เขียนหนังสือโย้

พ.ญ.นุชนารถ สินพรชัย

ลูก ป.1 (เทอมปลาย) เริ่มเขียนหนังสือเมื่อป.1 (เรียนแบบเตรียมความพร้อมมาก่อน) เทอมแรกเขียนตรงดี พอเทอมสอง เขียนเอนไปข้างหน้าหมดทุกตัว จนคุณครูฝากให้มาถามแม่ว่า เมื่อตรวจสายตาครั้งก่อน สายตาเอียงหรือเปล่า (เมื่อเทอมต้น มีจักษุแพทย์มาตรวจตาให้ที่โรงเรียนแต่ปกติดี) กรณีนี้ควรทำอย่างไร ต้องปรับต้องหัดใหม่อย่างไรหรือไม่คะ แม่ลูกสอง

หมออยากชี้แจงว่า คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า การมีสายตาเอียงทำให้มองทุกอย่างเอียงเหมือนรายของลูก ที่เขียนตัวหนังสือออกมาเอียงโย้ไปข้างหน้า คุณแม่ก็กลัวว่าลูกจะสายตาเอียง ความจริงความหมายของสายตาเอียงก็คือ รูปทรงของแก้วตาดำ ไม่กลมสม่ำเสมอ เปรียบง่ายๆ ก็เหมือนรูปถ้วยแกงที่เราใช้กันค่ะ ปกติมักจะกลมเป็นรูปรีเล็กน้อยเราก็เรียกว่า ถ้วยรูปเปล นี่อาจเป็นการเปรียบเทียบที่ค่อนข้างจะมากไปสักนิด ธรรมชาติจริงของแก้วตาดำจะมีความแตกต่างไปมากขนาดนั้นหรอกนะคะ แต่หมอเปรียบเทียบให้ดูเพื่อจะได้เข้าใจว่า ที่ว่าสายตาเอียงนั้นสาเหตุก็คือ รูปทรงแก้วตาดำไม่กลมสม่ำเสมอเท่านั้นเอง ผลที่ตามมาจากแก้วตาดำไม่กลมสม่ำเสมอคือ การมองเห็นภาพมัว ในเด็กหากพยายามเพ่งและหยีตา เขาก็จะมองเห็นชัดขึ้นมาได้ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องตาเอียงมีอีกอย่างคือ แก้วตาดำ ไม่อยู่ตรงเวลามอง ส่งผลให้กลายเป็นตาเข ในเด็กเล็กก็จะส่งผลให้เห็นเป็น 2 ภาพ เขาจะสับสน กรณีนี้คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตว่า ตาดำเบี่ยงเบนจากกัน หากใช้ไฟฉายส่องดูหน้าลูก เงาสะท้อนของไฟจะไม่ตกตรงกลางตาดำ อาจทำให้การกะระยะของเด็กไม่สมบูรณ์ แบบนี้คุณพ่อคุณแม่ ควรพาลูกไปปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อหาทางปรับตาให้เหมาะสม ในกรณีของคุณที่ลูกเขียนหนังสือเอียงหน้า หมอเข้าใจว่า ทักษะการใช้มือของเขา คงยังไม่ดีมากกว่า คุณแม่ใจเย็นๆ ค่อยๆ ปรับ และแนะนำการใช้คือให้แม่นยำ ลูกก็คงจะทำได้ดีขึ้น หากไม่สบายใจจะพาไปปรึกษาจักษุแพทย์ ก็ไม่ผิดกติกาค่ะ เนื่องจากเวลามีการตรวจเช็กในโรงเรียน เด็กมีเป็นจำนวนมาก โอกาสความผิดพลาดก็จะมีได้เป็นธรรมดานะคะ พ.ญ.นุชนารถ สินพรชัย

main