เขียนถึงปัญหาของผู้ชายวัยทอง มาหลายครั้งหลายหนแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดปัญหาให้เขียนสักที ที่จริงปัญหาของผู้ชายวัยทองนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสุขภาพที่ลดลง ประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่ลดลง แต่ตัวผู้ชายวัยทองเองกลับไม่ได้สนใจปัญหาของสุขภาพเท่าใด...กลับไปสนใจปัญหาที่จะมีสุขเพศ หรือการมีเพศสัมพันธ์ที่สุขสมแทน เนื่องจากตั้งแต่วัยกลางคนไป ความเชื่อมั่นในความเป็นชาย...ตามความคิดทั่วๆ ไป ของคนปกติธรรมดาเริ่มลดลง ตั้งแต่อวัยวะส่วนนั้นที่เขารักเขาหวงเริ่มไม่ค่อยจะทำงาน และพวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าที่ไม่ทำงานน่ะ เฉพาะกับภรรยาเขาเท่านั้น ใช่ไหม เขาเลยต้องไปลองหาประสบการณ์กับหญิงอื่นนอกสมรสดู...เผื่อที่จะเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ส่วนใหญ่มักจะได้เรื่องเดือดร้อนเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่มีความสุขจริงๆ น่ะ เป็นส่วนน้อย ที่จริงแล้ว ผู้ชายวัยทองน่ะเป็นคนที่ทุกคนควรจะพยายามเข้าใจ และช่วยเหลือให้เขาผ่านพ้น ภาวะวิกฤติในวัยดังกล่าว เพื่อที่จะได้ก้าวเข้าสู่ปัจฉิมวัยอย่างมั่นใจและมีความสุข ลองมาพิจารณาปัญหากันดู ก็จะรู้ว่าที่แท้ผู้ชายวัยทองน่ะขาดรัก...ขาดรักจริงๆ นะครับ พวกเขาต้องการใครสักคนที่รักเขาอย่างจริงใจ รักและเข้าใจพวกเขาอย่างที่เป็น ไม่ใช่อย่างที่อยากจะให้เป็น ! ทำไมเดี๋ยวนี้เราจึงชอบบังคับให้คนอื่นเป็นในรูปแบบที่ตนเองต้องการนักก็ไม่รู้ และคิดว่าที่ตนอยากให้เป็นนั่นแหละถูก ที่คนอื่นทำอยู่น่ะผิด และพยายามหาว่า ความผิดอยู่ที่ใคร ? แทนที่จะหาว่า ปัญหาอยู่ที่ไหน และหาหนทางแก้ปัญหาดังกล่าว แม้พระพุทธองค์จะได้ทรงตรัสรู้และสั่งสอนถึงอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ให้เห็นหนทางดับทุกข์และแก้ปัญหา แล้วก็ยังไม่ค่อยมีใครทำ เอาวิธีการแก้ปัญหาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสรู้ และสั่งสอน มาใช้กันเลย เราเลยมีแต่คนผิด...แต่ไม่ได้แก้ปัญหา ปัญหาจึงอยู่ตรงนั้น...โดยเฉพาะปัญหาของผู้ชายวัยทอง มาลองพิจารณาปัญหาของผู้ชายวัยทองกันดูดีไหมครับ ผู้ชายวัยทองชอบแอบไปมีอีหนูตัวน้อยๆ ? ไม่ใช่ผู้ชายวัยทองทุกคนที่เป็นเช่นนั้น มีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่มีปัญหาดังกล่าว ดังนั้นถ้าทุกคนพยายามพูดว่า ผู้ชายก็เป็นแบบนี้...เขาก็จะเป็นแบบนั้น ยิ่งถ้าภรรยาเป็นคนคิดและพยายามพูดตอกย้ำอยู่เรื่อยๆ ว่าสงสัยว่าตาแก่คนใกล้ตัว จะไปมีเล็กมีน้อย...สมมติว่าตอนนี้เขาไม่มี พูดไปเรื่อยๆ เขาก็มีเองแหละครับ ทำไมหรือครับ " ก็พูดมากนัก ผมรำคาญ เลยหามีมันเสียเลยประชดเมีย " " ชอบสาดโคลนให้ผมนัก กับบ้านช้าก็บ่น ขอมีอะไรด้วยก็บอกว่าไม่โอเค. ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่ " " ผมทำงานก็ต้องมีเลขาบ้าง เลขาผมน่ะเป็นคนดี โดนเมียผมระแวงทุกวันๆ ในที่สุด เธอก็เลยรับคำท้าเสียเลย บทหนักก็เลยตกที่ผม " ฯลฯ เห็นไหมครับ ทุกปัญหาในเรื่องนี้ เกิดจากการไม่เข้าใจกันระหว่างคนสองคนที่เคยรักกัน และตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะความรัก หัดบอกรักกันเป็นประจำบ้าง ทำกิจกรรมแห่งความรักใคร่กันเป็นประจำสม่ำเสมอบ้าง หาอะไรที่ทำด้วยกันแล้วสามารถพูดจากันด้วยมธุรสวาจาบ้าง ชีวิตคู่ก็จะไม่น่าเบื่อหน่าย และต้องพยายามเชื่อใจกัน...ไว้ใจกัน และให้เกียรติกันครับ เคล็ดลับที่บางคนใช้แล้วได้ผลก็คือ คุณผู้หญิงพยายามยกย่องเชิดชูเขาคนนั้นในวัยทองเอาไว้ ชมทั้งต่อหน้าและลับหลังว่า เขาเป็นคนดี เป็นคนรักครอบครัว ไม่ว่าใครจะว่าอะไรไม่เชื่อหรอก แบบนี้ก็อาจจะทำให้เขาไม่กล้าทำก็ได้...ใครๆ ก็อยากจะเป็นคนดีทั้งนั้น นอกจากโอกาสจะเปิด และเป็นลิขิตของฟ้าและชะตากรรมแบบนั้นก็ตัวใครตัวมัน ก็แล้วกันนะครับ และแน่นอน ควรจะจัดการให้หมดแรงเสียที่บ้านเป็นประจำ จะได้ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือ ไปบริการหนูๆ ทั้งหลาย ส่วนคุณผู้ชายวัยทอง ต้องจำไว้ให้ได้นะครับว่า ภรรยาสุดที่รักรับไม่ได้กับการมีใครมาแบ่งความรักไป พวกชายเจ้าชู้จึงมักจะสั่งสอนกันต่อๆ มาว่า เมียถามถึงห้ามรับ ให้ปฏิเสธไว้ก่อน เมียสงสัยก็ห้ามรับ ถึงเมียจับได้ก็ให้ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรกัน ถึงจับได้ว่ามีอะไรกันก็บอกว่าสงสัยถูกแบล็คเมล์ พูดง่ายๆ ก็คือ ห้ามรับเด็ดขาด เพราะถ้าไม่รับแสดงว่ายังยอมรับว่าเธอเป็นภรรยาแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่เป็นภรรยาหลวง แต่แบบนั้น ผมว่าคงจะต้องตกลงกับคนที่สองให้ดีๆ นะครับว่า โอเค.จะให้บอกแบบนั้นหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นอาจจะบ้านแตกสาแหรกขาด หรือต้องรับประทานลูกตะกั่วกันบ้าง ใครไม่รู้พูดว่า เมียสองต้องห้าม เมียสามตามตำรา แต่ก็สงสารคนกลาง ถ้าจะให้ดีไม่มีปัญหา ให้มีมันทีเดียว 4 คนเลย จะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ เดี๋ยวบริการไม่ทั่วถึงจะเป็นเรื่องใหญ่โตกันไปอีก ทางที่ดีมีคนเดียวก็พอ...แค่นั้นก็ยุ่งตาย...อยู่แล้ว!! หรือไม่ก็มีทีละคน คุณๆ อ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่า ทางออกแต่ละทางล้วนแล้วแต่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาทั้งสิ้น นักปราชญ์ พูดว่า ผู้ชนะจะมองเห็นทางออกในทุกปัญหา ในขณะที่ผู้แพ้มองเห็นปัญหาในทุกทางออก เรื่องนี้ สงสัยว่าทุกคนจะเป็นผู้แพ้นะครับ เพราะหาทางออกไม่เจอ ใครรู้ก็ช่วยแจ้งเป็นวิทยาทานบ้างนะครับ ผู้ชายวัยทองชอบมีปัญหาเรื่องการหลั่ง ไม่ว่าจะเป็นหลั่งเร็ว หลั่งช้า ไม่หลั่ง หรือไม่มีความสามา รถที่จะทำให้ไปถึงจุดที่จะเกิดการหลั่งได้ เพราะส่วนหนึ่งก็จะเป็นพวกนกเขาที่ไม่ยอมโก่งคอขัน หรือถึงโก่งคอขันก็ไม่สามารถขันเป็นเพลงได้ ครั้นพอจะขันเป็นเพลงได้ก็ดันขันไม่ครบเพลงเสียอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเจ้าอาวุธประจำกาย ที่พ่อให้มาไม่ค่อยยอมเป็นใจ ทั้งหมดนั้นก็คือ ภาวการณ์หย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย นั่นแหละ!! ปัญหานี้แก้ไขได้ครับในยุคนี้ ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เพียงแค่ไปพบผู้ชำนาญในการรักษา ทุกปัญหาก็น่าจะมีทางออก ผมแนะนำให้สักนิดนะครับว่า ก่อนอื่นต้องพยายามนอนให้หัวค่ำ นอนให้เร็วขึ้น เพราะในขณะที่คุณผู้ชายวัยทองนอนหลับนั้นการสร้างฮอร์โมนเพศชาย จะได้รับการผลิตออกมาอย่างเต็มที่ พอมีฮอร์โมนเพศชายเต็มที่แล้ว ความคิดคำนึงในเรื่องของความรักใคร่ก็ดีขึ้น ซู่ซ่ามีพลังขึ้น พอมีอะไรมาเร้าอารมณ์ อาวุธประจำกายก็พร้อมจะทำงานจากการกระตุ้นของระบบประสาทที่ว่องไวขึ้น ต้องหมั่นออกกำลังกายส่วนนั้นของรักของหวงเป็นประจำสม่ำเสมอ แม้นเวลาไม่ใช้งาน ก็ต้องปลุกขึ้นมาบ้าง ให้ผงกศีรษะบ้าง เป็นครั้งคราว อย่าลืมนะครับว่า ของอะไรที่ไม่ใช้ ย่อมเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ใช้งานเป็นประจำสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะใช้งานจริงๆ หรือฟิตซ้อมชกลมแบบที่เขาเรียกกันว่า ช่วยตัวเองบ้าง มีงานวิจัยว่า ผู้ชายวัยทองน่ะ บางทีมีความสุขจากการช่วยตัวเองโดยการมีจินตนาการ ในบทรักที่วาบหวาม และมีความสุขมากกว่าไปมีเพศสัมพันธ์จริงๆ เสียอีก เพราะบางครั้ง ในการมีอะไรกับใครสักคนหนึ่งในวัยนี้ สิ่งที่กลัวอยู่ในใจ ก็คือ ทำไม่ได้ เป็นมะเขือเผา หรือล่มปากอ่าวไปเสียก่อน สู้บริการตนเองไม่ได้ ยังไงๆ ก็ไปถึงดวงดาว มีความสุขสมโดยไม่เสียหน้า ลองดูได้ครับ ไม่น่าอายอะไรหรอก ดีกว่าไปลองของนอกบ้าน แล้วติดโรคหรือเป็นข่าว ! และถ้าเป็นพวกหลั่งช้า หรือไม่หลั่ง ก็ขอให้คิดเสียว่า ความสุขจากกระบวนท่วงท่าแห่งความรัก ลีลาที่มอบให้แก่กันนั้นน่าจะมีความสุขมากกว่าจุดสุดยอดเพียงแวบเดียว คิดได้แบบนี้...ก็สบายไป เพียงแต่จะคิดได้หรือไม่เท่านั้นแหละ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ ก็หวังว่าลงได้ปฏิบัติในเรื่องนั้นแล้ว ก็ต้องไปถึงดวงดาวให้ได้ คิดผิด...คิดใหม่ ได้นะครับ ผู้ชายวัยทอง ไม่ค่อยยอมรับว่ามีปัญหาอื่นอีก ? ไม่ยอมรับว่า โรคอ้วน ลงพุง ผมร่วง ศีรษะล้าน ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดลง และแก้ไขได้ ถ้ายอมไปพบแพทย์ ไม่ยอมรับว่า โรคเครียด ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง โรคนอนไม่หลับ หงุดหงิด โมโหง่าย ล้วนแล้วแต่เป็นผลของร่างกายที่เปลี่ยนไปในวัยทอง และแก้ไขได้ ทุกอย่างแก้ไขได้ทั้งนั้น รวมทั้งป้องกันได้ด้วย อาจจะเรียกความหนุ่มแน่นกลับมาไม่ได้ แต่ก็พอจะป้องกันไม่ให้เสื่อมก่อนวัยได้ ถ้ายอมปฏิบัติตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ที่กระทรวงสาธารณสุขบัญญัติเอาไว้ ไม่อย่างนั้น ลองไปขอ "108 วิธีของการมีสุขภาพดี" ที่กระทรวงสาธารณสุขเขาพิมพ์แจก แล้วลองปฏิบัติตามซิครับ รับรองได้ว่า ทุกๆ อย่างจะดีขึ้นมา...ไม่นานเกินรอ รับรองจริงๆ ครับว่า เมื่อถึงเวลานั้น ชีวิตจะเป็นสีทอง น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์

(update 21 กุมภาพันธ์ 2001)

main