มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.geocities.com/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



เมื่อพบว่าลูกฝันเปียก

พอลูกชายเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม
คุณพ่อคุณแม่อาจจะพบว่า... เขาจะมีฝันเปียก


ซึ่งก็คือ การหลั่งน้ำอสุจิโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะนอนหลับ ลูกอาจตกใจที่พบว่ามีของเหลว ออกมาจากอวัยวะเพศเปรอะเปื้อนกางเกงหรือที่นอนในขณะหลับ เด็กบางคนมาบอกพ่อแม่ ซึ่งก็เป็นช่องทางที่ผู้ใหญ่จะได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ให้ลูกเข้าใจได้อย่างดี แต่เด็กบางคนรู้สึกกังวล หรืออายที่จะมาปรึกษาพ่อแม่ แบบนี้เราจะทำอย่างไรดี

ก่อนอื่นผมคงต้องขออธิบาย ฝันเปียก ให้คุณพ่อคุณแม่ (หรือคุณลูก) ได้เข้าใจสักหน่อย

ฝันเปียกเกิดจากน้ำอสุจิ ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นและเก็บสะสมไว้ในถุงผลิตน้ำอสุจิ เมื่อเด็กชายเริ่มเข้าวัยรุ่น ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายอย่างมาก ฮอร์โมนเพศชายนี้จะกระตุ้นให้อัณฑะสร้างตัวอสุจิ มาสะสมไว้ที่ถุงผลิตน้ำอสุจิ น้ำอสุจิจะถูกสร้างขึ้นตลอดเวลา เมื่อผลิตได้จำนวนมากจนเก็บถุงเก็บ น้ำอสุจิจะล้นออกมาเล็กน้อยทางท่อปัสสาวะ โดยปะปนกับน้ำปัสสาวะบ้าง และออกมาจำนวนมาก เป็นครั้งคราวในขณะหลับ เรียกว่า ฝันเปียก

ที่เรียกว่า ฝันเปียก ก็เนื่องมาจากกลไกในการเกิดปรากฏการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับความฝัน ซึ่งจะเป็นเรื่องทางเพศ เช่น ฝันว่าได้สัมผัสกับเพศตรงข้าม ได้เห็นเพศตรงข้ามในลักษณะกระตุ้นอารมณ์ และความรู้สึกทางเพศ หรือฝันว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับใครบางคนแล้วอารมณ์เพศ (ในความฝัน) นั้นจะสูงขึ้นถึง ' จุดสุดยอดทางเพศ ' แล้วจึงจะมีการหลั่งน้ำอสุจิออกมา ความรู้สึกถึงจุดสุดยอดทางเพศนี้เป็นความรู้สึก ที่มีความสุขอย่างแรง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เด็กวัยรุนเกิดความรู้สึกพึงพอใจกับการฝันแบบนี้

ในครั้งแรกๆ ของการฝันเปียก เด็กบางคนอาจรู้สึกตกใจด้วยความไม่เข้าใจ บางคนกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย บางคนคิดว่าเป็นโรคร้ายแรง แต่เมื่อได้เกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง ก็มักจะเข้าใจด้วยตัวเอง การที่พ่อแม่ช่วยอธิบายจะทำให้เด็กมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ไม่กังวล และอาจจะเป็นช่องทางที่จะอธิบายความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศอื่นๆ ต่อไปได้

ความเข้าใจเรื่องนี้ของผู้ใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าพ่อแม่เข้าใจ มีความรู้อย่างถูกต้อง จึงจะเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงทางเพศของลูก ถ้าพ่อแม่เข้าใจผิด ก็จะมอง เหตุการณ์นี้ไม่ดี และไม่สามารถพูดคุยเรื่องนี้กับลูกได้ เด็กก็จะขาดความรู้เรื่องเพศไปอย่างน่าเสียดาย

ความเข้าใจผิดของพ่อแม่มีหลายประการ เช่น
  • เข้าใจว่าเด็กเกิดฝันเปียก เพราะเด็กมีความต้องการทางเพศสูง เป็นเด็กเซ็กซ์จัด เป็นเรื่องน่าอาย หยาบคาย เด็กดีต้องไม่มีฝันเปียก เด็กดีต้องควบคุมตนเองไม่ให้สนใจเรื่องเพศ
  • เข้าใจว่าเด็กจงใจให้เกิดฝันเปียก เป็นเจตนาของเด็กที่จะคิดหมกมุ่นในเรื่องเพศ และเข้าใจว่าเป็นเด็กมีปัญหาทางเพศ ต่อไปอาจจะคิดแต่เรื่องเพศ
  • เข้าใจว่าการพูดคุยกับเด็กในเรื่องนี้เป็นการกระตุ้นยั่วยุเด็กในเรื่องเพศ จะทำให้เด็กซึ่งเดิมไม่ได้คิดเรื่องเพศมาหมกมุ่นเรื่องเพศมากขึ้น

ความจริงเรื่องการฝันเปียกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดขึ้นในเด็กวัยรุ่นชายทุกคน การฝันเปียกเป็นสัญญาณบอกว่า เด็กคนนี้เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ดี เหมือนกับเด็กหญิงวัยรุ่นเริ่มมีประจำเดือนนั่นเอง

เด็กวัยรุ่นชายจะฝันเปียกมากน้อยบ่อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายและจิตใจหลายประการ บางคนร่างกายแข็งแรง มีฮอร์โมนเพศชายสูง อาจจะเกิดฝันเปียกได้หลายครั้งต่อสัปดาห์ แต่โดยทั่วๆ ไป แล้วมักจะเกิดขึ้น 2-3 ครั้งต่อเดือน เด็กบางคนอาจเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องเพศโดยออกกำลังกาย หรือกิจกรรมอื่นที่ทำให้มีฝันเปียกน้อยลงก็ไม่ผิดปกติครับ

ในทางกลับกัน เด็กที่หมกมุ่นกับเรื่องเพศมาก อาจจะเกิดฝันเปียกได้บ่อยขึ้น เพราะอารมณ์เพศที่ถูกกระตุ้นบ่อยๆ จะไปกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำอสุจิมากขึ้น เมื่อสร้างมากๆ ก็จะล้นออกมาเป็นฝันเปียกได้บ่อย

เมื่อคุณพ่อคุณแม่เข้าใจเรื่องฝันเปียกแล้ว ต่อไปการจะอธิบายให้ลูกฟังก็จะง่ายละครับ

จะอธิบายอย่างไรดี

ในกรณีที่ลูกเล่ามาให้ฟัง ก็จะง่ายสำหรับพ่อแม่มากกว่า ที่จะพยายามเริ่มต้นเรื่องนี้กับลูกเอง ก่อนที่จะอธิบายควรตรวจสอบใจตัวเองก่อนว่า เราทำใจเป็นกลางกับเรื่องการให้ความรู้เรื่องเพศ แก่ลูกได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็จะอธิบายตามหัวข้อดังนี้
  • ลูกอย่าตกใจหรือกลัว เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นกับเด็กวัยรุ่นทุกคน ลองสอบถามความคิด หรือความรู้สึกของลูกดูว่า เขาคิดอย่างไร กังวล หรือกลัวเรื่องอะไรหรือไม่
  • อธิบายว่าฝันเปียกเกิดได้อย่างไร โดยอาศัยข้อมูลที่คุณพ่อคุณแม่ทราบ อธิบายให้ง่ายๆ สั้นๆ
  • สอบถามถึงเรื่องความรู้สึกทางเพศและอารมณ์ทางเพศที่อาจเกิดขึ้นในขณะฝัน หรือในขณะตื่น อธิบายว่า ความรู้สึกเช่นนี้เป็นธรรมชาติ เกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนกัน
  • สอบถามถึงความรู้สึกผิดที่อาจเกิดขึ้น บางคนอาย บางคนรู้สึกไม่ดี เพราะฝันถึงการมีเพศสัมพันธ์ กับคนที่พอใจ (ในชีวิตจริง) เรื่องนี้ต้องอธิบายว่า ความฝันเป็นเรื่องของจิตใจ ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ และไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดที่จะฝันถึงใครในเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ
  • ควรให้ความมั่นใจว่า เมื่อเกิดฝันเปียกแล้วร่างกายและจิตใจของลูกก็ไม่ได้เสียหาย เพราะการฝันเปียกก็เป็นการผ่อนคลายความรู้สึกทางเพศที่เกิดขึ้นสะสมมา เมื่อฝันเปียกแล้ว ความรู้สึกและอารมณ์เพศก็จะผ่อนคลายลง การฝันเปียกก็คือ การปลดปล่อยพลังทางเพศ อย่างเหมาะสมนั่นเอง
  • ควรชมลูกที่นำเรื่องนี้มาปรึกษาพ่อแม่ เด็กจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่าอายใหญ่โต เรื่องเพศอื่นๆ ที่เขาสนใจหรือเกิดขึ้น เขาก็จะมาปรึกษาพ่อแม่ง่ายขึ้นด้วย
  • ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ซักถามในประเด็นที่สงสัยและไม่เข้าใจ ถ้าเป็นเรื่องความรู้สึก เกี่ยวกับเพศศึกษาอื่นๆ ก็ควรตอบให้หายสงสัยนะครับ

การอธิบายเรื่องนี้กับลูกชายวัยรุ่น บางคนอาจรู้สึกว่า คุณพ่อน่าจะทำได้ดีกว่าคุณแม่ ความจริงแล้วผมคิดว่าคุณพ่อทำได้เหมือนคุณแม่ แต่การที่คุณพ่อทำมีข้อดี 2 อย่างคือ หนึ่งเป็นประสบการณ์ที่พ่อเคยผ่านมาด้วยตัวเอง สอง ทำให้พ่อมีโอกาสใกล้ชิดลูกชาย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเพศง่ายขึ้น

ในกรณีที่คุณแม่ต้องดูแลลูกชายวัยรุ่นเอง การอธิบายก็ทำได้เช่นนี้เหมือนกัน ไม่ต้องอายนะครับ ต้องทำใจให้ได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ อธิบายให้เหมือนกับการกินอาหารการขับถ่าย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติของชีวิตนั่นเอง

การอธิบายควรหาเวลาเหมาะๆ เป็นส่วนตัว หากมีอุปกรณ์ช่วยสอนเหมาะสมก็จะดี เช่น หนังสือรูปภาพเกี่ยวกับอวัยวะภายในและอวัยวะเพศ ฯลฯ

ไม่ต้องกลัวว่าการพูดคุยให้ความรู้เรื่องเพศแบบนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กใจแตก อยากรู้อยากลองมากขึ้นนะครับ การอธิบายอย่างเป็นวิชาการเช่นนี้จะไม่กระตุ้นอารมณ์เพศ แต่จะให้ความรู้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่เด็กมากกว่า

ในกรณีที่พ่อแม่ไปพบเองว่าเด็กมีฝันเปียก และเด็กเองก็ไม่ได้มาคุยด้วย แบบนี้ก็ยังสามารถดึงมาให้เกิดการพูดคุยกันได้เหมือนกันนะครับ อาจจะเริ่มต้นแบบต่อไปนี้ได้
" พ่อสังเกตว่าลูกเป็นหนุ่มขึ้นแล้ว เด็กวัยรุ่นบางคนเกิดฝันเปียกตอนกลางคืน ลูกเคยเกิดบ้างไหม "
" การฝันเปียกแสดงว่าเราเริ่มเป็นหนุ่ม ลูกเริ่มมีนานหรือยัง"
ผมคิดว่าด้วยท่าทีของผู้ใหญ่ที่ไม่ตำหนิ เห็นเป็นเรื่องปกติ และพูดคุยเปิดเผยกันได้ จะทำให้ลูกเล่าเรื่องนี้ให้เราฟังได้ แต่ถ้าเขายังอายไม่กล้าเล่า (แต่ดูท่าทีแล้วเขาจะมีฝันเปียกจริงๆ) พ่อแม่ก็อาจอธิบายให้เขาเข้าใจไปเลยก็ได้

ถ้าไม่พูดคุยกันเรื่องนี้เลย ปล่อยให้เขารู้เองเข้าใจเอง จะได้ไหม ผมคิดว่าเรื่องอย่างนี้ ไม่อธิบายอาจะเกิดผลเสียบ้างแก่เด็กบางคน เขาอาจกังวล ไม่เข้าใจ อยากรู้อยากเห็น และไปแสวงหาคำตอบเอาเองจากสื่ออื่นๆ (ซึ่งมักจะเป็นสื่อที่ผลิตเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ มากกว่าการให้ความรู้อย่างถูกต้อง) ที่สำคัญคือ การพูดคุยเรื่องนี้จะได้ประโยชน์มากกว่า และเป็นการแสดงทัศนคติที่เกิดกว้างเรื่องเพศ ทำให้ลูกมาพูดคุยปรึกษาเราได้อีกในโอกาสต่อไป

เรื่องฝันเปียกจัดเป็นแบบฝึกหัดอย่างง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่จะพูดคุยกับลูกวัยรุ่นในเรื่องเพศ ถ้าทำเรื่องนี้ได้ เรื่องอื่นๆ ก็จะง่ายตามมาเองครับ

ผศ.นพ.พนม เกตุมาน

(update 27 เมษายน 2001)


[ ที่มา...หนังสือรู้จักรู้ใจวัย 13 ถึง 15 ปี ฮอร์โมนร้ายของวัยรุ่น]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600