|
ถ้าหากเป็นไปได้ทุกคนคงอยากสูงไม่อยากตัวเตี้ย ลำบากลำบนเวลาขึ้นรถโดยสารเหมือนดังที่โฆษณาล้อเลียน
พ่อแม่ที่อยากให้ลูกตัวสูง รวมทั้งผู้ใหญ่หลายคน
ที่แม้ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต คือ ไม่สูงอีกแล้ว
จึงอาจหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าจะช่วยให้สูง เช่น แคลเซียมมากิน
เพื่อลูกหรือตัวเองจะได้สูงขึ้น หลายคนกินตามแฟชั่น โดยไม่ทราบว่าการที่คนเราจะสูงมากน้อยขึ้นกับหลายปัจจัย
แคลเซียมเป็นเพียงสารอาหารชนิดหนึ่ง
ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก แต่ร่างกายจำเป็นต้องได้พลังงาน และสารอาหารทุกชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างเพียงพอ จึงจะทำให้ร่างกาย
เจริญเติบโตสมวัย และพ่อแม่อีกหลายคนไม่ทราบเลยว่า
ลูกนั้นได้รับแคลเซียมจากนมที่ดื่มทุกวันอย่างเพียงพออยู่แล้ว
จึงขวนขวายซื้อผลิตภัณฑ์แคลเซียมให้ลูกทานเพิ่ม
โดยไม่ก่อประโยชน์อันใด แต่อาจจะเกิดผลเสียต่อร่างกายลูกด้วยซ้ำ
เพราะถ้าได้แคลเซียมมากเกินไป จนระดับแคลเซียมในเลือดสูง
อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ซึมลง และถ้าแคลเซียมในเลือดสูงเป็นระยะเวลายาวนานๆ
อาจทำให้แคลเซียมไปเกาะที่ไต และเป็นนิ่วได้
ปัจจัยที่มีผลต่อความสูงของร่างกาย ได้แก่
1. พันธุกรรม - ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่ตัวสูง
มักจะตัวสูงกว่าลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่ตัวเตี้ย
2. โครโมโซม - คนที่มีความผิดปกติของโครโมโซม
ก็อาจจะตัวสูงหรือเตี้ยกว่าปกติ
3. ฮอร์โมน - ฮอร์โมนที่มีผลต่อความสูงได้แก่
Growth hormone, Thyroid hormone และ Sex hormone
4. โภชนาการ - ทารกและเด็กจำเป็นต้องได้รับ
พลังงานและสารอาหารครบ 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, โปรตีน,
วิตามินและเกลือแร่อย่างเพียงพอ ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป
จึงจะทำให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย เด็กที่ขาดอาหารจะมีน้ำหนักตัวน้อย
ผอม แคระแกรน แต่ถ้ารับประทานอาหารได้พลังงานมากเกินไป
ก็จะทำให้เป็นโรคอ้วน
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูก และช่วยให้กระดูกแข็งแรง ร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมพอเพียง ในปริมาณพอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย ไม่มาก หรือน้อยเกินไป
จนทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งแคลเซียมนั้นจะมีมาก
ในนม, เนย, ไข่, ถั่ว, เต้าหู้, ผักใบเขียว, ปลาตัวเล็กตัวน้อยที่มีกระดูกอ่อน
ที่สามารถกินได้, กะปิ และหอยนางรม
ใน "เด็ก" ที่กำลังเจริญเติบโต ถ้าทานอาหารตามปกติ
และดื่มนมอย่างน้อยวันละ 2-3 กล่อง หรือแก้ว (กล่องหรือแก้ว
ขนาด 8 ออนซ์ หรือ 240 ซีซี) ก็จะได้แคลเซียมเพียงพอ
สำหรับความต้องการของร่างกาย โดยไม่จำเป็นต้องกินผลิตภัณฑ์
ที่มีแคลเซียมเสริมเข้าไปอีก เพราะนอกจากจะเปลืองเงินทอง
โดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจมีโทษต่อร่างกาย
ใน "ผู้สูงอายุ" ควรจะได้รับแคลเศียมในปริมาณพอเหมาะ
เพื่อป้องกันโรคกระดูกบาง โดยการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง
ดังที่กล่าวมาแล้ว หรือถ้าหากมีข้อสงสัยว่าจะรับประทานอาหารดังกล่าวได้น้อย
อาจจำเป็นต้องได้แคลเซียมในรูปของผลิตภัณฑ์ หรือยาเพิ่มเติม
ก็ควรปรึกษาแพทย์จะได้ทราบปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมต่อร่างกาย
5. โรคภัยไข้เจ็บ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคกระดูก
หรือโรคที่เป็นบ่อยซ้ำซาก หรือเรื้อรังรักษาไม่หาย ก็อาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกและเด็กนั้นได้
6. สุขภาพจิต - เด็กนั้นต้องการทั้งอาหารและอาหารใจ
ความรัก ความเข้าใจ และการเลี้ยงดูที่เหมาะสมจึงจะทำให้เจริญเติบโต
เป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ วงการแพทย์พบว่า
ถึงแม้เด็กจะได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอ แต่ถ้าขาดความรัก
ขาดความอบอุ่น เป็นโรคขาดรัก ร่างกายของเด็กนั้นก็จะไม่เจริญเติบโตสมวัย น้ำหนักและส่วนสูงไม่ขึ้นตามเกณฑ์มาตรฐานได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่าการเจริญเติบโตของร่างกายเด็กนั้น
ขึ้นอยู่หลายปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ลูกรับประทาน ควรพิจารณาถึงข้อบ่งชี้หรือเหตุผลที่ต้องใช้ ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
ซึ่งระบุที่ข้างภาชนะ ปริมาณการรับประทาน ข้อดีข้อเสีย
ราคาและความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับอาหาร หรือผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ
มาช่วยในการตัดสินใจ ไม่ควรบริโภคตามความนิยม หรือแฟชั่นแห่ตามกันไป โดยไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบ เพราะนอกจากจะเสียเงินเสียทองไม่ได้ผล
ดังที่คาดหวังแล้วยังอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้อีกด้วย
|