...เมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้ไปเที่ยวสถานอาบอบนวดแล้วมีอะไรกับสาวในอาบอบนวด
แต่ผมใส่ถุงยางอนามัย 2 ชั้น ใช้เวลาไม่นานนักประมาณ 5 นาที และผมแทบจะไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย เช่น
การใช้ปากหรือมือ ผมไม่รู้ว่าผมมีโอกาสจะติดโรคเอดส์มากสักเท่าไร กี่เปอร์เซ็นต์ แล้วนานเท่าไร
ผมถึงสามารถไปตรวจเลือดเพื่อตรวจหาโรคนี้ได้ ผมกังวลใจมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมไปเที่ยว
และมีอะไรกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนผม และผมยังเมาอีกด้วย ถ้าช่วงนี้ผมมีอะไรกับแฟน
ผมจะปลอดภัยสำหรับเธอหรือไม่เพียงใด และการใช้ถุงยางอนามัยจะปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนครับ
การติดเชื้อกามโรคทางเพศสัมพันธ์ ในสมัยก่อนจะมีโรคหูดหงอนไก่ โรคตับอักเสบ โรคซิฟิลิส
โรคหนองในแท้-หนองในเทียม อาการที่เป็นเร็วที่สุดคือ ปัสสาวะแสบทันทีในวันรุ่งขึ้น
หลังจากที่ไปเที่ยวผู้หญิงบริการแล้วได้รับเชื้อกามโรคต่างๆ มา พร้อมกับมีหนองขาวเหลืองไหลออกทางท่อปัสสาวะ
หรือติดเปื้อนกางเกงในทั้งชายและหญิง หากได้รับการฉีดยาหรือทานยาฆ่าเชื้อทันทีอาการก็จะหายไปภายใน 2-3 วัน
แต่ถ้าไม่ได้รับยา เชื้อหนองในเทียมก็จะสร้างปัญหาเรื้อรัง ไม่หยุดหย่อน ทานเหล้าทานเบียร์หน่อยก็มีหนองไหลอีก
หายหรือแห้งไป 4-5 เดือน ถ้ากินเหล้าเบียร์ก็จะไหลออกมาอีก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปเที่ยวมานานแล้วก็ตาม การเป็นหนองในเทียมไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวผู้หญิงก็สามารถเป็นขึ้นมาเองได้ โดยรวมๆ
แล้วสาเหตุเกิดจากการอักเสบที่บริเวณอวัยวะเพศ โดยการช่วยตัวเองอย่างรุนแรงหรือนอนทับบดขยี้อย่างแรง
หรือได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง เหล่านี้สามารถทำให้เกิดการเป็นโรคหนองในเทียมได้
หนองในแท้ คือ การได้รับเชื้อจากฝ่ายตรงข้ามที่เราไปมีเพศสัมพันธ์และได้รับเชื้อติดตัวมา
พวกนี้จะเป็นเชื้อไวรัสโดยตรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
ก็จะแพร่เชื้อติดต่อไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นการเที่ยวกับคนแปลกหน้าควรรู้จักป้องกันตนเอง
โดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
โรคหูดหงอนไก่ มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อคล้ายหูดสีแดงตะปุ่มตะป่ำ จะโผล่ขึ้นที่อวัยวะเพศของชายและหญิง
เป็นไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก้อนเนื้อจะโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้รับการรักษา ถ้าฝ่ายชายเป็นหูดหงอนไก่จะมองเห็นได้ชัดเจน เมื่อรู้ว่าเป็นหูดหงอนไก่ห้ามไปยุ่งกับผู้หญิงเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฝ่ายหญิงมีโอกาสเป็นเนื้องอกที่ปากมดลูกได้สูง
และฝ่ายหญิงจะมองไม่เห็นเพราะเชื้ออยู่ด้านใน กว่าจะรู้ว่าก้อนเนื้อก็โตมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีอาการผิดปกติต่างๆ ให้เห็น เพราะฉะนั้นทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงควรต้องรู้จักป้องกันตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ การที่จะมั่วเซ็กซ์กันไม่ใช่ของเล่นที่สนุก
ถ้าไม่รู้จักการป้องกันตัวเองก็จะทำให้มีทุกข์ตามมา
ทุกโรคที่กล่าวมารวมทั้งโรคที่ทันสมัยที่สุดคือ โรคไวรัสเอดส์ เกิดจากการละเลย เมาไม่ได้สติและทำด้วยความประมาท
ไม่สวมถุงยาง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็ทำด้วยความคึกคะนอง กระแทกรุนแรงมากเกินไปจนทำให้ถุงยางฉีกขาดได้ และความที่ไม่ลืมหูลืมตาดูบ้างว่าถุงยางยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือเปล่า หรือบางคนก็รู้ก็เห็นแต่ไม่สนใจลืมตัวไปชั่วขณะ
สิ่งเหล่านี้พอหายหน้ามืดตามัว ตั้งสติได้ก็จะมานั่งกลุ้มใจเป็นทุกข์เป็นกังวลต่างๆ หรือบางคนก็คิดมากไม่ยอมทานอาหาร
ไม่ยอมออกกำลังกายเหมือนเช่นเคย เก็บตัวเงียบ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ติดโรคอะไรเลย ก็จะทำให้ป่วยได้
เพราะการไม่ยอมทานอาหารเหมือนเช่นเคยก็จะมีโรคต่างๆ แทรกซ้อนเข้ามาในร่างกายเราได้
ขอให้คุณและคนอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาเช่นนี้ใจเย็นๆ อย่าตีโพยตีพายให้มากเกินไป
เชื้อไวรัสเอดส์ จริงๆ สามารถติดต่อได้โดยตรงคือ การมีเพศสัมพันธ์กันโดยสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปที่ช่องคลอด
โดยไม่ได้สวมถุงยาง และบริเวณอวัยวะเพศนั้นมีบาดแผล เชื้อจึงจะซึมเข้าทางบาดแผลนั้นๆ และคนที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
เช่น คนที่ติดเฮโรอีน คนพวกนี้จะประมาทและมองข้ามความปลอดภัยอยู่เสมอ และก่อนสมัยนี้การเที่ยวผู้หญิงบริการ
ก็ไม่เหมือนสมัย 30-40 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนพวกอาโก อาเฮีย ทั้งหลายที่จัดหาผู้หญิงมาให้บริการกับพวกผู้ชาย
บางคนก็หาผู้หญิงมาแบบังคับหรือไม่ก็ซื้อขายกันมา เพราะฉะนั้นผู้หญิงพวกนี้จึงต้องโดนบังคับให้ตามใจแขกที่มาเที่ยว
แขกไม่ต้องการสวมถุงยางก็ต้องตามใจ เพราะเมื่อสมัยก่อนๆ พวกผู้ชายจะไม่ค่อยกลัวเรื่องกามโรคกันสักเท่าไร
ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด ผู้หญิงสมัยก่อนมีมากมายที่ต้องติดเชื้อโรคหนองใน จนทำให้เด็กในท้องพิการ คือตาบอด
และเชื้อลุกลามเข้าไปในมดลูกและปีกมดลูกทำให้เป็นหมันได้ แต่เดี๋ยวนี้ผู้หญิงที่ขายบริการส่วนมากจะเต็มใจ
และสมัครใจมากกว่า สามารถเลือกแขกที่มาเที่ยวบริการได้ ผู้ชายไม่สวมถุงยางหรือเมามายไม่ได้สติ
ผู้หญิงพวกนี้เขาก็จะไม่ให้บริการ ขนาดผู้หญิงที่ทำงานขายบริการยังรู้จักป้องกันตัวเอง คุณนักเที่ยวทั้งหลายที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน
สำส่อนทางเพศ ก็พึงระวังไว้ให้ดีๆ ก่อนที่จะสายเกินแก้ เพราะโรคเอดส์ไม่เหมือนกับเชื้อกามโรคต่างๆ
อันตรายอย่างมากและที่สำคัญคือ ยังไม่มียาตัวไหนรักษาได้เลย ถ้าพลาดพลั้งไปก็ต้องมาทนทุกข์ทรมาน
จนกว่าจะสิ้นบุญสิ้นกรรม
การที่คุณไปเที่ยวผู้หญิงบริการมา (ตามที่คุณเล่า) กรณีเช่นนี้ถือว่าคุณป้องกันตัวเองได้ดีแล้ว
ถึงขนาดยอมลดความสุขลงมาอีกนิดด้วยการสวมถุงยางถึง 2 ชั้น การที่ผู้ชายไม่ชอบสวมถุงยางอนามัย
เพียงเพราะถ้าใส่แล้วจะทำให้ความรู้สึกเสียวดลดน้อยลงไปเท่านั้นเอง ไม่เหมือนกับที่เคยได้แนบเนื้อ
โดยไม่มีอะไรสวมใส่ เมื่อใส่แล้วจึงไม่ชอบเท่าที่ควร อย่าตามใจตัวเองมากเกินไป มันอันตรายจริงๆ
เสียวสนุกแค่แป๊บเดียว แต่เป็นทุกข์ทรมานจนวันตาย
กรณีที่คุณเขียนมาถามอาการเช่นนี้ โอกาสปลอดภัยมากที่สุดแล้ว เพราะคุณได้ระวังเต็มที่
การติดเอดส์ไม่ได้เกิดจากสัมผัสเนื้อตัวส่วนอื่นตามตัวตามหน้าอก หรือการจูบลูบไล้ แต่มีข้อห้ามคือ
ไม่ให้ใช้ลิ้นไปสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศส่วนนั้นของผู้หญิง เพราะการที่เราจะทำออรัลเซ็กซ์ให้กันและกันนั้น
ต้องเป็นสามีภรรยาหรือคู่ใจ ที่เราสามารถไว้วางใจได้มากที่สุด แต่ถ้าจะทำเพื่อดึงดูดหรือเร้าอารมณ์ให้อีกฝ่ายพึงพอใจ
เลิกคิดเสียดีกว่า เสี่ยงอันตรายโดยใช่เหตุ ขอให้คุณสบายใจได้ปลอดภัยเกินร้อยละ 90 แล้ว
ขอให้โชคดี
.
(update 8 กุมภาพันธ์ 2003)
[ ที่มา..หนังสือ
นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 26 ฉบับที่ 10 ตุลาคม 2545 ]
|