มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.geocities.com/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc

[ คัดลอก จากนิตยสารแม่และเด็ก ปีที่ 22 ฉบับที่ 321 พฤศจิกายน 2541]

ถ้าลูกมีน้ำมูกไหลตลอดเวลา

มาชาวี


คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอายุต่ำกว่า 10 ขวบ หรือมีอายุอยู่ในระหว่าง 10-20 ปี อาจจะเคยสังเกตเห็นว่า ลูกมีน้ำมูกไหลอยู่ตลอดเวลา และหลงพานคิดไปว่า ลูกเป็นหวัดทั้งปีไม่หายสักทีทั้งที่ให้ยากี่ขนานก็เอาไม่อยู่

ส่วนมากแล้ว เด็กเหล่านี้จะเป็นในลักษณะหายใจไม่ค่อยออก คันจมูก จามบ่อย และมีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาเสมอ มีอาการแน่นจมูก จนต้องหายใจทางปาก เวลานอนจะรนเสียงดัง หรือเวลาพูด เสียงจะขึ้นจมูก คันตา ทำให้มีน้ำตาไหลบ่อย ตาอักเสบ เด็กที่เป็น จะไม่มีอาการไข้หรือปวดเมื่อยเนื้อตัว ซึ่งแตกต่างจากโรคหวัดธรรมดา ที่มีน้ำมูกข้นกว่า

อาการเหล่านี้เป็นโรคภูมิแพ้อย่างหนึ่งที่พบได้บ่อย ในเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 ขวบขึ้นไป แต่ในเด็กอ่อน หรือเด็กวัยรุ่นก็อาจพบได้

การที่ร่างกายของเด็กเกิดภูมิแพ้นั้น แพทย์มักจะพบประวัติ ของคนในครอบครัวที่เป็นมาก่อน ซึ่งการเกิดอาการนี้ก็มีจากหลายๆ สาเหตุด้วยกัน เช่น การกินอาหารทะเลบางชนิด ในบางคนจะคัน และมีผื่นขึ้น หรืออาจจะมีอาการทางจมูกอย่างเดียวที่กล่าวมาแล้วก็ได้ บางรายสภาพร่างกายจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ พอเข้าหน้าฝน หรือหน้าหนาวอาการกำเริบทันที แต่คนที่เกิดอาการอย่างนี้ไม่ได้ หมายความว่า จะแพ้อากาศเสมอไปนะคะ แต่อาจเป็นเพราะในสองฤดูนี้ มีละอองเกสรของดอกไม้บางชนิดที่ปลิวอยู่ตามอากาศ พอเราสูดหายใจเข้าไป ก็ทำให้มีอาการนี้ได้

ในบางกรณีก็อาจเกิดการเปลี่ยนย้ายสถานที่อยู่อาศัย ที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับฝุ่น ควัน ละอองหรือสารเคมีจากโรงงาน หรือแม้กระทั่งขนแมว สุนัข นก และแมลงต่างๆ ในบ้าน หรืออยู่ภายในสภาพแวดล้อมที่มีสัตว์เลี้ยงเหล่านี้อยู่ ก็จะทำให้เด็กๆ หรือแม้กระทั่งตัวของเราเองเกิดอาการแพ้ได้

นอกจากนี้ อาหารจำพวกนม ไข่ หรือเมล็ดพืชบางชนิด ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ควรจะให้ความสังเกตอย่างใกล้ชิด ว่าลูกรักของเราจะเกิดอาการดังกล่าว เมื่อรับประทานอาหารบางชนิด หรือเวลาเข้าใกล้สัตว์เลี้ยง บ้านที่อยู่อาศัย อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร เพื่อแพทย์ผู้รักษาจะได้ตรวจสอบ และให้ยาได้อย่างถูกต้อง

บางครั้งการตรวจสอบอาจต้องใช้เวลานานเป็นเดือน จึงจะรู้ผลที่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องทำความเข้าใจและมีความอดทน จึงจะทำให้การรักษาได้ผลดี และจะต้องพาเจ้าตัวเล็กไปตามที่หมอนัดทุกครั้ง ถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อแพทย์จะได้ดูผลของการรักษา ได้อย่างต่อเนื่อง

ยาที่ใช้บรรเทาให้เจ้าตัวเล็กมีอาการทุเลาขึ้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด มีทั้งชนิดฉีด ชนิดที่ใช้เฉพาะในจมูก และชนิดที่ใช้รับประทาน แต่ยาดังกล่าวนี้จะสามารถช่วยให้ดีขึ้นในระยะหนึ่งเท่านั้น

การรักษาที่ดีที่สุด คือ พยายามหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการค่ะ

มาชาวี


ขอบคุณนิตยสารแม่และเด็ก ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600