|
มีคนจำนวนมากที่พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีการต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาหารสูตรสำเร็จรูปหรืออาหารที่ปรุงเอง
การออกกำลังกาย หรือการเข้ากิจกรรมลดน้ำหนัก
ซึ่งมีมากมายหลายอย่าง
ที่มหาวิทยาลัยพิทสเบิร์ก (University of Pitsoburgh) ในสหรัฐอเมริกา
คณะแพทย์ศาสตร์ ได้ทำการรวบรวมอาสาสมัครที่ได้ผ่าน
การลดน้ำหนักมาแล้ว และยังสามารถรักษาน้ำหนักที่ลดได้
ในระดับที่น่าพอใจ เพื่อใช้ในการศึกษาติดตามดูว่า บุคคลเหล่านี้
ใช้ชีวิตอย่างไร มีหลักและการเลือกกินอาหารอย่างไร
ในระหว่างที่การศึกษาวิจัยยังไม่สิ้นสุด ได้มีผู้ลองสุ่มสำรวจ
ความคิดเห็นเบื้องต้นของกลุ่มเหล่านี้ว่า มีเทคนิควิธีการและความรู้สึก
เกี่ยวกับการกินอาหารอย่างไร มีทรรศนะของกลุ่มคนเหล่านั้นมาฝากดังนี้
1. ให้คงมีอาหารที่โปรดปรานไว้บ้าง
บางคนมีความเห็นว่าควรผ่อนผันให้กินอาหารที่ชอบได้บ้าง
เพื่อลดความกระวนกระวาย ลดความรู้สึกที่ถูกบังคับ
และในเวลาเดียวกันทำให้มีความรู้สึกที่ดี และเกิดกำลังใจ
ที่จะลดน้ำหนักต่อไป
สิ่งสำคัญของการกินอาหารที่ชอบนี้ อยู่ที่การควบคุม
ปริมาณที่กิน ซึ่งหลายคนใช้เทคนิคต่างๆ กัน เช่น
- ใช้วันสุดสัปดาห์ เป็นเวลาของการผ่อนคลาย
บางคนขอกินอาหารที่ชอบได้บ้าง
- บางคนที่เคยกินน้ำอัดลมประเภทมีพลังงานต่ำ
ลูกกวาดที่เป็นแท่ง และอาหารขบเคี้ยวเป็นประจำทุกวัน ก็ยอม
ลดเหลือเพียงน้ำโซดา ประเภทที่ไม่เติมน้ำตาลหรือที่ใช้สาร
ให้ความหวานที่มีพลังงานต่ำ
- บางคนใช้หลักกินอาหารที่ชอบอาทิตย์ละครั้ง
2. ไม่คิดที่จะกินอาหารที่เป็นปัญหา
กลุ่มนี้อาจเรียกว่า เป็นประเภทสุดขั้ว เพราะเมื่อใด
ที่เริ่มกินอาหารที่เคยกินเพียงคำแรก เมื่อนั้นจะกินต่อไม่หยุด
คนกลุ่มนี้จะเก็บอาหารที่ไม่พึงประสงค์ให้พ้นจากความสามารถ
ในการหามากิน
3. หาความสุขกับการปรุงอาหาร
สำหรับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง ได้มีข้อแนะนำให้ทดลอง
ทำอาหารด้วยวิธีการที่จะช่วยลดปริมาณพลังงาน ไขมันและน้ำตาล
ในอาหาร วิธีการเหล่านี้มีแนะนำอยู่ทั่วไปเช่น
- ปรุงอาหารด้วยไฟอ่อน ช่วยลดการใช้น้ำมันหรือเนยได้ บางคนลองใช้น้ำแทนการใช้น้ำมัน ก็พบว่าให้อาหารที่มีรสชาติดีเช่นกัน
- เลือกเนื้อสัตว์ให้ถูกต้อง เนื้อสัตว์จากส่วนต่างๆ ของสัตว์
มีไขมันไม่เท่ากันด้วย เช่น เนื้อไก่มีไขมันน้อยกว่าเนื้อหมู
เนื้อปลาหลายชนิดมีไขมันน้อยกว่าเนื้อไก่
- อุปกรณ์ที่ใช้ปรุงอาหารมีความสำคัญเช่นเดียวกัน กะทะหรือหม้อเคลือบด้วยสารที่ช่วยป้องกัน
ไม่ให้อาหารติดก้นกะทะหรือก้นหม้อจะช่วยลดการใช้น้ำมันหรือเนย
- หาสิ่งที่ช่วยปรุงรสชาติของอาหารไว้ใกล้มือ เช่น บางคน
ใช้น้ำผลไม้คลุกเคล้ากับแครอทก่อนจะนำไปอบ บางคนใช้
โยเกิร์ตชนิดที่มีไขมันต่ำ แทนการใช้เนย บางคนใช้
ใบมินทร์โรยหน้าสลัดหรือปลา
- ใช้ความหวานตามธรรมชาติปรุงอาหาร เช่น
ความหวานของผลไม้ ลูกเกด น้ำแอปเปิ้ล น้ำสตอเบอรี่
หรือน้ำบูลเบอรี โดยไม่มีการเติมน้ำตาล
- ใช้ประโยชน์จากพุดดิ่ง (Pudding) สำเร็จรูปที่ปราศจาก
น้ำตาลเป็นเครื่องจิ้ม สำหรับสตรอเบอรี หรือใช้ตกแต่งเค้ก
หรือใช้ทำนมปั่นด้วยการผสมกับนมขาดมันเนยและน้ำแข็งปั่นรวมกัน
4. กินอาหารนอกบ้านอย่างฉลาด
เคล็ดลับนี้คือ
- ให้รู้จักว่าอาหารที่มีในท้องตลาดเป็นอย่างไรอะไร
ที่จะใช้ทดแทนกันได้ เช่น เมื่ออยากกินไอศกรีม ก็อาจเลือก
กินโยเกิร์ตที่มีไขมันต่ำแทน หรือเมื่อยากกินไส้กรอกก็อาจใช้
ไส้กรอกที่ไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์ หรือที่เรียกว่าไส้กรอกเจ
- ถ้านั่งรวมโต๊ะกับผู้ที่ชอบกินอาหารหลายๆ อย่าง
ก็อาจใช้วิธีดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มไปพลางๆ ก่อนถึงอาหารจานหลัก
- นำเครื่องปรุงบางอย่างติดตัวไปด้วย ชาวอเมริกัน
ที่นิยมกินอาหารประเภทสลัดผัก บางคนนำน้ำสลัดที่เตรียมเอง
ติดตัวไปด้วย เพื่อกันเหนียวในกรณีที่สถานที่ที่ไปกิน
ไม่ได้จัดเตรียมประเภทพลังงานต่ำไว้
5. สร้างความรู้สึกในทางบวก
ความรู้สึกที่เกิดระหว่างการกินอาหาร เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับการกินเช่น ถ้าเห็นว่าอาหารมีเต็มจาน
จะเกิดความรู้สึกว่าได้กินมาก ถ้าหากมีครึ่งจานจะเกิดความรู้สึกว่า
กินน้อย ทำให้รู้สึกว่ายังสามารถกินเพิ่มได้อีก
- วิธีการหนึ่งที่ช่วยได้ คือ ตักอาหารตามปริมาณที่ควรกิน
แล้วเติมผักให้เต็มจาน หรือบางคนอาจใช้จาน
ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติเพื่อให้เห็นว่า มีอาหารพูนจาน
- พยายามตกแต่งโต๊ะอาหารเสมือนจัดงานเล็กๆ ที่บ้าน เช่น
มีแสงเทียน ใช้ผ้าปูโต๊ะ และผ้าเช็ดปากที่ดูดี ทำให้เกิดบรรยากาศ
ที่สดชื่นและเปี่ยมไปด้วยความสุข ทำให้ผู้กินเพลิดเพลินไปกับ
บรรยากาศมากกว่าอาหาร
- ไม่ควรกินอาหารหน้าโทรทัศน์ เพราะจะเพลิดเพลิน
และเผลอกินอาหารมากโดยไม่รู้ตัว
ข้อสังเกตนี้ชี้ให้เห็นว่า การกินอาหารสำหรับการลดน้ำหนัก
มิได้ มีสูตรตายตัว สามารถที่จะปรับและผ่อนปรนได้ ข้อสำคัญจะต้อง
จำกัดอาหารที่จะให้พลังงานมาก และอย่าลืมหมั่นออกกำลังกาย
จะช่วยให้เรามีความสุขกับการกินอาหาร และรักษาน้ำหนักตัว
ของเราให้เหมาะสมไปในเวลาเดียวกัน
|