จีนในที่นี้ไม่ใช่คนจีนนะครับ แต่หมายถึง
หน่วยย่อยของพันธุกรรม ที่อยู่ในสายดีเอ็นเอ
ทำหน้าที่แสดงลักษณะหนึ่งๆ ในสิ่งมีชีวิต หลายคนชอบเขียนคำนี้ว่า
ยีน ซึ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
เขาแปลคำ Gene ว่า จีน ไม่ใช่ ยีน
เรื่องราวของอาหารตัดต่อจีน กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อทางสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กัน สหรัฐ
อเมริกาเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของอาหารตัดต่อจีนเหล่านี้ นั่นคือ เป็นยักษ์ใหญ่ของการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางด้านการตัดต่อจีน
ในการพัฒนาพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ตอนนี้ถั่วเหลืองในสหรัฐอเมริกา
ที่ส่งออกมากกว่าครึ่งหนึ่งกลายเป็น ถั่วเหลืองที่ตัดต่อจีนแบคทีเรีย
ใส่เข้าไป กลายเป็นถั่วเหลืองที่ทนทานต่อยากำจัดวัชพืชได้
ข้าวโพดร้อยละ 30 ในสหรัฐอเมริกา กลายเป็นข้าวโพดตัดต่อจีนแบคทีเรีย
ที่เรียกว่า บีที ทำให้ข้าวโพดสร้างสารฆ่าแมลงได้ด้วยตัวของมันเอง
คนอเมริกันทุกวันนี้มีชีวิตอยู่กับอาหารตัดต่อจีน อย่างเช่น
เนยแข็งในตลาดอเมริกันร้อยละ 75 เป็นเนยแข็ง
ที่ใช้เอนไซม์ที่ได้จากแบคทีเรียตัดต่อจีนในการผลิต
นมเกือบร้อยละ 30 ได้มาจากวัวที่ฉีดฮอร์โมนเร่งนม
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากแบคทีเรียตัดต่อจีน ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาวันนี้จึงเจออาหารตัดต่อจีนเข้าไปเต็มที่
หาทางหลบเลี่ยงไม่พ้นหรอก
แต่คนยุโรปซึ่งนำเข้าผลผลิตอเมริกันหลายรายการ
ไม่ได้คิดอย่างนั้น ผู้บริโภคยุโรปค่อนข้างจะเข้มแข็ง ไม่ใช่ว่าทางสหรัฐอเมริกาส่งอะไรมาคนยุโรปก็กินไม่เลือก คนยุโรปมีประสบการณ์ขมขื่นกับเรื่องเทคโนโลยีอาหาร
ที่บังเอิญสร้างปัญหามามาก อย่างเช่น เรื่องของโรควัวบ้า ที่ทำเอาเกษตรกรเลี้ยงวัวของอังกฤษล่มจมไปตามๆ กัน
เรื่องของการฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต คนยุโรปเขาก็ไม่รับ ยิ่งฮอร์โมนมาจากการตัดต่อจีนด้วยแล้ว ยิ่งรับไม่ได้
คนยุโรปโดยเฉพาะคนอังกฤษมองว่า
เทคโนโลยีการตัดต่อจีนหากนำมาใช้กับอาหารแล้ว
ยังไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยต่อสุขภาพได้
คนอังกฤษจึงพากันเรียกอาหารตัดต่อจีนพวกนี้ว่า
อาหารแฟรงเก้นสไตน์ เจ้าฟ้าชายชาร์ลทรงลงมาต่อต้าน
ด้วยพระองค์เองเลยทีเดียว
ภายหลังต่อมามีรายงานทางวิทยาศาสตร์ออกมาว่า อาหารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดภาวะภูมิต้านทานลด
อาจมีการถ่ายทอดจีนจากอาหารเข้าสู่แบคทีเรีย
ในทางเดินอาหารของมนุษย์ทำให้แบคทีเรียทนทานยาปฏิชีวนะ
และที่สำคัญคือ มีการพบว่าจีนสร้างสารฆ่าแมลงที่ตัดต่อใหม่เหล่านี้
สามารถทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์อย่างเช่น ผีเสื้อโมนาร์ช ฯลฯ
ผู้คนก็ยิ่งหวั่นเกรง
คนเขาไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยีชีวภาพ
ไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยีตัดต่อจีน
แต่เขากังวลการใช้เทคโนโลยีนี้ในผลผลิต
การเกษตรซึ่งมีการเพาะปลูกในพื้นที่เปิด ควบคุมได้ยาก
นอกจากนี้ สิ่งที่ได้คือ อาหารที่ต้องรับประทานเข้าไปโดยตรง
จะปลอดภัยในระยะยาวหรือเปล่าก็ไม่รู้
กระแสต่อต้านแพร่จากยุโรปลุกลามไปทั่วโลกแล้วละครับ
จากยุโรปลามเข้าอัฟริกา ข้ามไปอเมริกาใต้ รุกไปถึงญี่ปุ่น
ซึ่งกรณีของญี่ปุ่นนี่เขาบอกกันมาแล้วว่า หลังจากเดือนเมษายนปี
พ.ศ. 2544 เป็นต้นไปอาหารที่มีส่วนผสมของอาหารตัดต่อจีนทุกชนิด
จะต้องติดฉลากแจ้งให้ผู้บริโภคทราบ
ประเทศอัฟริกาใต้เริ่มที่จะจำกัดพื้นที่เพาะปลูกพืชไร่ตัดต่อจีน
ส่วนบราซิลเองก็ไม่อยากจะมีปัญหากับเรื่องนี้
เพราะบราซิลเกรงว่ากระแสต่อต้านอาหารตัดต่อจีน
จะทำให้ผลผลิตของตนเองขายไม่ออก ขณะเดียวกันในสหรัฐอเมริกา
และแคนาดาก็เจอปัญหาตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ทางแคนาดาได้ดำเนินมาตรการแยกพืชไร่ตัดต่อจีนจากพืชไร่ปกติ
เพื่อป้องกันปัญหา
ส่วนในสหรัฐอเมริกานั้น บริษัทผู้ผลิตอาหารชื่อดังหลายแห่ง
เริ่มประกาศที่จะไม่ใช้วัตถุดิบที่มีองค์ประกอบของผลผลิตตัดต่อจีน
อย่างเช่น Berger บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตอาหาร
และเครื่องใช้สำหรับเด็กและทารกของสหรัฐอเมริกา
บริษัท Bodyshop รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ด้านผลิตภัณฑ์ขายตรง
ต่างถอนตัวจากผลิตภัณฑ์ตัดต่อจีนกันเป็นทิวแถว
กระแสต่อต้านอาหารตัดต่อจีนแพร่สะพัดไปกว้างขวาง
จนรุกเข้าไปในสหรัฐอเมริกาเสียเอง ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรกรรมตัดต่อจีนเองก็เริ่มที่จะต่อต้าน
เพราะเมล็ดพันธุ์เหล่านี้มักจะเป็นหมัน เกษตรกรต้องซื้อเมล็ดพันธุ์
จากบริษัทในทุกฤดูการผลิต การค้าขายเมล็ดพันธุ์ถูกผูกขาด ยิ่งมีการรวมตัวของบริษัทเมล็ดพันธุ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เกษตรกรก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ นอกจากนี้การทำเกษตรกรรมในหลายพื้นที่ ก็มักจะถูกบรรดากลุ่มต่อต้านเข้าไปบุกรุกทำลาย
ต้องใช้ตำรวจใช้ทหารเข้าไปดูแลป้องกันพื้นที่
หาความปลอดภัยในการประกอบอาชีพไม่ได้
กระแสต่อต้านในสหรัฐอเมริกาเองก็เริ่มที่จะโตขึ้นทุกวัน
ประเด็นอาหารตัดต่อจีนจึงกลายเป็นประเด็นร้อน
นานวันเข้ากระแสต่อต้านก็ยิ่งลุกลาม ประเทศไทยเจอผลกระทบเข้าไปแล้ว
ในเมื่อผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศไทยที่มีองค์ประกอบของน้ำมันถั่วเหลือง พากันถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปในตลาดยุโรป เพราะเขาเกรงว่า
จะมีการใช้ถั่วเหลืองตัดต่อจีนในการผลิตน้ำมัน
เรื่องอาหารตัดต่อจีนจึงกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเต็มๆ ทั้งยังมีความพยายามกดดันผ่านทางฝ่ายการเมือง
และนักวิชาการบางกลุ่มให้มีการนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้
เข้ามาเพาะปลูกในประเทศของเราด้วยซ้ำ
เห็นทีทางกระทรวงเกษตรฯต้องคิดให้หนักแล้วละครับ
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงสาธารณสุข ต้องเร่งกระบวนการติดฉลากอาหารตัดต่อจีนให้เร็วขึ้นสักหน่อย
คนไทยรับประทานข้าวโพดตัดต่อจีน ถั่วเหลืองตัดต่อจีน
ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาและอาร์เจนติน่ากันอยู่ทุกวัน
จะปลอดภัยหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่ก็น่าที่จะติดฉลากให้ผู้บริโภค
เขารู้ตัวเองไว้บ้างนะครับ
ดร. วินัย ดะห์ลัน
|