|
ท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่านที่มีปัญหาทางสายตา
คงจะเคยไปรับการตรวจวัดสายตาที่ร้านแว่น หรือสถานพยาบาล
ที่บริการตรวจสายตา บางคนอาจจะได้รับการบอกกล่าวว่า
เป็นการวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ หรือมีป้ายโฆษณาว่าร้านนี้
มีบริการวัดสายตาด้วยเครื่องอัตโนมัติเป็นจุดขายของร้านนั้น
ไม่ว่าเครื่องจะมีราคาแพงเท่าไหร่ ร้านแว่นที่ใหญ่และดังจริง
จึงมักจะพยายามหาซื้อมา บริการ อาจเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทย
ต้องพึ่ง IMF ในทุกวันนี้
วันนี้มาพูดกันว่าเจ้าเครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์นั้น
น่าเชื่อถือแค่ไหน!!
การใช้เครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ที่เรียกกันว่า
Automated Refractometer มีใช้มากกว่า 100 ปีแล้ว
อาจจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มแรกอาจเรียกว่า Semiautomatic คือไม่อัตโนมัติทั้งหมด ต้องอาศัยผู้ป่วยอยู่บ้าง ผู้ถูกวัดต้องให้ความร่วมมือ
มองไปข้างหน้า หรือมองไปยังเป้า และต้องทำตานิ่งๆ ผู้วัดต้องมีความรู้พอสมควร
อีกกลุ่มหนึ่งเป็น Automatic แบบสมบูรณ์ซึ่งเริ่มมีใช้ตั้งแต่ปี 1970 ใช้แสง Infrared
ส่องเข้าไปในตาดูการหักเหของแสงจากกระจกตา และแก้วตา
ได้ค่าของสายตาค่อนข้างแม่นยำ ในตาที่ปกติไม่เป็นโรคตา แต่จะไม่ค่อยแม่นยำในตาที่เป็นโรคต้อกระจก หรือผู้ที่มีรูม่านตา
เล็กกว่า 3 มม. วิธีนี้วัดได้เร็วมากใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
โดยทั่วไปการวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์มีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ดี
แต่มีปัญหาบางอย่างทำให้ความแม่นยำลดลง เช่น
- เครื่องส่วนใหญ่ใช้ตรวจตามบริเวณเล็กน้อยที่ตรงกับรูม่านตา
ถ้าบริเวรที่ตรวจไม่เรียบ ไม่สม่ำเสมอ ผลที่ตรวจอาจผิดพลาดได้
- การจัดตัวเครื่องให้ได้กับระดับตาเป็นสิ่งจำเป็นจึงจะได้ค่าที่
แม่นยำ เครื่องเก่าอาจจะจัดค่อนข้างยุ่งยาก ปัจจุบันเครื่องใหม่
มีการจัดแนวนี้ทำได้สะดวกง่ายขึ้น
- ที่สำคัญที่สุด เครื่องวัดมักจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่โตนัก
ผู้ถูกตรวจจะมีความรู้สึกว่าจะต้องมองภาพใกล้ตลอดจึงเพ่งสายตามาก แม้ว่าในเครื่องจะพยายามทำให้ภาพเป็นเสมือนวัตถุที่อยู่ไกลก็ตาม
ทำให้ค่าที่ได้ไม่ถูกต้อง จะได้สายตาสั้นมากกว่าความเป็นจริงไป
อย่างไรก็ตามโดยรวมเครื่องวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์
ส่วนใหญ่ความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เหมาะสมสำหรับ
การตรวจคัดกรองผู้มีสายตาผิดปกติคร่าวๆ
ในการที่ต้องตรวจคนจำนวนมาก เนื่องจากใช้เวลาน้อยมากในการวัด
และถ้าพบว่าสายตาผิดปกติต้องมาทดสอบสายตาด้วยการปรับเลนส์แว่นตา
ที่จะใช้ให้เหมาะสมและถูกต้องอีกที ไม่ควรนำค่าที่วัดจากคอมพิวเตอร์
ไปตัดเลนส์เลยเพียงเอาค่าที่ได้เป็นตัวชี้ลองเลนส์แว่นตา
และปรับให้เหมาะกับผู้มีสายตาผิดปกติ เป็นรายๆ ไป
ค่าที่วัดจากคอมพิวเตอร์ที่เท่ากันของคน 2 คน ใช่ว่าจะต้องใช้เลนส์สายตา
ที่เท่ากันเสมอไป
|