ตั้งแต่มีข่าวโคลนนิ่งแกะชื่อ ดอลลี่
ก็ปรากฏเสียงวิพากษ์วิจารณ์ปรากฏดังกล่าวไปในแง่ลบเสียหมด
หลายคนบอกว่าการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์
จากประเทศสก๊อตแลนด์ครั้งนี้
ก่อให้เกิดคำถามมากกว่าคำตอบเช่น
- สุขภาพของดอลลี่จะเป็นอย่างไร จริงอยู่ตอนที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น
แกะดอลลี่มีอายุ 7 เดือน และทุกอย่างยังดูดีอยู่ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่า
อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปเพราะจะเป็นไปได้ไหมว่า ดอลลี่น่าจะอายุสั้น
กว่าแกะธรรมดา ในเมื่อมันเกิดจากเซลล์ของแกะต้นแบบที่มีอายุ
6 ปีเข้าให้แล้ว ซึ่งอาจจะหมายความว่าดอลลี่น่าจะแก่เร็วขึ้น
- กระบวนการโคลนนิ่งก่อให้เกิดการแท้งในอัตราสูงมาก
ทั้งนี้อาจหมายความว่าโคลนนิ่งสร้างความเสียหายต่อ ดี เอ็น เอ จนดอลลี่อาจกลายเป็นแกะขี้โรคและอายุสั้นที่สุด
จะอย่างไรก็ตาม การจะสร้างสำเนามนุษย์ หรือโคลนนิ่ง
ยังห่างไกลความเป็นจริงมาก แม้แต่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างดอลลี่
ก็ยังยากเย็นแสนเข็ญ
จริงๆ แล้วความคิดของโคลนนิ่งเกิดขึ้นจากความต้องการ
ด้านผลผลิตทางการเกษตรและการเภสัชอย่างบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
เล็กๆ ชื่อ "พีพีแอล" (PPL Therapeutics) ร่วมทุนให้ทุน 1 ใน 3
เพื่อการวิจัยโครงการดอลลี่ ด้วยวัตถุประสงค์หลัก คือ จะนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการผลิตเวชภัณฑ์ เช่น มีแกะฝูงใหญ่ที่ได้รับการดัดแปลงด้วยเทคนิคพันธุวิศวกรรม
จนสามารถผลิตนมที่มีส่วนประกอบเป็นเอนไซม์และยารักษาโรค
กว่าจะเกิดแกะดอลลี่ได้นั้น นักวิทยาศาสตร์ต้องทุ่มเท
กำลังกายและใจนับสิบๆ ปี
แต่ในความยากลำบากทางวิทยาศาสตร์ที่ว่านั้นยังน้อยนิด
เมื่อเทียบกับผลกระทบทางสังคม, แนวคิดวัฒนธรรม
และจริยธรรมที่เกิดตามมาอย่างมากมาย และบางกรณีดูเหมือนจะรุนแรงมาก
เริ่มด้วยคำถามง่ายๆ ที่ยังไม่มีคำตอบ อาทิเช่น
- เทคโนโลยีใหม่นี้จะมีการควบคุมและกำกับดูแลกันอย่างไร ?
- การที่คนเราสร้างสำเนาหรือคู่แฝดเหมือนขึ้นมาได้นั้น
จะกระทบหลักการของความเป็นปัจเจกบุคคล (individuality) อย่างไร ?
- สัตว์พันธุ์หนึ่งๆ เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยเซลล์
หลายๆ อย่างที่ใครๆ ก็คิดหล่อหลอมสำเนาได้อย่างนั้นหรือ ?
- กำเนิดของชีวิตด้วยกระบวนการตามธรรมชาติที่แสนจะน่าทึ่ง
น่าอัศจรรย์ใจกำลังจะกลายเป็นกระบวนการถ่ายสำเนาเอาอย่างนั้นหรือ ?
- เด็กในหลอดแก้วต่างจากโคลนนิ่งอย่างไรล่ะ
ในแง่ของการฝืนธรรมชาติ ?
ขอนำเสนอเหตุการณ์สมมุติที่อาจเป็นจริงในชั่วคนหน้าก็ได้
- ห้องปฏิบัติการโคลนนิ่งในโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของ กทม.
มีคนมานั่งรอขอปรึกษาการทำโคลนนิ่ง พ่อแม่คู่หนึ่งบินมาจากเชียงใหม่
เพื่อมารอลุ้นว่า คุณหมอจะช่วยทำโคลนนิ่งของบุตรสาววัย 6 ขวบ
ให้ได้หรือไม่ เพราะลูกคนนี้เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่า
เป็นมะเร็งเม็ดโลหิตขาวชนิดหนึ่งซึ่งรุนแรงมาก และโอกาสรอดชีวิต
อยู่ที่การปลูกถ่ายไขกระดูก แต่ก็ไม่อาจหาผู้บริจาคที่เนื้อเยื่อเข้ากันได้ แนวทางรักษาจึงต้องอาศัยฝาแฝดเหมือน (ถ้ามี) เพราะฝาแฝด
ย่อมจะมีเนื้อเยื่อและทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีฝาแฝดในชีวิตจริงก็ขอให้คุณหมอช่วยสร้างฝาแฝด
ด้วยวิธีโคลนนิ่ง โดยหวังว่าใน 9 เดือนข้างหน้าจะมีบุตรสาว
มาทดแทนสัก 1-2 คน
- ระยะหลังๆ นี้นักบริหารอุตสาหกรรมรายหนึ่งซึ่งมุ่งมั่นทำงาน
เสียจนไม่มีชีวิตครอบครัว ไม่มีบุตรภรรยา เกิดความคิดแปลกใหม่ขึ้นมาว่า ตอนนี้เขาสามารถสั่งทำโคลนนิ่งมาเป็นสำเนามนุษย์ ซึ่งเหมือนกับตัวเขา
ทุกประการ และถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เขาอาจจะสั่งทำอีกสัก 2-3 สำเนาก็ได้
- นักฟิสิกส์ชื่อดังระดับโลก นั่งรอปรึกษาหมอเรื่องโคลนนิ่ง
เป็นรายต่อไป ขณะนี้เขาล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ร่วมงานและวงการวิทยาศาสตร์รู้สึกเสียดายมากว่า เมื่อท่านจากไป
ความคิดสร้างสรรค์ดีๆ ทางวิทยาศาสตร์ของท่านก็คงจะตายตามไปด้วย
ท่านจึงอยากจะมาปรึกษาดูว่า กระบวนการสร้างสำเนาจะเอื้ออำนวยให้โลก
ได้นักวิทยาศาสตร์สมองใสอย่างท่านอีกสักคนหรือไม่ ?
- จอมเผด็จการนี้ได้ปกครองประเทศเล็กๆ มาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว
เขาเชื่อมั่นว่าประเทศนี้จะตกอยู่ในภาวะอันตรายยิ่งถ้าเขามีอันต้องตายไป ดังนั้นเพื่อสันติสุขของประเทศอันเป็นที่รักนี้ เขาจะขอให้ทางห้องปฏิบัติการ
สร้างสำเนาเพื่อรับภาระตกทอดในการปกครองประเทศสืบไป
ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่าประเด็นโคลนนิ่งหรือการทำสำเนามนุษย์
นั้นมาจากความคิดเป็น "อัตตา" ค่อนข้างสูง หลายคนคงอยากจะเป็นที่จดจำไปตลอดยามที่เขาเหล่านั้นจากไป หรือไม่ก็สร้างอนุสาวรีย์มีชีวิตขึ้นมาเพื่อการนี้ จึงไม่แปลกเลยที่ลึกๆ ลงไปในจิตใจของคนทั่วโลกในขณะนี้แล้วหลายต่อหลายคน
กำลังอยากจะสร้างสำเนาของตัวเอง
จะโวยวายกันไปทำไม ในเมื่อทุกวันนี้การผลิตเด็กในหลอดแก้ว
ก็เป็นกระบวนการฝืนธรรมชาติอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ?
ที่ออกจะฟังดูน่ากลัวคือ คนในยุคสมัยหน้าอาจสร้างสำเนาขึ้นมาใช้
เป็นอะไหล่ส่วนตัว เช่น สร้างขึ้นมาเพื่อขอแบ่งไตมาใช้สักข้างหนึ่ง
โดยที่อะไหล่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าอวัยวะที่ขอใช้เป็นอวัยวะเดียว
เช่น หัวใจ ก็คงต้องฆ่ามนุษย์อะไหล่เพื่อเอาหัวใจมาใส่มนุษย์ต้นแบบ
คนเรามีมาตรฐานหลายขั้น หรือมีความลำเอียงอยู่ในตัว อย่างเช่น
ถ้าบอกว่าเราน่าจะทำสำเนาคนอย่างนักวิทยาศาสตร์ไอน์สไตร์
หรือคีตกวีโชแปง ทุกๆ 50-100 ปี เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ
อย่างนี้ก็อาจจะรับกันได้ง่ายๆ แต่ก็มีทักท้วงอยู่ดีว่า การเลือกคน
โดยอาศัยคุณลักษณะราวกับการเลือกอะไหล่ประกอบรถยนต์คันใหม่ อาจนำไปสู่ความเสียหายได้เพราะในแต่ละยุคสมัย
ก็มีความนิยมชมชื่นมนุษย์แบบต่างๆ กัน บางยุคต้องการผู้ชายที่แข็งแรง
และผู้หญิงที่มีสะโพกผาย ในขณะที่ยุคสมัยแห่งอุตสาหกรรม
กลับต้องการคนที่มีมันสมองดีๆ
สิ่งที่กลัวกันมากที่สุดเห็นจะเป็นกรณีผู้มีอำนาจที่เป็นคนเลวๆ
แสวงการสร้างทายาทด้วยวิธีโคลนนิ่ง นับเป็นเทคโนโลยีดีๆ
ที่ตกไปอยู่ในมือที่ไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้รัฐบาลของประเทศต่างๆ สั่งห้ามการทำโคลนนิ่ง แต่ก็บอกได้เลยว่าคงจะไม่มีประเทศไหนสามารถติดตาม
ดูแลบังคับใช้อย่างเด็ดขาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในกิจการของบริษัทภาคเอกชนที่อาจทุ่มเททรัพยากรวิจัย และพัฒนาเรื่องนี้
บนเกาะที่อยู่ห่างไกล จึงน่าจะต้องขอฝากให้บรรดานักวิทยาศาสตร์
ช่วยกันคิดหาทางออกดีๆ ที่จะป้องกันไม่ให้ของดีๆ
ไปตกอยู่ในหมู่คนที่ประสงค์ร้ายต่อมนุษยชาติได้
|