
คือ การถูไถเพนิสเพื่อทำให้เกิดการหลั่งน้ำอสุจิเพื่อระบายความใคร่
การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมักจะเป็นปฏิกิริยาทางเพศครั้งแรกของเด็กหนุ่ม
และเป็นการกระทำอันสุดท้ายของผู้สูงอายุ เนื่องจากการที่ต้องแยกตัวเองอยู่คนเดียว
และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของผู้ใดแล้ว
ผู้ชายโดยมากส่วนใหญ่ได้เคยสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองอย่างน้อยที่สุดเป็นครั้งคราว
สำหรับบางคนมันเป็นกิจกรรมทางเพศอย่างเดียวเท่านั้นที่เขารู้จัก
ในสมัยโบราณการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ถือว่าเป็นการสูญเสียอย่างไร้ประโยชน์
เพราะการสร้างน้ำอสุจิเพื่อให้ได้นอกเหนือจากประโยชน์ต้องการที่จะให้เข้าไปในร่างกายของผู้หญิง
เพื่อการดำรงไว้ซึ่งพืชพันธุ์ของมนุษย์ให้มากขึ้น ยังเป็นการเสริมสร้างฮอร์โมนเพศชายด้วย
ปัจจุบันนี้ทางศาสนาใจกว้างยิ่งขึ้น และการทำมาสเตอร์เบชั่นถือเป็นบาปที่ยกโทษให้ได้
นักเพศศาสตร์หลายคนแนะนำให้ทำมาสเตอร์เบชั่นมากกว่าที่จะให้ไปคบชู้สู่สาว
ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางเพศในชีวิตสมรสเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากความเจ็บป่วย
หรืออวัยวะเพศไม่แข็งแรงพอที่จะร่วมเพศได้ ถ้ากระทำบ่อยและมากเกินไปจะถือว่า
ผิดปกติทางเพศหรือหมกมุ่นจนเกินไป และที่สำคัญสุดยังเป็นการป้องกันการมั่วเซ็กซ์
จนไปติดเชื้อเอดส์กลับมาได้
การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอาจทำได้โดยใช้มือหรือโดยใช้การถูไถกับที่นอนหมอนข้าง
การทำไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ มันอาจจะเป็นการกระทำเพื่อให้ลดความกำหนัดออก
อย่างธรรมชาติหรือการแสดงด้วยความรู้สึกเสียวกระสัน ซึ่งมีระยะหยุดกระทำสลับกันไป
พร้อมด้วยวาดภาพที่ให้เกิดความรู้สึกทางอารมณ์ แต่ในบางครั้งก็อาจกระทำ
เนื่องจากได้รับความตื่นเต้นทางเพศ จากสิ่งที่มองเห็นในตอนกลางวันหรือมันอาจจะ
ทำต่อจากการร่วมเพศ ซึ่งไม่ถึงจุดสุดยอด บางครั้งอาจจะกระทำก่อนร่วมเพศ
เพื่อจะให้การร่วมเพศมีระยะเวลานานออกไป เพราะว่าการหลั่งน้ำอสุจิครั้งที่สอง
มักจะกินเวลามากกว่าครั้งแรก
การกระทำมาสเตอร์เบชั่นที่มากเกินไปหรือกระทำแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สามารถรักษาได้ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศเสียใหม่ ทางที่ดีโดยใช้ผู้หญิง
ที่มีความสามารถเข้าใจเปลี่ยนการใช้มือในการที่จะให้เกิดความรู้สึกเป็นการสอดใส่
อวัยวะเพศเข้าไปช่องเพศของผู้หญิงแทน เช่นเดียวกับการกระทำในชีวิตสมรสทั่วๆ ไป
การรักษาอาจจะช่วยได้โดยการใช้ยาระงับประสาทอ่อนๆ ใช้ชั่วขณะที่รักษาอยู่
และเป็นการทำความมั่นใจให้กับผู้ชายที่ขี้อายได้
เมื่อเด็กผู้ชายคนหนึ่งเริ่มต้นสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง นักกามศาสตร์พยายามที่จะ
ช่วยทำให้ความกระวนกระวายใจของเขาน้อยลงหรือหมดไป และบางคนจะกลับสนับสนุนเสียด้วยซ้ำ
ด้วยความรู้สึกว่าการทำให้น้ำอสุจิออกโดยวิธีนี้เป็นการกระทำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอายุเด็กผู้นั้น
การช่วยตัวเองจะเพิ่มมากขึ้นช่วงวัยรุ่น จากการที่เริ่มค้นพบวิธีให้ความสุขแก่ตัวเองใหม่ๆ
พอมีอายุมากขึ้น การปฏิบัติก็จะลดจำนวนครั้งลง เพราะเริ่มชินและเริ่มมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น
เล่นกีฬาหรือการเรียนที่หนักขึ้น ต้องใช้เวลา เลยมีความเครียดมากกับงานที่รับผิดชอบ
ฉะนั้นหากช่วยตัวเองวันละ 3-4 ครั้งย่อมไม่เป็นผลดี เป็นการหักโหม ไม่ได้เดินสายกลาง
ปกติคนเราทานข้าววันละ 2-3 มื้อ ถ้าทานวันละ 6-7 มื้อก็เช่นกัน ไม่เดินสายกลางก็จะมีโทษคือ
น้ำหนักมากเกินความจำเป็น โรคต่างๆ ก็จะถามหา
ธรรมชาติเด็กผู้ชายอายุ 6-7 ปี จะเริ่มเล่นจู๋ของตัวเอง เด็กผู้หญิงจะเริ่มเล่นจิ๋มของตัวเอง
ช่วงอายุ 10-11 ปี ผู้ชาย 45-55% จะมีการช่วยตัวเอง ผู้หญิงจะมี 40-60% เป็นข้อมูลว่า
การช่วยตัวเองเป็นเรื่องธรรมดาของวัยเจริญพันธุ์ วัยรุ่นมักจะปฏิบัติบ่อยครั้งกว่าวัยสูงอายุ
ประโยชน์ของการทำมาสเตอร์เบชั่น เป็นการช่วยให้ปลอดภัยจากกามโรคต่างๆ
และการตั้งครรภ์ได้ บางคู่จะช่วยกระตุ้นให้กันและกันเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์
ผู้ที่ทำมาสเตอร์เบชั่นมักจะไม่ผิดหวัง การช่วยตัวเองเป็นวิธีการที่ใช้ในการรักษาโรคบางชนิด
เช่น เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกให้หลั่งช้า ช่วยการรักษาโรคไม่ถึงจุดสุดยอดของผู้หญิงได้วิธีหนึ่ง
ปัจจุบันถือว่า การช่วยตัวเองไม่เป็นอันตรายต่อตัวเอง
ผู้อื่น ครอบครัว และศีลธรรม และช่วยลดอาชญากรรมทางเพศลงได้อีกด้วย
(update 24 ตุลาคม 2001)
[ ที่มา..หนังสือ
นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 25 ฉบับที่ 8 สิงหาคม 2544 ]
|