A ในที่นี่มีอยู่มาก
ในอาหารหลายประเภท
แต่ด้วยมีเหตุจากข่าวเร็วๆ นี้
ว่าองค์การอนามัยโลกบอกว่า
เด็กไทยและผู้ใหญ่ (บางส่วน)
ขาดวิตามินเอกันยกใหญ่
รับปี 2000 เลยชวนกัน
มารู้จักกับคุณ A เขา
วิตามินเอคืออะไร ?
คือ สารอาหารที่ละลายได้ในไขมัน
และสะสมได้ส่วนใหญ่ที่ตับ
หน้าที่สำคัญ คือ
การนำไปใช้ในการสร้างเม็ดสี
สำหรับการมองเห็นภาพในที่มืด
ตาของเราจะต้องการวิตามินเอมาก
โดยเฉพาะบริเวณจอรับภาพในตา
นอกจากนี้ยังมีความสำคัญ
ต่อการรักษาเยื่อบุในร่างกาย เช่น
เยื่อบุตาขาว เยื่อบุทางเดินหายใจ
ทางเดินอาหารให้คงสภาพปกติ
และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันเชื้อโรค
ของร่างกายทำงานได้ดีอีกด้วย
พืชที่มีสารตั้งต้นของวิตามิเอ
เบตาแคโรทีน กลุ่มพืชผักผลไม้
สีเหลือง-สีส้ม เช่น แครอท
ฟักทอง มะละกอสุก
มะม่วงสุก ฯลฯ และผักใบเขียวเข้ม
เช่น ผักตำลึง ผักบุ้ง
ผักกวางตุ้ง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลักในการบริโภค
จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะบริโภคอาหารไขมัน
ร่วมไปกับแหล่งอาหารวิตามินเอจากพืชด้วย
เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึม
สารตั้งต้นของวิตามินเอได้ดีขึ้น
และเพื่อให้พอเพียงกับ
ความต้องการของร่างกาย
วิตามินเอ เป็นสารอาหาร
ที่ร่างกายคนเราต้องการ
เพื่อการมองเห็น
และเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
โดยเฉพาะวัยเด็ก
นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
และทางเดินอาหาร
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินเอ
หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร
ทารก และเด็กก่อนวัยเรียน
ต้องการอาหารที่มีวิตามินสูงกว่าคนปกติ
โดยเฉพาะในช่วงอายุ 3 ปีแรก
ร่างกายต้องการวิตามินเอในปริมาณมาก
ส่วนทารกที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน
ที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยน้ำนมแม่
เนื่องจากนมที่ใช้ทดแทนไม่เหมาะสม
มีวิตามินเอไม่เพียงพอ
หรือไม่ก็เจือจางเกินไป
ทำให้ทารกขาดวิตามินเอ
ทั้งนี้โรคท้องร่วงของทารก
ที่เกิดจากการเตรียมนมทดแทนไม่สะอาด
ไม่ถูกต้องตามสัดส่วน ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง
ที่ทำให้เด็กขาดวิตามินเอ
การขาดวิตามินเอ
จะมีความเสี่ยงต่ออาการทางตา
เช่น เยื่อบุตาแห้ง
เป็นแผลขุ่นเหลว
ท้ายสุดตาบอดได้
โดยเฉพาะวัยเด็กอาจจะเสียชีวิตได้ง่าย
เมื่อขาดวิตามินเออย่างรุนแรง
นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดเชื้อสูง
ขณะเดียวกันยังก่อให้เกิดปัญหา
ของการนำธาตุเหล็กไปใช้ด้วย
เด็กที่ขาดวิตามินตัวนี้
จะทำให้มีการเจริญเติบโตช้า
และไม่เจริญอาหาร
|
|
การขาดวิตามินเอนั้นคือ
ปัญหาทางโภชนาการที่สำคัญ
ของสาธารณสุขโลก เนื่องจาก
เป็นสาเหตุให้เด็กนับร้อยคนเสียชีวิต
ในแต่ละวันและอีกนับล้านคน
ทุกข์ทรมานมีสุขภาพไม่แข็งแรง
องค์การอนามัยโลกบอกว่า
ปัจจุบันเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี
กว่า 3 ล้านคน ที่มีอาการทางตา
หรือ Xerophthalma ในระดับต่างๆ กัน
และเชื่อว่าอย่างน้อยเด็กอีก 230 ล้านคน
บริโภคอาหารที่มีวิตามินเอไม่เพียงพอ
ทำให้เสี่ยงต่อการขาดวิตามินเอ
ซึ่งก็จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ
การพัฒนาการ และการอยู่รอดของเด็ก
คาดว่าการขจัดปัญหานี้ จะช่วยชีวิตเด็ก
ได้กว่าล้านคนในแต่ละปี
ประเด็นที่สงสัย คือ
การขาดวิตามินเอ
เป็นปัญหาที่น่าจะป้องกันได้
เพราะอาหารที่มีวิตามินเอสูงหาได้ทั่วไป
ทั้งต้นทุนการผลิตก็ไม่สูงนัก
อย่างไรก็ตาม
ภาวะการขาดวิตามินเอ
อาจเกิดขึ้นด้วยเหตุที่ว่า
ไม่ได้บริโภคอาหารที่มีวิตามินเอ
เนื่องมาจากอาหารที่มีวิตามินเอ
มีเฉพาะฤดูกาลหรือราคาสูง
เกินกว่าจะซื้อมาบริโภค
หรือเด็กไม่ได้รับการฝึกให้รับประทานผัก
ที่มีวิตามินเอกันแน่ อีกกรณี
คือ ทารกไม่ได้กินนมแม่
หรือหย่านมแม่
ก่อนอายุครบ 4-6 เดือน
อาหารที่ไม่ถูกส่วน
ก็เป็นสาเหตุให้เกิดการขาดวิตามินเอเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อบริโภคไขมัน โปรตีน
ธาตุสังกะสีในปริมาณน้อย
ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็น
ต่อการดูดซึมและการนำวิตามิน
มาใช้ในร่างกาย
การเจ็บป่วย ก็เป็นสาเหตุสำคัญเช่นกัน
อาการท้องร่วงติดต่อกันหลายวัน
อาจมีสาเหตุจากการดูดซึมวิตามินเอ
และไขมันบกพร่อง
ภาวะขาดโปรตีน และพลังงานอย่างรุนแรง
ก็มีส่วนทำให้การดูดซึมวิตามินเอ
บกพร่องได้เช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้ามีอาการท้องร่วงร่วมด้วย
เด็กที่หายป่วยจากโรคขาดโปรตีน
และพลังงาน จะมีความต้องการวิตามินเอสูงขึ้น
นำไปสู่ภาวะการขาดวิตามินเอได้
คือ โรคหัด
โรคติดเชื้อกับระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง
โรคพยาธิ นอกจากนี้วิตามินเอ
ที่ร่างกายสะสมไว้จะลดลง
เมื่อมีความเครียด การติดเชื้อ
ไฟลวก อากาศร้อน อากาศหนาว
ดื่มสุรา หรือกินยาคุมกำเนิด
การให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่คนทุกเพศ
ทุกวัย ตลอดจนหญิงตั้งครรภ์
และหญิงให้นมบุตร ซึ่งจำเป็นต่อการดูแลตนเอง
ทำความรู้จักกับคุณวิตามินเอเอาไว้
จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหาวิตามินให้ชีวิตวุ่นวาย
|