มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ คัดลอกจากนิตยสาร fitness ปีที่ 9 ฉบับที่ 99]

การวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์

ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต


ท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่านที่มีปัญหาทางสายตา คงจะเคยไปรับการตรวจวัดสายตาที่ร้านแว่น หรือสถานพยาบาล ที่บริการตรวจสายตา บางคนอาจจะได้รับการบอกกล่าวว่า เป็นการวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ หรือมีป้ายโฆษณาว่าร้านนี้ มีบริการวัดสายตาด้วยเครื่องอัตโนมัติเป็นจุดขายของร้านนั้น ไม่ว่าเครื่องจะมีราคาแพงเท่าไหร่ ร้านแว่นที่ใหญ่และดังจริง จึงมักจะพยายามหาซื้อมา บริการ อาจเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทย ต้องพึ่ง IMF ในทุกวันนี้

วันนี้มาพูดกันว่าเจ้าเครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์นั้น น่าเชื่อถือแค่ไหน!!

การใช้เครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ที่เรียกกันว่า Automated Refractometer มีใช้มากกว่า 100 ปีแล้ว อาจจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรกอาจเรียกว่า Semiautomatic คือไม่อัตโนมัติทั้งหมด ต้องอาศัยผู้ป่วยอยู่บ้าง ผู้ถูกวัดต้องให้ความร่วมมือ มองไปข้างหน้า หรือมองไปยังเป้า และต้องทำตานิ่งๆ ผู้วัดต้องมีความรู้พอสมควร
อีกกลุ่มหนึ่งเป็น Automatic แบบสมบูรณ์ซึ่งเริ่มมีใช้ตั้งแต่ปี 1970 ใช้แสง Infrared ส่องเข้าไปในตาดูการหักเหของแสงจากกระจกตา และแก้วตา ได้ค่าของสายตาค่อนข้างแม่นยำ ในตาที่ปกติไม่เป็นโรคตา แต่จะไม่ค่อยแม่นยำในตาที่เป็นโรคต้อกระจก หรือผู้ที่มีรูม่านตา เล็กกว่า 3 มม. วิธีนี้วัดได้เร็วมากใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที

โดยทั่วไปการวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์มีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีปัญหาบางอย่างทำให้ความแม่นยำลดลง เช่น

  1. เครื่องส่วนใหญ่ใช้ตรวจตามบริเวณเล็กน้อยที่ตรงกับรูม่านตา ถ้าบริเวรที่ตรวจไม่เรียบ ไม่สม่ำเสมอ ผลที่ตรวจอาจผิดพลาดได้
  2. การจัดตัวเครื่องให้ได้กับระดับตาเป็นสิ่งจำเป็นจึงจะได้ค่าที่ แม่นยำ เครื่องเก่าอาจจะจัดค่อนข้างยุ่งยาก ปัจจุบันเครื่องใหม่ มีการจัดแนวนี้ทำได้สะดวกง่ายขึ้น
  3. ที่สำคัญที่สุด เครื่องวัดมักจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่โตนัก ผู้ถูกตรวจจะมีความรู้สึกว่าจะต้องมองภาพใกล้ตลอดจึงเพ่งสายตามาก แม้ว่าในเครื่องจะพยายามทำให้ภาพเป็นเสมือนวัตถุที่อยู่ไกลก็ตาม ทำให้ค่าที่ได้ไม่ถูกต้อง จะได้สายตาสั้นมากกว่าความเป็นจริงไป

อย่างไรก็ตามโดยรวมเครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่ความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เหมาะสมสำหรับ การตรวจคัดกรองผู้มีสายตาผิดปกติคร่าวๆ ในการที่ต้องตรวจคนจำนวนมาก เนื่องจากใช้เวลาน้อยมากในการวัด และถ้าพบว่าสายตาผิดปกติต้องมาทดสอบสายตาด้วยการปรับเลนส์แว่นตา ที่จะใช้ให้เหมาะสมและถูกต้องอีกที ไม่ควรนำค่าที่วัดจากคอมพิวเตอร์ ไปตัดเลนส์เลยเพียงเอาค่าที่ได้เป็นตัวชี้ลองเลนส์แว่นตา และปรับให้เหมาะกับผู้มีสายตาผิดปกติ เป็นรายๆ ไป ค่าที่วัดจากคอมพิวเตอร์ที่เท่ากันของคน 2 คน ใช่ว่าจะต้องใช้เลนส์สายตา ที่เท่ากันเสมอไป

ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต


ขอบคุณนิตยสาร fitness ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600