|
"โรคตาหลายโรค ที่พบได้บ่อยอาจนำมาด้วยอาการตาแดง อาการและอาการแสดงที่เป็นอันตรายต่อสายตาได้แก่
อาการตามัวกะทันหัน อาการกลัวแสง และอาการปวดตา"
อาจกล่าวได้ว่า ตาแดง เป็นอาการแสดงที่รู้จักกันดีและสังเกตได้ง่าย
ทั้งผู้ป่วยและผู้พบเห็น บางครั้งมีเหมือนกันที่คนข้างเคียงเห็นอาการนี้
ก่อนเจ้าของตาเสียอีก จะด้วยเจ้าของตาไม่ได้ส่องกระจกดูหรือเพราะ ไม่ได้สนใจเนื่องจากไม่มีอาการอื่นเดือดร้อนก็เป็นได้ทั้งนั้นครับ
ฉบับนี้ก็เลยขอบอกสู่กันฟังว่า ตาแดง เกิดจากโรคอะไรได้บ้าง
อะไรที่สำคัญ อะไรเร่งด่วนและแนวทางการรักษาเบื้องต้นพอสังเขปครับ
อาการที่เกิดร่วมกับตาแดงและอาจช่วยบอกถึง
สาเหตุของตาแดงได้มีดังนี้คือ
- อาการคัน อาการคันในลูกตาอาจเกี่ยวข้องกับ
เยื่อตาอักเสบจากการแพ้
- รู้สึกเคืองตา บ่งบอกถึงภาวะตาแห้ง,
มีสิ่งแปลกปลอมในตา, เปลือกตาอักเสบ
- แสบตา แสดงถึงอาการของโรคที่เปลือกตา,
เยื่อบุตาหรือแก้วตา
- เป็นเม็ดหรือเจ็บบางจุด อาจเกิดจากฝีที่เปลือกตา
หรือกุ้งยิง
- ปวดลูกตา อาจเป็นอาการของม่านตาอักเสบ,
แผลที่แก้วตา, ต้อหิน, เยื่อหุ้มลูกตาอักเสบ, หรือการติดเชื้อรอบลูกตา
- กลัวแสง หมายถึง ตาสู้แสงไม่ได้จะเคืองตามาก
เป็นอาการของม่านตาอักเสบ, แผลที่แก้วตา, และต้อหิน
- น้ำตาไหล ลักษณะเป็นน้ำตาใส เกิดจาก
เยื่อตาอักเสบเพราะเชื้อไวรัสหรือสารเคมี
- ขี้ตาเป็นเมือก มักเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบ เพราะการแพ้
หรือการติดเชื้อแคลมมีเดีย
- ขี้ตาเป็นหนอง เกิดจากเยื่อตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย,
แผลที่แก้วตา, หรือการอักเสบรอบตา
|
ตาแดงร่วมกับโรคของเปลือกตา |
โรคของเปลือกตาหรือหนังตาที่พบได้บ่อย ได้แก่
- การอักเสบของต่อมเปลือกตาตามแนวขนตา
จะมีอาการเฉียบพลัน คือ เปลือกตาบวมและปวด มักจะสุก
และแตกระบายหนองออกภายใน 1 สัปดาห์ ถ้าไม่แตก
อาจกลายเป็นฝีที่ต้องผ่าเอาหนองออก การอักเสบชนิดนี้อาจ
จำกัดอยู่เฉพาะเปลือกตา โดยตาไม่แดงเลยก็ได้
- การอักเสบหรือติดเชื้อของต่อมด้านล่างของเปลือกตา มักจะ
เรื้อรังต้องผ่าหริอตัดเอาออก ถ้าติดเชื้อฝีก็อาจเกิดอักเสบอย่างเฉียบพลัน
- การอักเสบของเปลือกตา ถ้าเกิดจากติดเชื้อแบคทีเรียจะมี
อาการเฉียบพลันคือ อาการคล้ายมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา,
ปวดแสบปวดร้อน, มีหนองหรือน้ำเหลืองตามขอบตา
โรคที่พบได้บ่อยได้แก่
- การติดเชื้ออักเสบรอบดวงตา
การอักเสบนี้อาจลุกลามมาจากไซนัสอักเสบข้างดวงตา,
อาจเกิดจากติดเชื้อของดวงตาโดยตรง หรือจากการบาดเจ็บ
ต่อดวงตาแล้วมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง
และอาการรุนแรง รอบตาจะบวมแดง อาจบวมจนตาปิด
มีหนองออกมาจากตา โรคนี้อันตรายมาก
เพราะเชื้ออาจแพร่จากตาเข้าสู่สมองได้ง่าย
- เยื่อบุตาอักเสบ
โรคนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส
การแพ้สารเคมี หรือภาวะที่มีน้ำตาน้อย
ถ้าขี้ตามีลักษณะเป็นเมือกเหนียวๆ อาจเกิดจากการแพ้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดร่วมกับอาการคันและมีการแพ้
ที่ผิวหนัง จมูก หรือหอบหืดร่วมด้วย ขี้ตาลักษณะคล้ายหนอง
มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย กรณีตาจะแดงมาก
ขี้ตาเป็นน้ำใสๆ แบบน้ำตา อาจจากเชื้อไวรัส
ซึ่งมักจะมีต่อมน้ำเหลืองบริเวณหน้าหูโตขึ้นด้วย
แต่อาจเกิดจากสารเคมีระคายเคืองก็ได้
เยื่อบุตาอักเสบจากการแพ้ มักจะมีอาการแพ้อย่างอื่นอยู่แล้ว
เช่น ไข้ละอองฟาง, หอบหืด และโรคแพ้ของผิวหนัง อาจเกิดจากการถูกสารที่แพ้หรือเกิดในฤดูที่มีสารที่แพ้อยู่ในอากาศมาก นอกจากตาจะแดงแล้วจะมีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว, คัน, น้ำตาไหลมาก พบมากในเด็กโตและวัยย่างเข้าวัยผู้ใหญ่ อาจมีอาการในบางฤดู
หรือเป็นทั้งปีก็ได้ เยื่อบุตาจะบวมมากและอาจบวมขึ้นอย่างกะทันหัน
เยื่อตาอักเสบจากเชื้อหนองในอาจเล่นงานแก้วตาจนทะลุได้
ต้องรีบรักษาโดยเร็วที่สุด เชื้อแคลมมีเดีย อาจเข้าตาได้
จากการสัมผัสน้ำเมือกจากอวัยวะสืบพันธุ์ พบในเด็กแรกเกิด วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่มีกิจกรรมทางเพศมาก ขี้ตามาก
ลักษณะเป็นมูกปนหนอง เปลือกตาบวมและแดง
ตาแดงจากเชื้อไวรัสอาจเกิดร่วมกับคออักเสบและมีไข้ ชนิดที่ระบาดติดต่อกันง่ายจะเกิดจากไวรัสที่เรียกว่า
แอดิโนไวรัส ทำให้ปวดตา ตามัว เนื่องจากเชื้อเล่นงานที่แก้วตาด้วย
เชื้อไวรัสหัดเยอรมัน คางทูม และเริม ก็ทำให้เยื่อตาอักเสบได้
|
ตาแดงร่วมกับตาแห้งหรือระคายเคือง |
มีโรคตาหลายโรคที่มีอาการตาแห้ง การมีน้ำตาน้อย
อาจเกิดจากอายุมาก, มีโรคประจำตัว, ควัน,สารเคมี
หรือยาบางชนิด
- ต้อลม - ลักษณะเป็นเนื้อนูนๆ
ออกสีเหลืองตรงตาขาวด้านใกล้จมูก
เนื้อเยื่อนี้เป็นพังผืดปนกับไขมัน
- ต้อเนื้อ - เป็นเนื้อเยื่อที่มี เส้นเลือดฝอยเกิดใหม่
เริ่มจากตาขาวแล้วยื่นเป็นแผ่นเข้าไปตาดำส่วนที่เป็นแก้วตา
ทั้งต้อลมและต้อเนื้อนี้เป็นภาวะที่เกิดช้า ๆ และเรื้อรังเมื่อถูกลม
ฝุ่นละออง หรือสิ่งระคายเคือง จะทำให้อาการมากขึ้น
ต้อเนื้อหากเป็นมากจะปิดบังรูม่านตา ขัดขวางการมองเห็น
จำเป็นต้องล้างออก
- เลือดออกใต้เยื่อบุตา - อาการนี้ถ้าไม่ได้เกิดจากโรคเลือด
บาดเจ็บต่อลูกตาหรือการขยี้ตาแล้ว อาจเกิดขึ้น
จากภาวะที่ทำให้แรงดันในเส้นเลือดสูงขึ้น เช่น ขณะไอ, จาม หรือ เบ่งอุจจาระ
หรือเบ่งตอนคลอดบุตร บางทีก็พบว่าเกิดขึ้นเองโดยนึกสาเหตุไม่ออก
ภาวะตาแห้งอาจชวนให้ขยี้ตา บางทีอาจทำให้เลือดออกใต้เยื่อบุตาได้ครับ
โรคของตาที่มีอาการเข้าข่ายนี้ได้แก่
- เป็นแผลที่แก้วตา - ปัญหานี้พบบ่อยขึ้น
จากการใช้เลนส์สัมผัสกันมากขึ้น คอนแทคเลนส์ชนิดอ่อน
และชนิดที่ใช้สวมติดต่อกันนาน ทำให้เกิดแผลที่แก้วตา
ได้มากกว่าคอนแทคท์เลนส์ที่ถอดออกทุกวัน
ผู้ที่ใช้คอนแทคท์เลนส์จึงควรทราบความผิดปกตินี้
หากมีตาระคายเคืองหรือตาแดงควรถอดออกก่อน
ถ้าถอดออกแล้วไม่หายต้องไปพบแพทย์ครับ
- รอยถลอกที่แก้วตา - อาจเกิดจากการบาดเจ็บในรูปแบบ
ต่างๆ เช่น ถูกสิ่งของกระเด็นเข้าตา ถูกเล็บ, ถูกปลายกระดาษสะกิด ฯลฯ
อาการปวดจะค่อนข้างมาก ตาจะแดง แพ้แสงหรือลืมตาสู้แสงไม่ได้
และน้ำตาไหลมาก
- แก้วตาอักเสบ - อักเสบจากการติดเชื้อจะมี
อาการปวด กลัวแสง น้ำตาไหล และตามัว ตาจะแดง
และแดงมากรอบๆ แก้วตา
เชื้อสาเหตุส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อไวรัสครับ ชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ
แอดิโนไวรัส เชื้อเริมจะหลบซ่อนอยู่ในปมประสาท ทำให้กลับเป็นซ้ำอีกได้หากภูมิต้านทานของร่างกายไม่ดี, เป็นไข้,
หรือถูกแสงแดดมากเกินไป
การติดเชื้อแบคทีเรียมีความรุนแรงสูงและถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรักษา
สาเหตุนำอาจมาจากเลนส์สัมผัส หรือการบาดเจ็บ
- ม่านตาอักเสบ - อาการสำคัญคือ ตาแดง ม่านตาหดเล็ก
อาจมีโรคทางกายอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น วัณโรค ซิฟิลิส เรื้อนกวาง
ข้ออักเสบ ลำไส้อักเสบ ฯลฯ
- เยื่อหุ้มลูกตาชั้นนอกอักเสบ - เป็นภาวะอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่ง
ที่มีการทำลายของเนื้อเยื่อหุ้มลูกตา สาเหตุมีได้หลายอย่างเช่น
- โรคที่เกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันและหลอดเลือด เช่น
โรครูมาตอยด์ กระดูกสันหลังอักเสบ ข้ออักเสบ
- โรคทางเมตาบอลิซึม เช่น ธัยรอยด์เป็นพิษ, เกาต์
- โรคติดเชื้อ เช่น วัณโรค ซิฟิลิส โรคเรื้อน เริม งูสวัด เชื้อแบทีเรีย ฯลฯ
อาการสำคัญของเยื่อหุ้มลูกตาชั้นนอกอักเสบคือ อาการปวด
ครับ ปวดกรุ่นๆ อาจปวดมากจนนอนไม่หลับ ตาจะแดงมากจนออกสีม่วง
เพราะเส้นเลือดขยายตัว
- ต้อหิน - อาการปวดตาจะมากร่วมกับตามัว
อาจมองเห็นดวงไฟมีแสงทรงกลดรอบๆ อาจมีอาการปวดศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง ร่วมด้วยก็ได้ ตาจะแดงแก้วตาขุ่น
ม่านตาขยายกว้าง
การนั่งอยู่ในห้องมืดนานๆ เช่น ชมภาพยนตร์
อาจทำให้เกิดอาการของต้อหินดังกล่าวได้
ครับที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นอาการตาแดงร่วมกับอาการอื่นๆ
เนื่องจากตาเป็นอวัยวะสำคัญ ผมแนะนำให้ท่าน
ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ ไม่แนะนำให้รักษาเองครับ ที่อาจช่วยตัวเองได้บ้างก็ยอมแค่รับประทานยาบรรเทาปวด
เช่น พาราเซตามอล เท่านั้น รีบพบแพทย์ด่วนครับ |