มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ คัดลอกจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2542]

ตาเปียก-ตาแห้ง-เบาหวานขึ้นตา

นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์


ดวงตา ควรจะเป็นสิ่งที่สุดรัก และสุดหวงแหนตลอดชีวิต ของคนเรา เนื่องจากเป็นอวัยวะสำคัญที่เราใช้เรียนรู้โลก ตั้งแต่เกิดจนตาย ใช้ทำมาหากินเพื่อดำรงชีวิต ใช้หลบหลีก ภัยอันตรายต่างๆ ตลอดจนใช้ชื่นชมความงามของธรรมชาติ การใช้ดวงตามากเกินไป โดยไม่ได้พักผ่อนหรือไม่ได้ป้องกันอันตราย จากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น แสงแดดจ้า ลมแรง ตาแห้ง ตาเปียกแฉะ ฝุ่นละออง การดื่มสุราจัด ย่อมอาจทำให้ดวงตาชำรุด พิการ หรือมองไม่เห็น ก่อนวัยอันสมควรได้ ฉะนั้น ควรถนอมดวงตาให้อยู่ในสภาพปกติตลอดไป ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา

ตาเปียกหรือตาแฉะ

น้ำตาปกติจะถูกขับออกมาโดยต่อมน้ำตา อยู่ที่เยื่อบุตาและบริเวณ ใต้เปลือกตา ในบางสถานการณ์ เช่น เมื่อเกิดอารมณ์เศร้า ตื่นเต้น ถูกควันไฟ น้ำตาจะถูกขับออกมาจากต่อมน้ำตาที่อยู่ใต้เปลือกตา เมื่อต่อมอันใหญ่ ขับออกมาจำนวนน้ำตาจะมากเกินกว่าระบบถ่ายเทเดิมจะรับไหว จึงท่วมเอ่อหยดออกมานอกตาที่เราเรียกว่า ร้องไห้หรือน้ำตาไหล

การอุดตันของทางเดินน้ำตาพบได้บ่อยในบ้านเรา อาการขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการอุดตัน ถ้าอุดตันในตอนต้น ก่อนถุงน้ำตาผู้ป่วยจะมีอาการตาแฉะเพราะน้ำตาจะเอ่ออยู่ในตา เมื่อน้ำตามากเข้าจะท่วมท้นหยดลงมาทำให้ต้องซับกันอยู่ทั้งวัน เป็นที่น่ารำคาญ ซึ่งเรียกว่า "ตาเปียกหรือตาแฉะ"

ถ้าการอุดตันอยู่ตอนปลายทางของทางเดินน้ำตา ในส่วนของท่อ ที่จะไหลลงเปิดในจมูกในระยะแรกจะมีอาการดังกล่าวมาแล้วข้างต้น แต่เมื่ออุดตันนานๆ จะเกิดหมักหมมในถุงน้ำตา ผู้ป่วยจะมีอาการอักเสบ บวมแดงบริเวณหัวตา มีขี้ตามาก สีเหลือง เขียวหรือปนมูก ถ้ากดบริเวณที่บวมนูนจะมีหนองไหลอออกจากถุงน้ำตา แล้วบริเวณที่บวม ก็จะยุบไป ในระยะที่อักเสบรุนแรงมากก็จะเป็นฝีซึ่งอาจจะแตกได้เอง

ในเด็กเล็กๆ แรกเกิดก็อาจพบได้ สาเหตุจากความไม่สมบูรณ์ของ การเจริญเติบโตของระบบทางเดินน้ำตาในขณะที่อยู่ในครรภ์มารดา ทำให้ท่อทางเดินของน้ำตาอุดตันแทนที่จะเปิดกลวงเมื่อแรกเกิด ดังนั้นผู้ปกครองเด็กจะสังเกตได้ว่า เด็กที่เกิดมาร้องไห้แล้วเมื่อหยุดร้อง ตาจะไม่แห้งมีน้ำตาเอ่อคลอเบ้าอยู่เสมอหรืออาจแห้งเพียงข้างเดียว อีกข้างแฉะตลอดเวลา หรืออาจตาแฉะทั้งสองข้างได้

การวินิจฉัยโรค

จากอาการของผู้ป่วยดังกล่าวข้างต้นร่วมกับการตรวจอื่นๆ เช่น ใช้เข็มเล็กๆ ฉีดที่รูตรงหัวตาด้วยน้ำเกลือ ถ้าท่อตัน น้ำเกลือจะค้าง อยู่ในถุงน้ำตาไม่ไหลลงไปในคอ ถ้าไม่ตันน้ำเกลือจะไหลลงจมูก เข้าสู่ลำคอได้ ผู้ป่วยจะรู้สึกมีน้ำเค็มๆ ไหลลงคอ

การรักษา

ในระยะที่มีการอักเสบเรื้อรังยาหยอดตาจำพวกปฏิชีวนะช่วยได้ หรืออาจต้องแยงท่อน้ำตาเพื่อให้รูที่ตันเปิด ถ้าไม่ได้ผลเนื่องจาก รูที่อุดตันแข็งตัวมากก็ต้องทำการผ่าตัด

ตาแห้ง

ปกติจะมีน้ำตามาหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ลูกตาชุ่มชื่น แก้วตาจะใส่ไม่ขุ่นมัว น้ำตาที่มาหล่อเลี้ยงลูกตาส่วนใหญ่มาจากต่อมน้ำตา ซึ่งอยู่ปลายหางตาด้านบน ส่วนน้อยมาจากเยื่อบุตาขาวและจากต่อม ที่อยู่บริเวณขอบตา น้ำตาที่มาหล่อเลี้ยงลูกตาจะไหลออกที่รูเล็กๆ ข้างหัวตาไปตามท่อขนานกับหนังตาบนและล่างไปสู่ถุงน้ำตาที่อยู่ข้างจมูก จากนั้นจะมีท่อใหญ่นำน้ำตาออกจากถุงน้ำตาไปลงในจมูกและคอ

โรคตาแห้งหรือน้ำตาแห้งพบได้มากพอสมควร อาการ อาจจะมีเล็กน้อย หรือเป็นมากจนแก้วตาขุ่นเป็นฝ้าขาวถึงตาบอด

สาเหตุ

จากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุตาขาวแล้วเป็นแผลทำให้เยื่อบุตาแห้ง การขาดวิตามินเอ แพ้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวด ทำให้มีอาการภูมิแพ้เกิดขึ้นที่อวัยวะต่างๆ ของร่างกายรวมทั้งเนื้อเยื่อต่างๆ แพ้สิ่งต่างๆ เช่น ควัน ควันบุหรี่ น้ำยาสารเคมี น้ำมันรถ น้ำหอม เครื่องสำอาง วัยหมดประจำเดือน นอนดึก ตากลมมาก หรือโรคของกล้ามเนื้อเปลือกตา หรือเส้นประสาท ที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อเปลือกตา ทำให้ตาปิดไม่สนิท เป็นต้น

อาการ

อาจสังเกตได้ด้วยตนเองว่าตาแห้ง มีน้ำตาไม่เพียงพอ เคืองตา แสบตา ตาแดงเรื้อรังร้อนตา

การรักษา

รักษาตามสาเหตุ เช่น ถ้าขาดวิตามินเอ ก็ต้องรักษา โดยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูงหรือใช้วิตามินเอเสริม ถ้าเกิดจากโรคเช่น ริดสีดวงก็ต้องรักษาให้หาย หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ เกิดอาการแพ้และการตากลมซึ่งอาจจะใช้แว่นตาช่วย ผู้ที่ตาแห้งมาก อาจจะต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตา บางรายอาจจะต้องผ่าตัด เปิดรูระบายน้ำตาเพื่อให้น้ำตาคงอยู่ในตาให้นานที่สุด

เบาหวานขึ้นตา

โรคเบาหวานหากเป็นมานานและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดพยาธิสภาพในลูกตาได้มามายและอาจทำให้ตาบอดได้ อาการตามัวลงช้าๆ อาจเกิดจากม่านตาอักเสบจากเบาหวาน ต้อกระจก จากเบาหวาน สายตาสั้นเป็นครั้งคราว ต้อหิน ขั้วประสาทตาอักเสบ จากเบาหวานและพยาธิภาวะที่เรติน่า เนื่องจากเบาหวานทำให้สายตามัว เป็นพยาธิสภาพที่พบบ่อยในบ้านเราซึ่งมีผู้ป่วยเบาหวานค่อนข้างมาก และควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ค่อยได้ผล

ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการตามัวโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานมาก่อน

การรักษา

ควรอยู่ในการดูแลของจักษุแพทย์และอายุรแพทย์ เพื่อควบคุมให้ระดับน้ำตาลอยู่ในระดับปกติคงที่ตลอดเวลา รวมทั้งควบคุมความดันเลือดให้ปกติผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ควรรับการตรวจจากจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง

การรักษาทางตาจากโรคเบาหวาน จะรักษาตามโรคที่เกิดขึ้น เช่น ผู้ที่ตามัวจากต้อกระจกเมื่อถึงระยะต้องลอกต้อกระจกออก ถ้าเป็นต้อหินก็รักษาความดันให้ลดลงระดับปกติในราย ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ประสาทตาอาจใช้แสงเลเซอร์ช่วยรักษา ไม่ให้เป็นมากกว่าเดิม

ตาบอดจากเบาหวาน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง ของประสาทตาทำให้มีเลือด น้ำเหลือง น้ำตา มาเกาะที่ประสาทตา ประสาทตาส่วนนั้นไม่สามารถจับภาพได้ เมื่อทิ้งไว้นานๆ ประสาทตาจะเสื่อมมองไม่เห็น

การป้องกันมิให้ตาบอดจากเบาหวาน โดยใช้แสงเลเซอร์ ยิงเข้าไปรักษาที่ประสาทตาตมจุดต่างๆ เช่น จุดที่มีเส้นเลือดเปราะ ที่ทำให้มีเลือดออก แสงเลเซอร์จะไปเชื่อมเส้นเลือดที่แตก ให้ปิดสนิทยับยั้งไม่ให้เบาหวานทำลายตาเพิ่มไปอีก บางราย ต้องยิงด้วยแสงเลเซอร์หลายครั้ง

ความรู้ทั้งหมดนี้ได้จากการจัดเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ของภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2542 ซึ่งขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้

"บริจาคดวงตามหากุศล เหมือนชุบคนให้กลับฟื้นคืนชีพใหม่"

นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์


ขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600