นายแพทย์หะทัย เทพพิสัย
อาจารย์พิเศษโรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า
ปี 2000 ปัญหาชาย วัยทองที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
ยังวิตกกังวลอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นลำดับแรก
เพราะธรรมชาติของผู้ชายทุกยุคสมัย ชอบเอาความสามารถทางเพศ
เป็นค่านิยมบ่งชี้ความเป็นชาย เนื่องจากสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
จากอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่ลดลงทำให้ขาดความภาคภูมิใจ
และความเชื่อมั่น แต่มักไปกล่าวโทษสังขาร
แล้วพยายามเสาะแสวงหาทางบำบัดในทางที่ผิด เช่น การหายาโด๊ปหรือรักษาในวิธีการที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ชายวัยทองเมื่อตรวจร่างกายมักพบว่า
มีความพร่องของฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน (Testosterone)
ซึ่งอัณฑะที่ทำหน้าที่ผลิตลดปริมาณการผลิตลง
ตามรายงานทางการแพทย์ล่าสุดพบว่า
ชายอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ระดับฮอร์โมนเพศชายจะลดลง
ปีละประมาณ 15% และเมื่ออายุประมาณ 65 ปี
ระดับฮอร์โมนเพศชายจะต่ำกว่าวัยหนุ่มถึง 25%
โดยผลที่ตามมาที่สังเกตเห็นจากภายนอก เช่น
กล้ามเนื้อลีบหรือแฟบลง ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง นอนไม่ค่อยหลับ
ตื่นนอนกลางคืนแล้วหลับยาก เบื่อ อาหาร ปวดเมื่อยโดยไม่รู้สาเหตุ
ขณะที่ด้านจิตใจผู้อยู่ในวัยทอง จะรู้สึกถึงความจำ
และสมาธิแย่ลง หงุด หงิด กลัว ตกใจอย่างไม่มีเหตุผล
อาการไม่ใส่ใจสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอารมณ์ และความต้องการทางเพศที่ลดลง
ซึ่งผู้ประสบปัญหาจำเป็นจะต้องสังเกตลักษณะอาการของตนเอง ได้แก่
การขาดความสนใจทางเพศ ขาดความตื่นเต้นทางเพศ ตอนเช้าที่ตื่นไม่มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
หรือความล้มเหลวในกิจกรรมทางเพศ
|