในดิ� ��าก�รับประกันว่า พื�ักที่กล่าว �มี�ลีเนียมมากน้อยเพียงพอกับความต้องการหรือไม่
สภาวิจัยแห่ง�ติอเมริกาได้ประกาศเร็ว � นี้ว่า �ยสุขภาพปกติควรได้รับ�ลีเนีย� 50 ไมโครกรัมต่อวั� ส่วนหญิงควรเป็� 55 ไมโครกรัมต่อวั�
�ลีเนียมที่ร่างกายดูด�มไปใ�ประโยชน์ได้ดีที่สุดอยู่ในรูปสารอินทรีย� คื� ในพื�ักที่กล่าว โดยเ�าะกระเทียมมี�ลีเนียมสูง แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์เสริม อา�าในรูปสารประกอบอินทรีย์ที่�่อ L-Selenomethionine �่งดีกว่า พวกสารอนินทรีย�
อ่าน�ากให้ถ้วนถี่ครับ ถ้าฉลากเ�ยนว่าสารสำคัญคือ Sodium selenite หรือ Sodium selenate แสดงว่าเป็นสารอนินทรีย� แต่ถ้าเขีย� L-Selenomethionine แสดงว่าเป็� สารอินทรีย� หากไม่แน่ใ� ปรึกษาเภสั�รประ�ร้านที่คุณคุ้นเคยครั�
| วิตามินเ� |
| ผลต่อภูมิคุ้มกัน |
ในปัจจุบัน พบว่าวิตามินเอ มีส่วนเสริมในการป้องกันและขจัดเชื้อโรค โดยการบำรุงเลี้ยงผิวหนังและเยื่อบุต่าง � เพื่อให้เกิดความแข็งแร�่างกาย ��ามารถป้องกันการโ�ตีของแบคทีเรียและไวรัส�้นพื้นฐานได้ โรคที่เกิด�้นทั่ว � ไป เป็นที่รู้�กกันดี อาทิ ปอดบวม หลอดลมอักเสบ และการติดเ�้ออื่น � ขอ�ะบบทางเดินหายใ�
ถ้าเกิดการสูญเสียวิตามินเอ แล้วเราไม่บริโภคเข้าไปทดแทนในปริมาณที่เหมาะส� �มีผลให้ภูมิต้านทานโรคในร่างกายลดต่� โรคร้ายกลับกำเริ�
ยังดีที่ตับเป็นแหล่งสะสมวิตามินเอขนาดใหญ� ร่างกายจึงสามารถดึงมาใ�ยามฉุกเฉินหรือ�ดแคลนได้
| วิตามินอ� |
ดังนั้นเรา�งพบวิตามินอีในอาหารที่เป็นมันหรือส่วนน้ำมั� เช่น น้ำมันพื� (น้ำมันถั่วเหลือง ดอกทานตะวั� และข้าวโพด) เมล็ดพืช เมล็ดถั่� ข้าว�อมมื� รำ ผักบาง�ิด
บอกก่อนนะครับว่า ทั้งหมดที่กล่าวนี้มีเพียงพอสำหรับความต้องการไม่เกิ� 30 หน่วยสากลต่อวั�
แต่ถ้า�ให้ได้�าด 400 หน่วยสาก� เพื่อหวังผลป้องกันโรคหัวใจหรือกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อาหา� 5 หมู่ยังไม่เพียงพอแน่นอ� เพราะการที่จะให้ได้วิตามินอีใน�าด 400 หน่วยสากลต่อวันนั้� ดร.อลัน เช� แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตั� คำนวณว่า คุณต้องดื่มน้ำมันข้าวโพดวันล� 2 �ดใหญ� หรือกินถั่วลิส�ันละ 28 ถ้วย หรือรำวันล� 2 กิโลกรัม �่งคุณก็จะกลายเป็นหมูอ้วน มันจุกอกตายไปเสียก่อ�
ในท้องตลาด มีวิตามินอีขายหลายรูปแบบ เช่น �ิดสกัด�กธรรมชาต� (d-alpha Tocopherol) หรือ�ิดสังเคราะห์ (dl-alphatocopherol) ในรูปผงแห้� และเป็นน้ำมันใสในแคป�ลอ่อ�
| ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกั� |
บทความทางการแพทย์บาง�้นกล่าวว่า คุณประโย�์สำคัญขอ�ิตามินอี คื� การเพิ่มภูมิคุ้นกั� ส่งผลให้ผู้บริโภควิตามินอีทุกวัน มีอายุยืนยาว�้น และไม่เจ็บป่วยด้วยโรคชราอย่างคนทั่วไ�
| สารฟลาโวนอยด์ส (Flavonoids) |
ส้มเป็นผลไม้อีกชนิดที่มีทั้งสารฟลาโวนอยด์สและวิตามิน�มากมาย เลือกทานส้มสดสีเหลืองพร้อมกา� ได้ประโย�์หลายสถานทีเดียวครับ
| นมเปรี้ย� |
การศึกษาในญี่ปุ่� อิตาลี และสวิตเ�ร์แลนด์เมื่อไม่นานมานี� พบว่� นมเปรี้ยวมีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้นได้ด้วย
นมเปรี้ยวจึงมีฤทธิ์คล้ายยารุ่นใหม่ของโลกที่กำลังฮือฮาขณะนี� ยาที่รักษาโรคด้วยการกระตุ้นภูมิคุ้มกันขอ�่างกาย ที่เรียกว่� Immunostimulants หรือ Immunlpotentiators �่งเป็นยาในกลุ่�Biological Modifiers
ดร.คลอดิโ� เด� �มโมน แห่งมหาวิทยาลัยโรม กล่าวว่า คนญี่ปุ่นทุกวันนี้ ก็ได้ใ�นมเปรี้ยวเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันอยู่ การทดลองในปี 1985 พบว่� นมเปรี้ยวช่วยกระตุ้นการสร้างสารแอนตี้บอดี้ และสารต้านโรคอื่� � เพิ่มปริมาณอินเตอร์เฟอรอนเป็นสามเท่า (อินเตอร์เฟอรอน เป็นสารเคม� ที่ร่างกายสร้างโดยธรรม�ติ มันช่วยต่อสู้กับโรคติดเชื้อหลายชนิ�) ดร.เดอซิมโมนกล่าวว่� นมเปรี้ยวมีฤทธิ์แรงพอกับยาสังเคราะห์ในท้องตลาดปัจจุบันคื� Lavaesole
ตรวจดูอายุนมเปรี้ยวก่อนบริโภคทุกครั้� และควรเก็บนมเปรี้ยวไว้ที่อุณหภูม� 1-8 องศาเซลเ�ยสไม่ควรแช่แข็�
ท่านผู้อ่านครั� ดังที่กล่าวไว้แต่ตอนต้นของบทความ�ดโรคภูมิแพ้แล้วว่า โรคภูมิแพ้มีสาเหตุ ที่มาที่ไป�บซ้อ� ��ย่าหวั�่า การรักษาแบบหนึ่งแบบใ� เพีย�ย่างเดียวจะเพียงพอให้ท่านหมั่นดูแลอาหารการกิ� หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น ออกกำลังกายสม่ำเสม� ทำ�ตใ�ห้ร่าเริงแ�มใ� ฝึกสมาธิ เหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมครั�
และวันหนึ่� เมื่อได้ดูแลร่างกายอย่างเอาใ�ส่คุณอาจพบว่� ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดพลาดอาจกลับมาทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรงอีกครั้ง
ในกรณีโรคเรื้อรั� บุคลากรในวงการแพทย์ทั้�ลายอาจ�วยตรวจสอ� ตรวจหาวินิจฉัยให้คำแนะนำ พยาบาล กำหนดแนวทางการรักษาให้ท่าน แต่ไม่มีใครดูแลท่านได้ดีเท่ากับตัวท่านเอ�
เภสั�รจัก� ศิริบริรักษ์
| main | ![]() |
![]() |
|
|
![]() |
|
vote ให้กำลังใจด้วยครับ