มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ คัดลอกจากนิตยสาร fitness ปีที่ 9 ฉบับที่ 100 ]

ตาแดงระบาด

ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต


ในช่วงที่มีฝนตกเกือบทุกภูมิภาคของประเทศ บางจังหวัด มีน้ำท่วมขังตามท้องถนนและบ้านเรือน นำความเดือดร้อน แก่ผู้สัญจรไปมา ตลอดจนประชาชนเจ้าของบ้านเรือน ด้วยเหตุที่ ฝนตกก่อให้เกิดความชื้นแฉะทั่วๆ ไป ทำให้เชื้อไวรัสบางตัว เจริญงอกงามก่อโรคแก่พวกเราขึ้น หนึ่งในโรคจากเชื้อไวรัส ที่มักเกิดในหน้าฝนก็คือ ไวรัสที่ก่อให้เกิดตาแดง อาจเรียกว่า โรคตาแดงระบาด ตรงกับภาษาอังกฤษที่ว่า Eepidermic Hemorrhagic Conjunctivitis เชื้อโรคนี้มีคนในโลก เคยเป็นมาแล้วมากกว่าหลายร้อยล้านคน

ตาแดงเกิดจากเชื้อไวรัส เป็นเชื้อต้นเหตุของโรคนี้
มีการตรวจพบเชื้อไวรัสหลายตัวด้วย กันประมาณกันว่า 2-4 ตัว ทั้ง 4 ตัวให้อาการของโรคคล้ายคลึงกัน อาศัยอาการมิอาจบอกได้ว่าเกิดจากเชื้อไวรัสตัวไหน เป็นข้ออธิบายว่า ทำไมเป็นโรคตาแดงชนิดนี้แล้วเป็นได้อีก หรือทำไมจึงไม่มีภูมิคุ้มกันดังเช่น โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสตัวอื่น ตัวอย่างเช่นเป็นโรคหัด หรืออีสุกอีใสในตอนเด็ก คนนั้นจะไม่เป็นโรคอีกเลยตลอดชีวิต แต่โรคตาแดงระบาด คนเป็นทุกครั้งที่มีการระบาด อาจจะเนื่องจากภูมิต้านทานหลังเป็นโรคนี้ จะไม่อยู่นานหรือ เป็นจากเชื้อไวรัสคนละตัวกัน

อาการเป็นอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้
ผู้ป่วยโรคนี้จะมาด้วยตาแดงฉับพลัน เคืองตาคล้ายๆ มีผงอยู่ในตา ตาบวม น้ำตาไหล เวลาการเกิดโรคอาจจะเร็วภายใน 24 ชั่วโมง หลังการได้รับเชื้อ บางคนที่เป็นรุนแรงจะมีอาการปวดกระบอกตาร่วมด้วย มักเป็นข้างเดียวก่อน และอาจลามมาอีกข้างในวันเดียวกัน ถ้ามีเชื้อแบคทีเรียเข้าผสมโรง จะทำให้มีขี้ตาออกตลอดเวลา ตามด้วยมีจุดเลือดออกที่เยื่อบุตา เป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุด ซึ่งนานเข้าจะรวมกันเป็นปื้นแดงใต้เยื่อบุตา เป็นเหตุให้น้ำตาที่ไหลออกมา มีสีแดงคล้ายๆ น้ำล้างเนื้อ หรือแดงเข้มขึ้นทำให้ผู้ป่วยมักจะตกใจ เข้าใจว่ามีเลือดไหลออกจากตา

อาการของผู้ป่วย โดยทั่วไปเมื่อเกิดการอักเสบของเยื่อบุตา จะหายภายใน 4-6 วัน แต่อาการตาแดง ที่เกิดจากการอักเสบ จากเยื่อบุตาจะค่อยๆ จางในเวลาต่อมา ผู้ป่วยบางคน อาจมีอาการคล้ายๆ ไข้หวัด มีการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองหน้าหูร่วมด้วย บางคนมีอาการอยู่ 3-4 วันหาย ผู้ป่วยบางคนโรคตาแดงจะลามเข้าตาดำ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองมากขึ้น ตาสู้แสงไม่ได้ เจ็บปวดมากขึ้น ทำให้เป็นโรคนานกว่า 8 วันได้ แต่โดยทั่วไปประมาณไม่เกิน 10-14 วัน จะหายโดยไม่มีอาการอะไรหลงเหลือ ถ้าเกิน 10-14 วัน ยังมีอาการ ควรสงสัยว่ามีโรคแทรกซ้อน มีอาการอักเสบของตาดำมากขึ้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์

หากมีผู้ป่วยในบ้าน หรือบุคคลใกล้เคียง เช่น เพื่อนที่โรงเรียน ที่ทำงาน เพื่อนบ้าน กำลังเป็นโรคนี้ ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่าตาแดง น้ำตาเยิ้ม แล้วเราก็มีอาการระคายเคืองตา เจ็บตา ก็ให้สงสัยว่าตัวเองจะติดโรคนี้แล้ว

แม้ว่าโรคนี้ จะไม่ทำให้เกิดผลเสียอะไรมากนัก
แต่เนื่องจากการระบาดเป็นไปอยางรวดเร็ว ผู้เป็น จะมีอาการระคายเคือง ทำงานไม่ได้เต็มที่บั่นทอนเศรษฐกิจโดยรวม จึงควรจะสะกัดกั้นมิให้โรคลุกลามไป โดยแยกผู้ป่วย ที่เป็นโรคออกจากชุมชน เช่น นักเรียนก็ควรให้หยุดโรงเรียน โดยเฉพาะนักเรียนประจำด้วยการกลับบ้าน หลายๆ ปี ที่ผ่านมาที่จำได้มีนักเรียนประจำในโรงเรียนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง มีโรคนี้ระบาดถึงต้องปิดโรงเรียนเพื่อสกัดกั้นโรคนี้ คนทำงานก็ควรหยุดงาน ทหารในกรมกองก็ควรแยกตัวให้อยู่บ้าน ผู้เป็นโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการลงสระว่ายน้ำ ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น หากมีอาการเคืองน้ำตาไหลใช้กระดาษซับและทิ้งลงถังขยะ คุณแม่ที่ต้องหยอดยาให้ลูก ควรล้างมือทุกครั้งหลังหยอดยาให้ผู้ป่วย ไม่ควรนำยาหยอดของคนที่เป็นมาหยอด โดยหวังว่า จะป้องกันโรคได้ โดยความเป็นจริงก็คือ ไม่มียาที่จะป้องกันโรคนี้ การใช้ยาหยอดตาของคนเป็นโรคอาจทำให้เราเป็นโรคได้ การติดโรคเป็นโดยสัมผัสเชื้อโดยตรงและเชื้อจะอยู่ในน้ำตา ขี้ตาของผู้ป่วย

เคยมีรายงานว่าประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีโรคนี้ระบาด
พบผู้ป่วยได้ถึงร้อยละ 50 ของประชากรทั้งประเทศในช่วงเวลา 2 เดือน เรียกว่า มีการระบาดอย่างรุนแรง บั่นทอนเศรษฐกิจของชาติโดยรวม จึงควรอย่างยิ่งที่เรามาช่วยกันจำกัดมิให้โรคระบาดมากกว่านี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานในต่างประเทศที่ด้อยพัฒนาเมื่อมีโรคนี้นะบาด ชาวบ้านในชนบทซึ่งมีความเชื่ออย่างผิดๆ ใช้ปัสสาวะหยอดตา ทำให้เกิดโรคหนองในอักเสบภายในดวงตา รุนแรงกว่าโรคที่เกิดจากไวรัสหลายเท่า ประเทศเราคงไม่มีความเชื่อผิดๆ อย่างนี้ มีบ้างที่เชื่อว่า ใช้กระชาย ก้านกระเทียม ใช้น้ำนมหยอด ซึ่งก็ไม่ควรทำเช่นกัน

ท้ายสุดที่โรคตาแดงระบาดนี้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะหาย โดยไม่มีโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรง แต่ก็มีรายงานประชากร ในประเทศอินเดีย ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศไทย ที่ผู้ป่วยโรคนี้มีอาการระบาด ของโรคทางระบบประสาทคล้ายๆ โรคโปลิโอร่วมด้วย

ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต


ขอบคุณนิตยสาร fitness ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600