สมัยก่อนก็เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว คนที่เป็นนักมวยเวลาชกแพ้ลงมา
หรือชกได้ไม่ดีเท่าที่ควรมักจะถูกกล่าวหาว่า นักมวยคนนั้นชอบเที่ยวผู้หญิง
จึงทำให้ไม่มีแรงแล้วยังพากันเชื่ออีกว่า...
ใครก็ตามที่เป็นนักกีฬาทีมชาติถ้ามีเมียก็ควรเลิกเล่นกีฬาได้แล้ว ที่เชื่อกันเช่นนี้ก็เพราะคิดว่าคนที่มีเมียจะต้องมีเพศสัมพันธ์บ่อย
จึงทำให้หมดแรงง่ายนั่นเอง ครับ คนไทยส่วนใหญ่มองการมีเพศสัมพันธ์
คือ การทำลายแรง
ที่ว่านี้หมายถึงนักกีฬาที่เป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงจะเป็นอย่างนี้หรือเปล่า
ผมไม่ทราบ โค้ชหรือผู้จัดการทีมในสมัยก่อนจึงเป็นห่วงเรื่องนี้มาก
ถึงขนาดคอยสอดส่องดูแล ไม่ให้นักกีฬาชายไปเที่ยวผู้หญิง
โดยเฉพาะอยู่ในระหว่างแข่งขันกีฬา
แม้ไม่ได้อยู่ระหว่างแข่งขันกีฬา ผู้จัดการทีมก็มักจะใช้วิธีสั่งเก็บตัวนักกีฬา
เพราะเป็นการป้องกันไม่ให้นักกีฬาออกไปเที่ยวเตร่ การเที่ยวเตร่ในที่นี้
ถ้าเป็นโสดก็หมายถึงไปร่วมเพศนั่นเอง และถ้าเป็นคนที่มีเมียแล้ว
ก็ป้องกันไม่ให้นักกีฬาไปนอนกับเมีย
ส่วนในสมัยนี้ไม่มีใครห่วงเรื่องเพศสัมพันธ์กันต่อไปแล้ว นักกีฬาจะไปนอนกับใครก็เชิญตามสบายเป็นเรื่องของนักกีฬาคนนั้นๆ หรือจะกลับไปหาเมียก็ไม่เป็นไรอีกเช่นกัน ยกเว้นไปกินเหล้า
เมายาหรือนอนดึกเพราะทั้ง 3 ประการหลังทำให้บั่นทอนกำลัง
ส่วนการร่วมเพศไม่ถือว่าเสียหายก็เพราะแบบนี้จึงเห็นได้ว่า
นักกีฬาระดับโลกหลายคน แม้นักมวยซึ่งต้องใช้กำลังมาก
เวลาจะไปชกที่ไหนบางคนยังหอบหิ้วพกเมียไปด้วยเลย
นักฟุตบอลทีมชาติของบราซิลซึ่งถือได้ว่า มีฝีเท้าเป็นอันดับ 1
ของโลก และอีกหลายชาติที่เป็นชั้นนำของโลก จึงอนุญาตให้นักฟุตบอล
นอนกับภรรยาได้ทั้งก่อนและหลังแข่งขันพูดง่ายๆ ก็คือ
อยากทำอะไรก็ทำ เพราะไม่ถือว่าการร่วมเพศทำให้เสียแรง กลับมีผลดีในแง่ของการทำให้ผ่อนคลายสมอง อารมณ์เครียดที่สุมอยู่ลึกๆ
โดยไม่รู้ตัวก็จะหมดไป นักกีฬาที่มีอารมณ์ดีก็จะใจเย็น
ก่อให้เกิดความสุขุมรอบคอบกว่าคนที่กำลังเครียด
แม้เปเล่ราชาฟุตบอลของโลกก็ยังเคยเปิดเผยเรื่องนี้ทำนองว่า
...การได้ร่วมเพศก่อนเกมการแข่งขันสักระยะหนึ่ง
(ใช้เวลา 2 หรือ 3 วัน) ก็จะทำให้เล่นฟุตบอลได้ดีขึ้น...
ถ้านักกีฬาคนใดอ่านข้อเขียนของผมในวันนี้แล้ว
ก็ลองปฏิบัติดูได้ ผลเป็นอย่างไรบอกให้ผมรู้ด้วยจะขอบคุณมาก ขอย้ำ!!!...ว่าให้ร่วมเพศในจำนวนเท่าที่ธรรมชาติกำหนดแล้ว
ต้องมีเวลาพักผ่อนก่อนลงแข่งขันสัก 24 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
เพราะถ้าฝืนธรรมชาติมากเกินไป ชนิดเรียกได้ว่าหักโหม
นอกจากท่านจะเล่นกีฬาได้ไม่ดีขึ้นแล้ว อาจทำให้หัวใจวายตายได้
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเช่นนี้แหละคือต้องให้พอดีถ้ามากเกินไป
ของดีๆ ก็จะให้โทษได้อย่างกับเรื่องร่วมเพศ เป็นต้น
ผมรู้ซึ้งมานานพอสมควรแล้วว่า เพศสัมพันธ์มีประโยชน์กับทุกคน
และใครๆ ก็ชอบการร่วมเพศกันทั้งนั้นเพราะนอกจากทำให้ผู้นั้นมีความสุขแล้ว
ยังได้ทายาทคือ ลูกมาสืบตระกูลอีกต่างหาก ที่ว่านี้หมายถึงคนที่ไม่เป็นหมัน
สมัยผมเป็นนักกีฬาผมก็ไม่ห่วงเรื่องนี้ ถ้าจะห่วงมีอยู่อย่างเดียวคือ ห่วงว่าจะไม่มีใครยอมมามีเพศสัมพันธ์กับผมเท่านั้น แล้วก็ไม่เห็นว่า
เมื่อร่วมเพศแล้วจะเสียแรงอะไร เพียงแต่ผมไม่กล้าบอกใครเท่านั้น
เพราะยังไม่มั่นใจว่าคนอื่นๆ จะเหมือนผมหรือไม่ ผมจึงปล่อยตัวตามสบาย
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมได้รับข่าวจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
เป็นที่น่ายินดีว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งจะทำให้ดูอ่อนวัยขึ้น ผู้ที่วิจัยยืนยันเรื่องนี้ไม่ได้เป็นคนไทยแต่เป็นชาวสกอตแลนด์
ชื่อ ดร.เดวิด วิกส์ ข่าวมีว่าดังนี้ครับ
มีรายงานจากต่างประเทศในหนังสือพิมพ์เดลี่เทเลกราฟ
มีรายละเอียดดังนี้คือ ดร.เดวิด วิกส์ ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา
เกี่ยวกับระบบประสาท โรงพยาบาลรอยัลเอตินเบอระ ในสกอตแลนด์
เปิดเผยการวิจัยว่า
...คู่รักที่มีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
จะทำให้ดูอ่อนวัยถึง 10 ปี เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยมีเพศสัมพันธ์
สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยได้ทำการศึกษาประชาชนจำนวน 3,500 คน
ที่มีอายุระหว่าง 18-102 ปี เป็นเวลา 10 ปี ในอังกฤษ ยุโรป และสหรัฐ
พบว่ารูปร่างหน้าตาคนเราร้อยละ 25 มาจากพันธุกรรมของแต่ละคน
โดยเฉพาะกิจกรรมทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด รองลงมาคือ
การออกกำลังกายและการฝึกฝนทางจิต...
นายประวิตร พิศาลบุตร อดีตนักวิจัยสถาบัน
สาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า
" เป็นที่สังเกตกันมานานแล้วว่า การมีเพศสัมพันธ์
ช่วยคลายเครียดได้อย่างชะงัดและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เพราะขณะมีเพศสัมพันธ์หัวใจจะสูบฉีดโลหิตเร็วขึ้น ปริมาณเลือด
ที่มาหล่อเลี้ยงเซลล์ของผิวหนังและอวัยวะต่างๆ จึงมีมากขึ้น ทำให้เซลล์ได้รับออกซิเจนและอาหารมากขึ้น ในขณะเดียวกัน
ทางลมหายใจออกของเสียที่ถูกขับออกทางปอดก็จะมากขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อถึงจุดสุดยอด บางคนจะมีผิวเปล่งปลั่ง
สีชมพูเรื่อๆ ตามใบหน้า และลำคอ ส่วนต่อมไร้ท่อต่างๆ ซึ่งควบคุมอวัยวะสำคัญหลายอย่างก็จะถูกกระตุ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ มีการหลั่งฮอร์โมนและสารเคมีทำให้ผิวหนัง ผม เล็บ และอวัยวะต่างๆ
ทั่วร่างกายได้รับประโยชน์ด้วย รากของเส้นผม
จะได้รับสารอาหารหล่อเลี้ยงมากขึ้นทำให้เส้นผมแข็งแรง
ป้องกันผมร่วงมากกว่าปกติได้ ป้องกันเส้นผมเปราะและแตกปลาย
ทำให้ผมดูดกและเป็นเงาสลวย สำหรับเล็บนั้นก็จะแข็งแรง
แลดูเรียบและเป็นประกายมากขึ้น ทำให้เล็บเปราะหักน้อยลง "
นายแพทย์ประวิตรกล่าวว่า
" ในขณะที่ถึงจุดสุดยอดกล้ามเนื้อเล็กๆ รอบดวงตาจะถูกกระตุ้น
ทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้แข็งแรงขึ้นช่วยให้อาการหนังตาบน หนังตาล่าง
และอาการบวมของผิวหนังรอบดวงตาดีขึ้นได้ กล้ามเนื้อรอบคางจะเกร็งตัว มีส่วนทำให้อาการคางสองชั้นและรอยย่นตามมุมปากดีขึ้น
และเพศสัมพันธ์ในทำนองราบทำให้กล้ามเนื้อคอยืดตัวลำคอจะระหงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม หากคิดจะมีเพศสัมพันธ์เพื่อชะลอความแก่
และทำให้ผิวสวยก็จำเป็นจะต้องมี SAFE SEX คือ เพศสัมพันธ์แบบปลอดภัยไม่สำส่อนและรู้จักการใช้ถุงยางอนามัย
เพราะปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ถึงชั่วโมงละ 4 คน นอกจากนั้นการมีผิวพรรณสดใสแลดูไม่แก่นั้นยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ อีก
คือ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่รวมทั้ง ผักและผลไม้ด้วย
พักผ่อนให้เพียงพอโดยนอนไม่ต่ำกว่า วันละ 6-8 ชั่วโมง
มีจิตใจแจ่มใสสมองโลกในแง่ดี ไม่เครียด และไม่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
งดเว้นการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าและ ยาเสพติดทุกชนิด
รวมทั้งหลบเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดด้วย "
ผมตัดข่าวข้างบนนี้ที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มาทั้งดุ้นเลย
และไม่ได้ตัดมาอย่างเดียว ยังนำมาถ่ายเอกสารแจกพรรคพวกเพื่อนฝูง
ที่อยู่ในวัยเดียวกันด้วยคือ อยู่ในวัยใกล้เกษียณเต็มที
เพื่อให้พวกเขานำข่าวนี้ไปใช้ประโยชน์
เพื่อนคนหนึ่งรับข่าวไปอ่านแล้วบ่นเสียดายที่เพิ่งรู้ว่า
มีเพศสัมพันธ์ทำให้ดูอ่อนวัย เพราะถ้ารู้เมื่อสมัยยังหนุ่มๆ
เขาคงไม่แก่ถึงขนาดนี้ ผมบนศีรษะก็คงจะดกไม่ร่วง
ส่วนเพื่อนอีกคนอ่านข่าวแล้ว ตั้งข้อสงสัยถามผมกลับว่า
ถ้ามีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทำให้ดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงๆ 10 ปี
แล้วถ้ามีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 6 ครั้งล่ะจะอ่อนวัยขึ้นถึง 20 ปีใช่หรือไม่
ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบเพราะตอบไม่ได้ ได้เพียงคิดในใจว่า
คนวัยเดียวกับผม ถ้าขืนมีเพศสัมพันธ์มากๆ อย่างนั้นไม่ไหวแน่
จะเอาแรงที่ไหนไปสู้ ดีไม่ดีแทนที่จะดูหนุ่มขึ้นกลับต้องแก่ลงไปอีกก็ได้
เพราะหักโหมมากเกินไป
มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งรับข่าวจากมือผมไปอ่านเสร็จ หัวเราะเบาๆ พูดว่าคนฝรั่งนี่โง่จริงที่เพิ่งวิจัยพบว่าการมีเพศสัมพันธ์มากๆ
ทำให้ดูหนุ่มขึ้น ส่วนเขารู้มาตั้งนานแล้ว...
มิน่าเขาจึงดูหนุ่มกว่าทุกคนในเพื่อนรุ่นเดียวกัน
|