ผมได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพูดเรื่อง เซ็กซ์กับการติดโรคเอดส์ ทางรายการทีวีรายการหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้
พูดถึงเรื่องเอดส์บางคนก็ขยาดและแขยง บางคนถึงกับกินอะไรไม่ได้ จะกลืนน้ำลายตัวเองยังยากก็มี
รู้ๆ กันอยู่ว่า โรคเอดส์ติดต่อได้ทางการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน และการปนเปื้อนสารคัดหลั่ง
เช่น เลือดจากคนเป็นเอดส์ไปสู่อีกคนหนึ่ง
และก็รู้ว่าปัญหาที่ควบคุมยากก็คือ เรื่องเซ็กซ์
บางคนบอกว่า ถ้าไม่ต้องมีเซ็กซ์เลยก็คงไม่ต้องเป็นเอดส์และลดเอดส์ลงได้มาก
แต่วิธีการนี้
เป็นไปไม่ได้หรอก
วันนั้น ผมได้พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์และการติดโรคเอดส์ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งน่าจะได้เอามาเล่าสู่กันฟัง
"เซ็กซ์" เป็นพฤติกรรมส่วนตัวของมนุษย์ 2 คน ค่อนข้างลึกลับและไม่เปิดเผย
มีรากฐานมาจากแรงขับ สันดานดิบ จิตสำนึกและจิตใต้สำนึกปะปนกัน จึงอธิบายยากและควบคุมได้ลำบาก
ถ้าไปกระตุ้นเซ็กซ์ให้มีแรงขับมากขึ้น ก็จะเกิดโทษมากขึ้น
ผมมั่นใจและเขียนหลายครั้งแล้วว่า เซ็กซ์ไม่ใช่ความต้องการมนุษย์ แต่เป็นแรงขับที่มีอยู่แล้วในตัวมนุษย์
ต้องรู้จักผ่อนคลายระบายออกให้เหลือเพียงเหมาะสมจึงจะเป็นประโยชน์ในแง่การสืบพันธุ์
และความสัมพันธ์พิเศษกับคนบางคน
แต่ความรักเป็นความจำเป็นของมนุษย์ ถ้าขาดความรักมนุษย์จะหงอยเหงา
แต่ถ้าขาดเซ็กซ์มนุษย์จะอยู่ได้ เช่น พวกนักบวชที่ดีๆ หรือคนที่ไม่ได้แต่งงาน
เพราะเขาจะมีวิธีระบาย ผ่อนคลายเซ็กซ์ได้ด้วยตัวเอง เช่น การทำงาน การออกกำลังกาย
หรือทำงานอดิเรกที่สร้างสรรค์
ถ้าเมื่อไรที่นักวิชาการหรือพิธีกร หรือคนที่มีอำนาจทางสื่อและความคิด
ไปบอกว่าเซ็กซ์เป็นความต้องการของชีวิต คนก็จะร่อนเร่หาเซ็กซ์กันอุตลุด เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
เด็กวัยรุ่นก็เร่หาเซ็กซ์กันตามสถานเริงรมย์มากมาย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดและเกิดผลร้ายตามมาอีกมาก
สังคมใดเมื่อคนถามหาเซ็กซ์กันวุ่นวาย ความรักก็ไม่เกิดในสังคมนั้นหรอก
เราจึงเป็นสังคมที่ขาดแคลนรักกันมากขึ้น
- วัยรุ่นชายเปลี่ยนควงบ่อยๆ เกิดจากอะไร ?
พฤติกรรมเช่นว่านี้ไม่ได้เป็นกันทุกคนหรอก แต่ก็พบได้มากเดี๋ยวนี้ผู้หลายๆ
คนก็เปลี่ยนคู่ควงง่าย มีเซ็กซ์ได้ง่ายๆ เช่นกัน สาเหตุมาจาก
1. เหงา เพราะขาดความเชื่อพื้นฐาน (Basic Trust)
สร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกับใครๆ จริงๆ ได้ยาก บางคนระแวงคนอื่นด้วย เมื่อเหงาจึงจีบผู้หญิง
ถ้ารูปหล่อ รวย หรือพูดเก่ง จะจีบได้ง่าย โดยคิดว่าการจีบผู้หญิงได้และมีเซ็กซ์กันจะทำให้หายเหงา
เป็นความตื่นเต้นในชีวิตชั่วคราว (ผู้หญิงก็คิดแบบเดียวกัน จึงจีบผู้ชายได้มากๆ)
แต่ไม่ใช่หรอก
ยิ่งมีเซ็กซ์มาก (ทั้งผู้หญิงและชาย) เท่าไรเขาจะยิ่งเหงายิ่งขึ้น
เพราะไม่สามารถสร้างความแปลกใหม่สนองได้ตลอดไป จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าได้ง่าย
เบื่อง่าย และเบื่อตัวเองด้วย
ตกลง
เซ็กซ์ ไม่ทำให้ใครหายเหงานะครับ
2. รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ในระดับจิตใต้สำนึก ขาดความรักพื้นฐาน (Basic Love)
รักใครๆ ลำบาก แต่จะมองหาคนมารัก และจะแสวงหาคู่รัก แต่จะไม่เคยรักใครจริง มักคิดว่าเขารักเราไม่พอแล้วก็เลิกรากันไป
ทั้งความเชื่อพื้นฐานและความรักพื้นฐานนี้ มาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่อย่างเหมาะสม
ถ้าพ่อแม่ทำให้ลูกรักได้และเชื่อได้อย่างเหมาะสม เขาก็จะมีความรักพื้นฐานและความเชื่อพื้นฐานเติบโตต่อไป
เขาก็พร้อมจะเชื่อคนอื่นและรักคนอื่นเป็นอย่างเหมาะสมต่อไป
สังคมไทยและครอบครัวไทยสอนให้พ่อแม่แสดงความรักกับลูกอย่างเหมาะสมแค่ไหน?
ถ้าหากเอาแต่ตำหนิ เปรียบเทียบ จับผิด ห่างเหิน หรือตามใจมากเกินไป เด็กก็จะขาดสิ่งสำคัญทั้ง 2 อย่างในชีวิต
กลายเป็นคนสำส่อนทางเพศ แสวงหาเซ็กซ์และความสนใจอย่างไร้จุดหมาย ไม่เคยพอ ไม่เคยอิ่ม
เป็นความทุกข์อย่างยิ่ง เป็นโรคหิวความรัก แต่จะให้เซ็กซ์ตอบแทน ซึ่งทดแทนกันไม่ได้เลย
3. มีแรงขับทางเพศมาก ระบายออกไม่เหมาะสม
แรงขับของมนุษย์มี 2 อย่างที่อันตราย ถ้าควบคุมไม่ดี ไม่เป็น คือ แรงขับทางเพศ (Sex Drive)
และแรงขับทางความก้าวหน้า (Aggressive Drive) ต้องรู้จักควบคุมและผ่อนคลายให้เป็น
โดยระบายออกไปทางการออกกำลังกาย เล่นกีฬา ทำงาน มีงานอดิเรก ท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม
จึงจะลดแรงขับทั้ง 2 อย่างลงได้แรงขับทางเพศมีติดตัวอยู่แล้วทุกคน ถ้าระบายออกไม่เหมาะสมก็จะมีมากไป
จะแสดงออกโดยการสนใจ ใส่ใจทางเซ็กซ์มากและบ่อย
4. ต้องการพิสูจน์ความเป็นชาย ว่ามีอยู่เพียงพอหรือไม่
เพราะตัวเองมีปมด้อยทางด้านจิตใจหรือทางด้านเซ็กซ์ เช่น มีขนาดขององคชาติเล็กไป
หรือมีความต้องการทางเพศน้อย จึงไม่พอใจ และฝังใจในความด้อยตลอดมา
เลยพยายามหาทางสร้างปมปลอม โดยการเป็นคนเจ้าชู้ จีบคนอื่นๆ มากๆ
แต่มีเซ็กซ์เพียง 1-2 ครั้งก็เลิก เพราะเบื่อและไม่ต้องการ
5. ปัญญาอ่อน ไม่ฉลาดพอ ขาดวิจารณญาณ
เลือกแสดงความเก่ง ความสามารถแบบผิดๆ ที่ไม่เหมาะสม ไม่สร้างสรรค์ ก็พบได้มาก
6. เชื่อค่านิยมผิดๆ และขาดวินัยในตัวเอง หักห้ามใจไม่ได้
คิดว่าเป็นผู้ชายต้องเจ้าชู้ จึงจะดี ซึ่งไม่ถูกต้อง
- ทำไมเด็กผู้หญิงจึงไม่ป้องกันโรคเวลามีเซ็กซ์ ?
1. เป็นเพราะไม่รู้วิธีป้องกันอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ถุงยางอนามัย
2. คิดว่าแฟนตัวเอง สะอาด ปลอดภัย และไม่มีโรค
3. ผู้หญิงมักมีความรักที่ไม่มีเงื่อนไข (Unconditioned Love) เมื่อรักแล้วก็วางใจ ตามใจ
ไม่ปฏิเสธ เมื่อผู้ชายไม่ป้องกัน เธอก็ไม่ว่าอะไร
4. อาจอยู่ในภาวะมึนเมาด้วยสุรา
5. ผู้ชายไม่อยากให้ป้องกัน เพราะติดค่านิยมผิดๆ คิดว่าถ้าไม่ใส่ถุงยางแล้วเท่ากับได้ลิ้มลองของสดๆ
จริงๆ ซึ่งไม่ถูกต้อง
6. ผู้หญิงไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อผู้ชายไม่ป้องกัน เพราะกลัวเขาไม่รัก แล้วตัวเองก็ไม่กล้าพกถุงยางอนามัย
เพราะกลัวผู้ชายหาว่าชำนาญเวที ผู้ชายบางคนก็ไม่กล้าพกถุงยางเวลามีเซ็กซ์กับแฟนกลัวแฟนเห็นว่ามีถุงยาง
แสดงว่าเตรียมตัวพร้อมหรือสำส่อน
จึงปล่อยเลยตามเลย ไม่ป้องกันเวลามีเซ็กซ์ จึงติดโรคได้ง่าย
- วัยรุ่นนักศึกษาที่ขายตัวกันมากขึ้น เป็นเพราะอะไร
มีจิตใต้สำนึกที่ไม่ดี มาจากการอบรมเลี้ยงดู จากครอบครัวที่จับผิด เปรียบเทียบ ประณาม เย้ยหยัน
หรือไม่แสดงความรักกับลูก เด็กจะเก็บเอาความรู้สึกไม่ดีนั้นไว้ในจิตใต้สำนึก คิดว่าตัวเองไม่ดีพอตลอดไป
เมื่อจะทำอะไรที่ผิดๆ ก็จะทำได้ง่าย แม้รู้ว่าผิดก็จะทำ เพราะคิดว่าไหนๆ ก็ไม่ดีแล้ว ทำผิดอีกนิดจะเป็นไรไป
โอกาสที่จะมีจิตใจที่มองไกล ใฝ่ดี มีคุณธรรม มีวินัย จึงเป็นไปได้ยาก
ขาดความนับถือตัวเองตามความเป็นจริง (Self Esteem) มองตัวเองไม่มีค่า เพราะไม่ได้รับคำชื่นชมอย่างเหมาะสม
เป็นเรื่องของการอบรมเลี้ยงดูเช่นกัน
เวลาผิดหวังชีวิต เช่น อกหัก หรือสอบตก จึงมักประชดชีวิตด้วยการทำผิดมากขึ้น เช่น
ขายตัวหรือติดยาไปเลย
ข้อนี้สำคัญมาก แต่สังคมไทยเรามักละเลย ไปสนใจเรื่องอื่นๆ มากกว่า
พวกปัญญาอ่อนปานกลาง พวกนี้พอเรียนรู้เรื่อง แต่สติปัญญาไม่ฉลาดพอ ถูกชักจูงง่าย
ทำผิดได้ง่าย ขาดจิตวิญญาณ เลือกไม่เป็นว่าสิ่งใดเหมาะสมหรือไม่
ขาดการสอนเรื่องศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะต้องไม่ขายเซ็กซ์เพื่อเงินทอง
แต่จะเก็บเซ็กซ์ไว้มอบให้คนรัก เป็นของขวัญพิเศษเมื่อถึงวันเวลาที่เหมาะสมแล้ว
เป็นความภาคภูมิใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
ข้อนี้จะสอนลำบากถ้าไม่พัฒนาให้มีจิตใต้สำนึกที่ดีและมีความนับถือตัวเองตามความเป็นจริงให้ได้เสียก่อน
สิ่งเร้าอื่นๆ ที่ทราบๆ กันดีอยู่แล้ว และมักจะโทษกันไปมา แต่เป็นปัจจัยปลายเหตุ เช่น
- ความเป็นวัตถุนิยม อยากได้เงิน อยากได้สิ่งของดีๆ มาใช้
- ความจน ต้องการเงินไปช่วยตัวเองและครอบครัว
- เพื่อการศึกษา จึงอยากได้เงิน
ปัจจัยเหล่านี้จะลดน้อยลงทันที ถ้าแก้ไขและพัฒนาเรื่องจิตใต้สำนึกที่ดี
และนับถือตนเองตามความเป็นจริงให้ดีขึ้น
- เรียนจบแล้ว ไม่มีเงินเรียนต่อ ควรขายตัวไหม
จบแล้ว ไม่มีเงินเรียนต่อ ก็ไม่ต้องเรียน
อย่าไปขายตัว
ถึงขายตัวแล้วมีเงินเรียนจนจบก็ช่วยตัวเองและสังคมได้ลำบาก พร้อมจะทำผิดอื่นๆ ได้อีกเรื่อยๆ
เพราะจิตใต้สำนึกและความนับถือตัวเองไม่มี
เมื่อเรียนไม่ได้ก็หางานทำ หรือเรียนคอร์สสั้นๆ เพื่อประกอบอาชีพ
ดำเนินชีวิตโดยใช้คติที่ว่า "อยู่แบบคนจน จะไม่มีวันจน ถ้าอยู่แบบคนรวย จะไม่มีวันรวย"
ถ้าคนจนส่วนใหญ่พร้อมจะขายตัว หรือพร้อมจะเป็นโจร โกงคอรัปชั่น แสดงว่าสังคมนั้น
ประสบความล้มเหลวในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและทรัพยากรมนุษย์ มีมนุษย์ที่ด้อยคุณภาพมากมายมีจิตใต้สำนึกที่ไม่ดี
และขาดความนับถือตนเอง ขาดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
เอดส์จะเป็นโรคที่มีปัญหาคู่กับชีวิตมนุษย์ต่อไปเหมือนกับเซ็กซ์อีกนานแสนนาน
ถ้าเมื่อไรมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ให้ดีขึ้น โดยสนใจวิธีการพัฒนาจิตใต้สำนึกให้ดีขึ้น
โดยเริ่มจากที่บ้าน โรงเรียน สังคม สื่อมวลชน ผู้ใหญ่และผู้รู้ในสังคม ช่วยกันอย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์
คนจะเป็นเอดส์น้อยลง เพราะคุณภาพชีวิตของมนุษย์ในสังคมเราจะดีขึ้น
และเซ็กซ์ก็จะมีคุณค่าสำหรับผู้ใหญ่และผู้รับมากกว่าทุกวันนี้
(update 8 ตุลาคม 2003)
[ ที่มา..หนังสือ
นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 27 ฉบับที่ 7-8 สิงหาคม- กันยายน 2546 ]
|