ภ.ญ.ยุวดี สมิทธิวาสน์
|
ต้นแปะก๊วย... เป็นต้นไม้เก่าแก่มาก มีการค้นพบฟอสซิลที่มีอายุมากถึง 200 ล้านปี มีการนำใบของต้นแป๊ะก๊วยที่มีอายุไม้มาก
มาสกัดเป็นยาสมุนไพรแผนปัจจุบัน พบตัวยา 2 ชนิด ที่มีในใบ คือ
ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์สามารถตรวจวัดวิเคราะห์หาปริมาณยาได้ มีการนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยที่มีคุณภาพสูงจะประกอบด้วย ginkgo flavone glycosides 24% และ terpene lactones 6% คุณสมบัติของสารสกัด 2 ตัวนี้คือ การเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปสู่สมอง, ปลายมือปลายเท้า ถึงแม้ว่าจะไม่มีการทดลองกับสตรีวัยทองในเรื่องปัญหาความทรงจำก็ดี แต่ได้มีการนำไปใช้กับสตรีวัยทองเป็นจำนวนมาก ในเรื่องการเพิ่มความทรงจำ มีการทดลองทางคลินิกแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ของสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย (GBE = ginkgo biloba extract) ในการรักษาโรคความจำเสื่อม, โรคซึมเศร้า อาการหลง ๆ ลืม ๆ อันเนื่องมาจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอในผู้ป่วยสูงอายุ มีการศึกษา 2 กลุ่ม แสดงให้เห็นถึงผลการรักษาอย่างถูกต้อง ในผู้ป่วยที่มีอาการหลงลืมตั้งแต่ระดับอ่อนถึงปานกลาง (mid to moderate primary dementia of the Alzheimer's type or multi-infaret dementia)
ในสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือนควรจะ รับประทานสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย เพราะกลุ่มนี้จะมีความเปลี่ยนแปลง ของเรื่องความทรงจำ เรื่องอารมณ์ เรื่องสมาธิ ซึ่งสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย จะช่วยทำให้อาการต่าง ๆ เหล่านี้ดีขึ้น อีกปัญหาหนึ่งของสตรีวัยใกล้หมดระดูหรือหลังหมดระดูก็คือ ความต้องการทางเพศจะลดลงถึงแม้ว่าเรายังต้องการการพิสูจน์ต่อไปอีก ในเรื่องการใช้สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยในเรื่องการเพิ่มความต้องการทางเพศ แต่ก็ไม่เสียหายถ้าจะมีการใช้สมุนไพรตัวนี้เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
อันเนื่องมาจากยารักษาอาการซึมเศร้าในผู้หญิงและผู้ชาย (antidepressant-induced sexual dysfunction) ผู้หญิง 33 คน และผู้ชาย 30 คน ที่มีปัญหาเรื่องเพศ เช่น อวัยวะเพศไม่แข็งตัว, ไม่ถึงจุดสุดยอด, ความต้องการทางเพศลดลง หลังจากได้รับยากลุ่มรักษาอาการซึมเศร้าแล้ว ginkgo ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้ในผู้หญิง 30 คน จาก 33 คน (91%) และผู้ชาย 23 คน จาก 30 คน (76%) ถ้ารวมทั้งหมดแล้ว ผลลัพธ์ซึ่งเกิดจากการรายงานด้วยตัวเองแล้วจะเท่ากับ 84% ถึงแม้ว่าจะเป็นการรายงานของตัวคนไข้เองก็ตาม ก็น่าสนใจไม่น้อย ในเรื่องตัวเลขผลลัพธ์ที่ค่อนข้างสูง ปริมาณยาที่ให้จะอยู่ระหว่าง 60-120 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ เกือบทั้งหมดของผู้ป่วยที่เข้าทดลองยังคงรับประทานยา ต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน บางคนรับประทานยามาเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยยังคงมีผลต่อการกระตุ้นทางเพศต่อไป ถึงแม้ว่าจะเป็นผลที่เกิดแก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเพศ อันเนื่องมาจากได้รับยาแก้อาการซึมเศร้า แต่ไม่ใช่ผู้ป่วยที่มีปัญหาอันเนื่องมาจาก การหมดระดูก็ตาม ก็ยังคงแนะนำให้นำยา ginkgo มาใช้ได้เช่นกันเพราะปลอดภัยและง่ายในการใช้กับสตรีที่อยู่ในกลุ่มวัยทอง หมายเหตุ ถอดความจากหนังสือ Women's Encyclopedia of Natural Medicine โดย TORIHUDSON, N.D. (1999). |
ภ.ญ.ยุวดี สมิทธิวาสน์
| main | ![]() |
![]() |
|
|
![]() |
|