แคลเซียม
สารอาหารที่จำเป็นกับบุคคลทุกวัย

ชุลีพร สวาสดิ์ญาติ

ร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารจำพวกเกลือแร่ เพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ในปริมาณที่ไม่เท่ากัน เกลือแร่ที่ร่างกายต้องการในปริมาณมาก ตั้งแต่วันละ 100 มิลลิกรัมขึ้นไป มีอยู่หลายชนิด และที่ร่างกายต้องการในปริมาณมากและมองเห็นหน้าที่ได้ชัดเจนได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน โดยมีแมกนีเซียมและฟลูออรีนปนอยู่ด้วยเป็นจำนวนเล็กน้อย ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรงเพราะมีกระดูกเป็นแกนในการรักษารูปร่าง ลักษณะของร่างกายรองรับ และป้องกันอวัยวะต่าง ๆ และเป็นที่ยึดของกล้ามเนื้อ ทำให้การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเกิดขึ้นได้โดยสะดวก

แคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำหน้าที่ร่วมกันในร่างกาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย รวมทั้งควบคุมการดูดซึมและเผาผลาญอาหารด้วย สารอาหารเหล่านี้จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด สำหรับโปแตสเซียมเป็นตัวการสำคัญ ที่จะช่วยกันไม่ให้แคลเซียมเกาะหรือสะสมอยู่เฉพาะจุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย เพราะทำให้กระดูกเกิดอักเสบได้

แหล่งอาหารที่มีแคลเซียมมาก

1. อาหารประเภทที่มีแคลเซียมสูง และร่างกายสามารถนำไป ใช้ประโยชน์ได้ดี ได้แก่ น้ำนมและผลิตภัณฑ์จากนม น้ำนมเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง และเป็นแคลเซียมที่ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด เนื่องจากนมมีโปรตีน หรือกรดอะมิโนบางตัวกับน้ำตาลแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่มีอยู่เฉพาะในน้ำนมเท่านั้น เป็นตัวช่วยส่งเสริมการดูดซึมของแคลเซียม เป็นตัวช่วยส่งเสริมการดูดซึมของแคลเซียม นมเป็นอาหารที่หาดื่มได้ง่าย แม้ว่าปัจจุบันยังมีการบริโภคกันน้อยในหมู่คนไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
   สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเพิ่มน้ำหนักให้ตัวเองก็เลือกดื่มนมพร่องไขมัน แต่สำหรับคนที่ร่างกายผอมจนเกินไป ก็ควรดื่มนมที่มีไขมัน ซึ่งมีให้เลือกมากมาย โดยสังเกตได้ที่ข้างกล่องว่าเป็นนมชนิดไหน แต่นมทุกชนิดล้วนเป็นแหล่งอาหารที่มีแคลเซียม ซึ่งมีคุณค่าอาหารสูงมาก เพราะมีวิตามินนานาชนิด และมีแร่ธาตุมากมาย นอกจากนี้ยังมีโปรตีนอีกด้วย
2. ไข่แดงและอาหารทะเล เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ปลาบ่น กะปิ
3. ผักต่าง ๆ เช่น ตำลึง ดอกกะหล่ำ เห็ด ฯลฯ อาหารพวกนี้มี ปริมาณแคลเซียมสูง และมีอยู่อุดมสมบูรณ์ในประเทศไทย

ความต้องการแคลเซียมของร่างกายในแต่ละวัยจะไม่เท่ากัน

วัยเด็ก
เด็ก ๆ ต้องการแคลเซียมมากกว่าวัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ เพื่อนำมาเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูกและฟัน และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนั้นถ้าเด็กเล็ก ๆ รับประทานแคลเซียมอย่างพอเพียงและต่อเนื่องไปถึงวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่ และสูงอายุแล้ว ร่างกายจะมีปริมาณแคลเซียมมากเพียงพอ ทำให้ไม่เป็นโรคกระดูกผุและสึกกร่อน

วัยหนุ่มสาว
ถ้ารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ตั้งแต่อยู่ในวัยหนุ่มสาวหรือกลางคนอย่างสม่ำเสมอและพอเพียง เมื่อถึงวัยสูงอายุที่มักจะมีปัญหากระดูกผุกร่อน ก็ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาตามธรรมชาตินี้ เพราะกระดูกยังแข็งแรงอยู่ และอายุการสึกหรือผุกร่อนก็จะยืดออกไปได้อีกนานกว่าคนที่อยู่ในวัยเดียวกัน ที่บริโภคแคลเซียมไม่เพียงพอในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว คนจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาสภาพกระดูกผุกร่อนตั้งแต่อายุไม่มากนัก เพราะร่างกายขาดแคลเซียม และถ้าไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โครงสร้างของกระดูกก็จะไม่แข็งแรง จนทำให้กระดูกผุกร่อนได้ง่าย โดยไม่ต้องรอจนถึงช่วงที่กระดูกจะต้องผุกร่อนไปตามวัย

วัยสูงอายุ
ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ควรรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เพราะร่างกายไม่ใช้พลังงานมากนัก โดยควรเน้นอาหารแคลเซียมเป็นหลักรับประทานผักสด ผลไม้ รวมทั้งอาหารที่มีกากใยมาก ๆ ซึ่งจะทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปด้วยดี ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก หรือเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานหนักเกินไป

ดังนั้นแม้ว่าท่านจะอยู่ในวัยใดก็ตาม ต้องรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แม้เพียงวันละ 15-20 นาที จะทำให้ท่านมีโครงสร้างของร่างกายที่แข็งแรง ห่างไกลจากโรคกระดูกผุกร่อนได้นานเท่านาน
"รับประทานแคลเซียมทุกวันกระดูกและฟันจะแข็งแรง"

ชุลีพร สวาสดิ์ญาติ

ขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

---

[ BACK TO LIST]

main

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

---

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] ถ้าโฮมเพจนี้มีประโยชน์ คลิก vote ให้กำลังใจด้วยครับ