พอลูกชายเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม
คุณพ่อคุณแม่อาจจะพบว่า... เขาจะมีฝันเปียก
ซึ่งก็คือ การหลั่งน้ำอสุจิโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะนอนหลับ ลูกอาจตกใจที่พบว่ามีของเหลว
ออกมาจากอวัยวะเพศเปรอะเปื้อนกางเกงหรือที่นอนในขณะหลับ เด็กบางคนมาบอกพ่อแม่
ซึ่งก็เป็นช่องทางที่ผู้ใหญ่จะได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ให้ลูกเข้าใจได้อย่างดี แต่เด็กบางคนรู้สึกกังวล
หรืออายที่จะมาปรึกษาพ่อแม่ แบบนี้เราจะทำอย่างไรดี
ก่อนอื่นผมคงต้องขออธิบาย ฝันเปียก ให้คุณพ่อคุณแม่ (หรือคุณลูก) ได้เข้าใจสักหน่อย
ฝันเปียกเกิดจากน้ำอสุจิ ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นและเก็บสะสมไว้ในถุงผลิตน้ำอสุจิ เมื่อเด็กชายเริ่มเข้าวัยรุ่น
ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายอย่างมาก ฮอร์โมนเพศชายนี้จะกระตุ้นให้อัณฑะสร้างตัวอสุจิ
มาสะสมไว้ที่ถุงผลิตน้ำอสุจิ น้ำอสุจิจะถูกสร้างขึ้นตลอดเวลา เมื่อผลิตได้จำนวนมากจนเก็บถุงเก็บ
น้ำอสุจิจะล้นออกมาเล็กน้อยทางท่อปัสสาวะ โดยปะปนกับน้ำปัสสาวะบ้าง และออกมาจำนวนมาก
เป็นครั้งคราวในขณะหลับ เรียกว่า ฝันเปียก
ที่เรียกว่า ฝันเปียก ก็เนื่องมาจากกลไกในการเกิดปรากฏการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับความฝัน
ซึ่งจะเป็นเรื่องทางเพศ เช่น ฝันว่าได้สัมผัสกับเพศตรงข้าม ได้เห็นเพศตรงข้ามในลักษณะกระตุ้นอารมณ์
และความรู้สึกทางเพศ หรือฝันว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับใครบางคนแล้วอารมณ์เพศ (ในความฝัน) นั้นจะสูงขึ้นถึง
' จุดสุดยอดทางเพศ ' แล้วจึงจะมีการหลั่งน้ำอสุจิออกมา ความรู้สึกถึงจุดสุดยอดทางเพศนี้เป็นความรู้สึก
ที่มีความสุขอย่างแรง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เด็กวัยรุนเกิดความรู้สึกพึงพอใจกับการฝันแบบนี้
ในครั้งแรกๆ ของการฝันเปียก เด็กบางคนอาจรู้สึกตกใจด้วยความไม่เข้าใจ
บางคนกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย บางคนคิดว่าเป็นโรคร้ายแรง แต่เมื่อได้เกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง
ก็มักจะเข้าใจด้วยตัวเอง การที่พ่อแม่ช่วยอธิบายจะทำให้เด็กมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ไม่กังวล
และอาจจะเป็นช่องทางที่จะอธิบายความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศอื่นๆ ต่อไปได้
ความเข้าใจเรื่องนี้ของผู้ใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าพ่อแม่เข้าใจ มีความรู้อย่างถูกต้อง
จึงจะเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงทางเพศของลูก ถ้าพ่อแม่เข้าใจผิด ก็จะมอง เหตุการณ์นี้ไม่ดี
และไม่สามารถพูดคุยเรื่องนี้กับลูกได้ เด็กก็จะขาดความรู้เรื่องเพศไปอย่างน่าเสียดาย
ความเข้าใจผิดของพ่อแม่มีหลายประการ เช่น
- เข้าใจว่าเด็กเกิดฝันเปียก เพราะเด็กมีความต้องการทางเพศสูง เป็นเด็กเซ็กซ์จัด เป็นเรื่องน่าอาย
หยาบคาย เด็กดีต้องไม่มีฝันเปียก เด็กดีต้องควบคุมตนเองไม่ให้สนใจเรื่องเพศ
- เข้าใจว่าเด็กจงใจให้เกิดฝันเปียก เป็นเจตนาของเด็กที่จะคิดหมกมุ่นในเรื่องเพศ
และเข้าใจว่าเป็นเด็กมีปัญหาทางเพศ ต่อไปอาจจะคิดแต่เรื่องเพศ
- เข้าใจว่าการพูดคุยกับเด็กในเรื่องนี้เป็นการกระตุ้นยั่วยุเด็กในเรื่องเพศ
จะทำให้เด็กซึ่งเดิมไม่ได้คิดเรื่องเพศมาหมกมุ่นเรื่องเพศมากขึ้น
ความจริงเรื่องการฝันเปียกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดขึ้นในเด็กวัยรุ่นชายทุกคน
การฝันเปียกเป็นสัญญาณบอกว่า เด็กคนนี้เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ดี
เหมือนกับเด็กหญิงวัยรุ่นเริ่มมีประจำเดือนนั่นเอง
เด็กวัยรุ่นชายจะฝันเปียกมากน้อยบ่อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายและจิตใจหลายประการ
บางคนร่างกายแข็งแรง มีฮอร์โมนเพศชายสูง อาจจะเกิดฝันเปียกได้หลายครั้งต่อสัปดาห์ แต่โดยทั่วๆ ไป
แล้วมักจะเกิดขึ้น 2-3 ครั้งต่อเดือน เด็กบางคนอาจเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องเพศโดยออกกำลังกาย
หรือกิจกรรมอื่นที่ทำให้มีฝันเปียกน้อยลงก็ไม่ผิดปกติครับ
ในทางกลับกัน เด็กที่หมกมุ่นกับเรื่องเพศมาก อาจจะเกิดฝันเปียกได้บ่อยขึ้น
เพราะอารมณ์เพศที่ถูกกระตุ้นบ่อยๆ จะไปกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำอสุจิมากขึ้น เมื่อสร้างมากๆ
ก็จะล้นออกมาเป็นฝันเปียกได้บ่อย
เมื่อคุณพ่อคุณแม่เข้าใจเรื่องฝันเปียกแล้ว ต่อไปการจะอธิบายให้ลูกฟังก็จะง่ายละครับ
จะอธิบายอย่างไรดี
ในกรณีที่ลูกเล่ามาให้ฟัง ก็จะง่ายสำหรับพ่อแม่มากกว่า ที่จะพยายามเริ่มต้นเรื่องนี้กับลูกเอง
ก่อนที่จะอธิบายควรตรวจสอบใจตัวเองก่อนว่า เราทำใจเป็นกลางกับเรื่องการให้ความรู้เรื่องเพศ
แก่ลูกได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็จะอธิบายตามหัวข้อดังนี้
- ลูกอย่าตกใจหรือกลัว เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นกับเด็กวัยรุ่นทุกคน
ลองสอบถามความคิด
หรือความรู้สึกของลูกดูว่า เขาคิดอย่างไร กังวล หรือกลัวเรื่องอะไรหรือไม่
- อธิบายว่าฝันเปียกเกิดได้อย่างไร โดยอาศัยข้อมูลที่คุณพ่อคุณแม่ทราบ อธิบายให้ง่ายๆ สั้นๆ
- สอบถามถึงเรื่องความรู้สึกทางเพศและอารมณ์ทางเพศที่อาจเกิดขึ้นในขณะฝัน หรือในขณะตื่น
อธิบายว่า ความรู้สึกเช่นนี้เป็นธรรมชาติ เกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนกัน
- สอบถามถึงความรู้สึกผิดที่อาจเกิดขึ้น บางคนอาย บางคนรู้สึกไม่ดี เพราะฝันถึงการมีเพศสัมพันธ์
กับคนที่พอใจ (ในชีวิตจริง) เรื่องนี้ต้องอธิบายว่า ความฝันเป็นเรื่องของจิตใจ ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้
และไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดที่จะฝันถึงใครในเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ
- ควรให้ความมั่นใจว่า เมื่อเกิดฝันเปียกแล้วร่างกายและจิตใจของลูกก็ไม่ได้เสียหาย
เพราะการฝันเปียกก็เป็นการผ่อนคลายความรู้สึกทางเพศที่เกิดขึ้นสะสมมา เมื่อฝันเปียกแล้ว
ความรู้สึกและอารมณ์เพศก็จะผ่อนคลายลง การฝันเปียกก็คือ การปลดปล่อยพลังทางเพศ
อย่างเหมาะสมนั่นเอง
- ควรชมลูกที่นำเรื่องนี้มาปรึกษาพ่อแม่ เด็กจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่าอายใหญ่โต
เรื่องเพศอื่นๆ ที่เขาสนใจหรือเกิดขึ้น เขาก็จะมาปรึกษาพ่อแม่ง่ายขึ้นด้วย
- ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ซักถามในประเด็นที่สงสัยและไม่เข้าใจ ถ้าเป็นเรื่องความรู้สึก
เกี่ยวกับเพศศึกษาอื่นๆ ก็ควรตอบให้หายสงสัยนะครับ
การอธิบายเรื่องนี้กับลูกชายวัยรุ่น บางคนอาจรู้สึกว่า คุณพ่อน่าจะทำได้ดีกว่าคุณแม่
ความจริงแล้วผมคิดว่าคุณพ่อทำได้เหมือนคุณแม่ แต่การที่คุณพ่อทำมีข้อดี 2 อย่างคือ
หนึ่งเป็นประสบการณ์ที่พ่อเคยผ่านมาด้วยตัวเอง สอง ทำให้พ่อมีโอกาสใกล้ชิดลูกชาย
และให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเพศง่ายขึ้น
ในกรณีที่คุณแม่ต้องดูแลลูกชายวัยรุ่นเอง การอธิบายก็ทำได้เช่นนี้เหมือนกัน ไม่ต้องอายนะครับ
ต้องทำใจให้ได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ อธิบายให้เหมือนกับการกินอาหารการขับถ่าย
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติของชีวิตนั่นเอง
การอธิบายควรหาเวลาเหมาะๆ เป็นส่วนตัว หากมีอุปกรณ์ช่วยสอนเหมาะสมก็จะดี เช่น
หนังสือรูปภาพเกี่ยวกับอวัยวะภายในและอวัยวะเพศ ฯลฯ
ไม่ต้องกลัวว่าการพูดคุยให้ความรู้เรื่องเพศแบบนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กใจแตก
อยากรู้อยากลองมากขึ้นนะครับ การอธิบายอย่างเป็นวิชาการเช่นนี้จะไม่กระตุ้นอารมณ์เพศ
แต่จะให้ความรู้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่เด็กมากกว่า
ในกรณีที่พ่อแม่ไปพบเองว่าเด็กมีฝันเปียก และเด็กเองก็ไม่ได้มาคุยด้วย
แบบนี้ก็ยังสามารถดึงมาให้เกิดการพูดคุยกันได้เหมือนกันนะครับ อาจจะเริ่มต้นแบบต่อไปนี้ได้
" พ่อสังเกตว่าลูกเป็นหนุ่มขึ้นแล้ว เด็กวัยรุ่นบางคนเกิดฝันเปียกตอนกลางคืน ลูกเคยเกิดบ้างไหม "
" การฝันเปียกแสดงว่าเราเริ่มเป็นหนุ่ม ลูกเริ่มมีนานหรือยัง"
ผมคิดว่าด้วยท่าทีของผู้ใหญ่ที่ไม่ตำหนิ เห็นเป็นเรื่องปกติ และพูดคุยเปิดเผยกันได้
จะทำให้ลูกเล่าเรื่องนี้ให้เราฟังได้ แต่ถ้าเขายังอายไม่กล้าเล่า (แต่ดูท่าทีแล้วเขาจะมีฝันเปียกจริงๆ)
พ่อแม่ก็อาจอธิบายให้เขาเข้าใจไปเลยก็ได้
ถ้าไม่พูดคุยกันเรื่องนี้เลย ปล่อยให้เขารู้เองเข้าใจเอง จะได้ไหม ผมคิดว่าเรื่องอย่างนี้
ไม่อธิบายอาจะเกิดผลเสียบ้างแก่เด็กบางคน เขาอาจกังวล ไม่เข้าใจ อยากรู้อยากเห็น
และไปแสวงหาคำตอบเอาเองจากสื่ออื่นๆ (ซึ่งมักจะเป็นสื่อที่ผลิตเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
มากกว่าการให้ความรู้อย่างถูกต้อง) ที่สำคัญคือ การพูดคุยเรื่องนี้จะได้ประโยชน์มากกว่า
และเป็นการแสดงทัศนคติที่เกิดกว้างเรื่องเพศ ทำให้ลูกมาพูดคุยปรึกษาเราได้อีกในโอกาสต่อไป
เรื่องฝันเปียกจัดเป็นแบบฝึกหัดอย่างง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่
ที่จะพูดคุยกับลูกวัยรุ่นในเรื่องเพศ ถ้าทำเรื่องนี้ได้ เรื่องอื่นๆ ก็จะง่ายตามมาเองครับ
ผศ.นพ.พนม เกตุมาน
|