เราแอบไป post ถามใน www.planpublishing.com ในหัวข้อ "ปัญหาเรื่องเซ็กซ์ที่สำคัญที่สุดของพ่อแม่รุ่นใหม่" เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้ผลโหวตจากจำนวนผู้สนใจทั้งสิ้น 314 คน ดังนี้ค่ะ ถ้าคุณเป็น "พ่อแม่รุ่นใหม่" ข้อใดต่อไปนี้คือ "ปัญหาเรื่องเซ็กซ์ที่สำคัญที่สุด" ของคุณ 1. มีความต้องการทางเพศลดลง หลังจากมีลูกด้วยกันแล้ว 2. แต่ละฝ่ายมีความต้องการทางเพศไม่เท่ากัน 3. หมดอารมณ์อย่างว่า เพราะเครียดเรื่องงาน 4. ญาติของเขามาก้าวก่ายเรื่องครอบครัว เลยหมดอารมณ์เรื่องเซ็กซ์ 5. ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอกใจอีกฝ่ายหนึ่ง 6. ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีปัญหาทางเพศสัมพันธ์ (เช่นฝ่ายหญิงไม่เคยถึงจุดสุดยอดเลยหรือเจ็บทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์) 7. ไม่ค่อยได้มีโอกาสสื่อสารพูดจากัน ปัญหาเลยคั่งค้าง หมดอารมณ์ไปเลย 8. ไม่มีอารมณ์ทางเพศ เพราะปัญหาการเงิน 9. มีเซ็กซ์ด้วยกันน้อยครั้ง เพราะเขาแก่กว่าเรามาก 10. มีความเห็นไม่ตรงกันเรื่อง "ลูก" เลยพานหมดอารมณ์ 100 44 34 31 28 26 25 15 6 5 คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ได้ผลโหวตจาก mini poll อย่างนี้แล้ว วงเสวนาข้างหมอ(น) จะว่าอย่างไรนะ เพื่อนหมอ : สำหรับความเห็นต่อผลโหวตที่ว่ามีความต้องการทางเพศลดลงหลังจากมีลูกด้วยกันแล้ว ก็เห็นว่ามีประเด็นหลักๆ อยู่ 3 ข้อที่เกี่ยวข้องก็คือ หนึ่ง คนเราพอมีลูกแล้ว สถานภาพมันจะเปลี่ยนจากการเป็นคู่รักกันมาเป็นพ่อแม่ ซึ่งทำให้มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากขึ้น ทำให้การกุ๊กกิ๊กๆ กันเหมือนสมัยที่ยังเป็นคั่กกันมีน้อยลง สอง ส่วนใหญ่กว่าคนจะมีลูกกัน ก็มักต้องผ่านกาลเวลา ในการคบหากันมานานกว่า 1 ปีทั้งนั้น คงไม่ใช่ว่าหน-สองหนแรกที่คบกันมีเพศสัมพันธ์กันแล้วจะมีลูกเลยก็ไม่ใช่ ใช่มั้ยคะ ฉะนั้น เมื่อเป็นคู่แต่งงานและยิ่งเมื่อมีลูกแล้ว ความ "ใหม่สด" ของความสัมพันธ์มันก็อาจจะน้อยลง ซึ่งทำให้ความต้องการทางเพศระหว่างกันและกันมันสดน้อยลงไปด้วย ส่วนประเด็นสุดท้ายก็คือ การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่เหนื่อยหนักมากนะ ก็ย่อมทำให้ควมต้องการทางเพศลดลงไปโดยปริยาย และยิ่งถ้าเป็นลูกคนแรกด้วยนะ เราจะยิ่งทุ่มเทให้กับลูกหมด เพราะเราไม่เคยมีลูกมาก่อน เราก็จะมีแต่ความกังวลตลอดเวลา กลับจากทำงานมา กลางคืนพอจะมีเพศสัมพันธ์กัน อ้าว! ลูกร้องซะแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ก็เรียกว่าทุกประเด็นนำไปสู่ข้อนี้ได้หมดเลย ส่วนผลโหวตอันดับสองที่ว่า แต่ละฝ่ายมีความต้องการทางเพศไม่เท่ากัน ตามสถิติที่รับรู้มาทั้งจากที่อ่านหนังสือหรือจากการพูดคุยกับเพื่อนฝูงมา ก็พบว่า โดยเฉลี่ยผู้ชายมักจะมีความต้องการทางเพศสูงหรือมากกว่าผู้หญิง แต่กับข้อนี้ตัวเองมองว่าจริงๆ แล้วก็ทุกคู่นั่นแหละมีปัญหาข้อนี้ทั้งนั้น จะมีคู่ไหนบ้างที่มีความต้องการเท่ากันเป๊ะ คิดว่าไม่มีหรอก นอกจากนั้นมันก็โยงมาถึงผลโหวตอันดับสามที่ว่าหมดอารมณ์อย่างว่าเพราะเครียดเรื่องงาน ก็มองว่าส่วนใหญ่ผู้ชายเขาทำงานนอกบ้านกัน ส่วนผู้หญิงต้องแบกรับภาระมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงานนอกบ้าน แล้วยังต้องแบกรับภาระการงานในบ้านด้วย มันก็มีหลายจุดกว่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิง มีความต้องการทางเพศน้อยกว่าผู้ชาย ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีลูกแล้ว ความเครียดเรื่องงานที่เคยมีอยู่ตามปกติมันก็จะยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นอีก เพราะคนเป็นพ่อแม่จะยิ่งต้องมุเรื่องงานมากขึ้นด้วยความคิดว่าทำอบย่างไรเราถึงจะได้รายได้เพิ่มขึ้น เพราะการเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมากนะในทุกๆ องค์ประกอบเลย พอต้องมุเรื่องงานมากๆ ก็เครียดมาก พอเครียดมากก็มาส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเพศอีก โดยส่วนตัวก็เลยมองว่าผลโหวตอันดับแรกนี่เป็นหัวจ้อที่ใหญ่มากเลยและสามารถแตกย่อยออกมา เป็นผลอันดับที่สองและอันดับที่สามได้เลย คือเห็นว่าผลโหวตอันดับที่ 1-3 นี่สามารถขมวดเป็นหัวข้อใหญ่หนึ่งข้อได้เลย เพราะมันเกี่ยวโยงและครอบคลุมกันหมด หมอปอ : แต่ความเห็นของผมอาจจะไม่เหมือนของเพื่อนหมอในเรื่องนี้ ตรงที่ว่า ผมเห็นด้วยเลยว่าปัญหายอดฮิตของคนที่มีลูกแล้วคือมีความต้องการทางเพศต่อกันลดลงแน่นอน ส่วนหนึ่งหมอคงต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าเป็นเพราะความเบื่อ จะให้ฟันธงลงไปเลยก็คือมันเบื่อกันน่ะ กินข้าวไข่เจียวอย่างเดียวซ้ำๆ มาหลายปีแล้ว มันก็ต้องเบื่อน่ะ และผู้ชายก็เป็นพวกที่ชอบอะไรใหม่ๆ ส่วนผู้หญิงเองแม้ว่าจะทนได้มากกว่า แต่ก็อาจจะเบื่อเหมือนกัน เพราะไหนจะต้องเลี้ยงลูก ไหนจะต้องทำงานนอกบ้าน งานในบ้านด้วย ก็เหนื่อยแล้ว ก็จะไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย ดังนั้นผู้หญิงโดยมากก็จะเป็นฝ่ายตั้งรับในเรื่องนี้มากกว่า คือเมื่อมีการกระตุ้นก็จะตอบสนอง แต่ถ้าไม่มีก็อยู่เฉยๆ ได้บวชเป็นแม่ชีเลยก็ได้ไม่เดือดร้อน ไม่เหมือนผู้ชายที่ต้องมีการสำเร็จความใคร่ ไม่ว่าจะด้วยตัวเองหรือมีคนช่วย ในขณะที่ผู้หญิงอยู่เฉยๆ ก็ได้ เมื่อไม่มีการกระตุ้น ฉันก็อยู่ของฉันได้ ก็เลยทำให้เบื่อไปเลย และหลายๆ อย่างก็พลอยทำให้พานเบื่อสามีไปด้วย ส่วนผู้ชายเป็นพวกที่มีความต้องการทางเพศสูงอยู่แล้ว เพียงแต่มักจะไปสูงกับคนอื่น ไม่ใช่กับภรรยาของตัวเอง เพราะเบื่อแล้ว หมอไม่แน่ใจนะว่าปัจจัยเรื่องการมีลูกกับไม่มีลูกนี่จะไปเพิ่มความเบื่อไหมนะ ก็อาจเป็นไปได้ แต่เชื่อเถอะ ว่าสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีลูกก็ตาม ถ้าอยู่กินกันมานานๆ แล้วก็อาจจะเบื่อภรรยาของตัวเอง และไปแสวงหาความสนุกใหม่ๆ เพียงแต่ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีมันบอกว่าไม่ควรเท่านั้นเอง เพื่อนหมอ : ส่วนผลโหวตข้อที่ 4 นี่ก็สามารถแยกออกจาก 3 ข้อแรกได้เลย เพราะคิดว่าจริงๆ แล้ว คู่สามีภรรยาเกือบทุกคู่น่าจะสามารถศึกษาชีวิตส่วนตัวและพื้นเพครอบครัวของกันและกันได้ก่อนที่จะแต่งงานอยู่กินกัน ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักกันมาก่อน แล้ววันดีคืนดีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไปอาศัยใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ใช่ โดยส่วนใหญ่ ก่อนจะได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิงก็น่าจะได้รู้จักครอบครัวของกันและกัน ทั้งนิสัยใจคอของญาติพี่น้องของอีกฝ่ายอยู่แล้ว ก็น่าจะค่อยๆ คิดวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะมาจากญาติพี่น้องได้ เช่น ลองคุยกับคู่ของเราและหาหนทางที่จะแยกครอบครัวออกไปอยู่ต่างหากจะได้ไหม แต่ยังไม่ขาดการติดต่อกัน และเราเองก็คงต้องมองในแง่บวกด้วยว่า ญาติพี่น้องเขาก็เป็นห่วงเรานะ หรือถ้าเกิดเราต้องทำงานทั้งคู่ เราก็สามารถฝากลูกไว้กับปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาได้ ดีไม่ดีก็ยังช่วยประหยัดเงินทองที่เราจะต้องเอาลูกไปฝากเนิร์สเซอรี่เลี้ยงหรือต้องจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกให้เรา และปู่ย่าตายายก็เป็นผู้ใหญ่ใกล้ชิดที่ไว้วางใจได้มากที่สุดและมีประสบการณ์มากกว่าอยู่แล้ว หมอปอ : อันนี้ผมก็เห็นด้วยเหมือนกันว่าไม่น่าจะใช่ประเด็นหลักนะครับ เป็นเรื่องที่แต่ละฝ่ายยกมาเป็นข้ออ้างมากกว่า ประเด็นเครียดเรื่องงานก็เหมือนกัน สำหรับผู้หญิงอาจจะใช่ที่ว่าพอเครียดเรื่องงานก็เลยพานหมดอารมณ์ แต่สำหรับผู้ชายแล้ว ส่วนใหญ่พอเหนื่อยหรือเครียดจากงานแล้วก็มักจะอยากระบายออกด้วยเรื่องอย่างว่ามากกว่า เพื่อนหมอ : คือหมอจะฟันธงลงไปเลยนั่นเองว่า ส่วนใหญ่ของคนที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยกันน้อยลง หลังจากมีลูกด้วยกันแล้ว ก็เพราะความเบื่อนั่นเอง ใช่มั้ยล่ะ เอาล่ะ มาว่ากันถึงผลโหวตอันดับที่ 5 ดีกว่า เรื่องฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอกใจอีกฝ่ายหนึ่ง เราดูจากคะแนนที่โหวตเข้ามาแล้ว คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะมีมากกว่า 28 คะแนน จากทั้งหมด 314 คะแนน หมอปอ : อ๋อ แน่นอน อุบัติการณ์การเกิดปัญหานอกใจน่าจะมากกว่า 28 จาก 314 แต่ว่าที่รู้คือถูกจับได้และกลายเป็นปัญหาแล้วน่าจะเป็นอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนหมอ : คือเท่าที่โหวตเข้ามานี่คือรู้แล้วและเป็นปัญหาแล้ว จึงโหวตให้เป็นปัญหาอันดับหนึ่งสำหรับเขา ส่วนอีกที่เหลือนี่คือไม่รู้ ยังไม่รู้ ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหา หรือไม่เป็นปัญหา น่าจะเป็นอย่างนั้นใช่มั้ย ? หมอปอ : ใช่ เพื่อนหมอ : เรามองว่าปัญหาเรื่องนี้นี่มีมาแต่สมัยโบราณแล้วนะ เพียงแต่ว่าสมัยก่อน ผู้หญิงเรามีความอดทนต่อเรื่องนี้มากกว่าในปัจจุบัน และผู้หญิงสมัยนี้ก็มีความเก่งความสามารถ แทบจะเทียบเท่ากับผู้ชาย มีโอกาสเลือกสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น นี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงทุกวันนี้ จะไม่ยอมอดทนต่อปัญหานี้อีกแล้ว คิดว่า เมื่อเธอนอกใจฉัน ฉันจำเป็นต้องทนไหม ถ้าไม่ทนก็อย่ามายุ่งกันดีกว่า ในขณะที่ผู้หญิงสมัยก่อนเป็นช้างเท้าหลัง ต้องอยู่แต่ในบ้านแล้วก็ต้องยอมรับไปโดยปริยาย หมอปอ : แล้วเรื่องนี้ก็ไม่รู้จะแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้อย่างไรด้วย ได้แต่บอกว่าถ้าใครเจอเข้าก็ต้องยอมรับซะ ถ้าไม่อยากบ้านแตกสาแหรกขาด เพื่อนหมอ : ..หรือไม่อย่างนั้นก็คือต้องเลิกกันไป หมอปอ : ใช่ ก็ต้องเป็นอย่างนั้นล่ะ เพื่อนหมอ : ส่วนผลโหวตอันดับที่ 6 เรื่องมีปัญหาทางเพศสัมพันธ์ระหว่างกัน ก็คงต้องแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะ ถูกไหม อย่างเช่น ถ้ามีปัญหาเรื่องเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องดูว่าเจ็บตรงไหน เจ็บเพราะอะไร เพื่อหาทางออกของปัญหา หมอปอ : และน่าจะไปพร้อมกันทั้งคู่นะครับ สำหรับข้อต่อๆ มากหมอเห็นว่าอีกปัจจัยสำคัญของปัญหาเซ็กซ์ ก็คือเรื่องการทะเลาะกัน ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะเรื่องอะไร เรื่องการเลี้ยงลูก เรื่องการเรียนของลูก เรื่องเงิน หรือเรื่องญาติโยม ก็ล้วนแต่ทำให้เป็นเรื่องขัดใจกันได้เสมอระหว่างสามีภรรยา แล้วก็เลยพลอยทำให้ไม่อยากจะมีอะไรๆ กันไปด้วย เพื่อนหมอ : คือพอมีปัญหาแล้วก็ไม่อยากจะสื่อสารกันแล้ว เพราะพอสื่อสารก็กลายเป็นเถียงกัน เลยยิ่งไปกันใหญ่ แต่ทางออกเท่าที่คิดได้ก็มีอยู่ทางเดียว คือต้องหันหน้าเข้าหากันและพูดคุยกันดีๆ นั่นแหละ หมอปอ : แต่มันก็ยากนะ เพราะคนที่เคยสนิทกันมากๆ พอมาทะเลาะกันแล้วมันก็ยากที่จะมาประสานกันได้อีก เพื่อนหมอ : บางทีพูดแค่คำเดียวก็หงุดหงิดกันละ ? หมอปอ : อือ ใช่ ก็ไม่ยอมกัน คือยิ่งสนิทกัน ยิ่งแตกกันง่าย เพราะไม่ค่อยยอมให้อภัยกันไง เพื่อนหมอ : คือคิดกันว่าในเมื่อยิ่งสนิทกัน ยิ่งน่าจะรู้ใจกันไง แต่เมื่อไม่รู้ใจกัน ก็เลยยิ่งโกรธไปเลย หมอปอ : ส่วนข้อที่บอกว่าอีกฝ่ายแก่กว่าเราก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเลยนะ เพราะความจริงก็แก่มาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว เพื่อนหมอ : (หัวเราะ) เอ้อ ใช่ อย่างที่เราเคยคุยกันไง ก็แก่กว่ากันมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาแก่กว่ากันหลังจากแต่งงานแล้วซะเมื่อไหร่ ก็ต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้มาตั้งแต่ต้น เพื่อนหมอ : สำหรับใจของดิฉันแล้วคิดว่า การที่คนเราจะสร้างครอบครัวกันขึ้นมาเป็นครอบครัวที่รักกันเข้าใจกัน ดิฉันคิดว่า เราไม่น่าจะมามองแค่เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอันที่จริงยังมีปัญหาให้เราต้องแก้ไขมากกว่า เรื่องนี้อีกตั้งเยอะแยะเลย ยิ่งเมื่อเรามีลูกด้วยกัน เมื่อเราทั้งสองฝ่ายต่างโตขึ้น ปัญหาอย่างอื่นที่เราควรจะช่วยแก้ไขกันยังมีรออยู่อีกหลายเรื่อง ทีนี้ สำหรับปัญหาเรื่อง "ความเบื่อ" (ที่คุณหมอปอฟันธงด้วยมุมมองของฝ่ายชายไปก่อนหน้านี้) ซึ่งส่วนมากมักจะเกิดกับผู้ชายและนำไปสู่ปัญหาครอบครัวอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะเรื่องการนอกใจ ก็มองว่าถ้าคุณไม่ได้ไปมุ่งเน้นความต้องการของชีวิตที่เฉพาะเรื่องเซ็กซ์อย่างเดียวแล้วปัญหาต่างๆ พวกนี้ก็น่าจะลดลง ลองคิดดูสิ บางคู่อุตส่าห์กัดก้อนเกลือกินด้วยกันมา แล้วยังจะไปมีคนอื่นอีก นั่นก็เพราะไปเอาเรื่องความต้องการทางเพศป็นตัวตั้งนั่นเอง การที่คนเราจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจะต้องใช้ความอะลุ้มอล่วยกันในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการช่วยเหลือกัน เรื่องการเงิน การเลี้ยงลูกก็ต้องมาแชร์ความคิดกันว่า จะมีวิธีการเลี้ยงลูกยังไงดี หรือการที่ผู้หลักผู้ใหญ่ปู่ย่าตายาย ถ้าจะมีปัญหาทะเลาะกันก็มักจะมาจากเรื่องลูกของเรานั่นเอง ฉะนั้น ถ้าเราไม่ทำให้มันเป็นปัญหาขึ้นมาก็น่าจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ โดยหัวใจสำคัญที่สุดอยู่ที่ความอดทนความเข้าใจกัน และต้องมีความเห็นอกเห็นใจกันทั้งสองฝ่าย ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าลืมว่าที่เราแต่งงานกับเขาก็เพราะเรารักเขา การที่จะทำอะไรให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียใจ ช้ำใจ พยายามหลีกเลี่ยงเถอะค่ะ แม้แต่คำพูดก็ต้องพยายามระมัดระวังอย่างดีที่สุด เพราะถ้าพูดอะไรออกไปแล้ว อีกฝ่ายอาจจะเก็บไปเสียใจอีกนานเลย เมื่อรักกันแล้ว ก็ขอให้ทะนุถนอมความรู้สึกที่ดีที่มีให้กันไปเรื่อยๆ ถ้าทำได้อย่างนี้ ก็เชื่อว่าไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ ในชีวิตก็ตามรวมทั้งปัญหาเรื่องเซ็กซ์ เราก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ อ่านจบแล้ว อาจพบว่ามีปัญหาที่ตรงใจคุณอยู่เหมือนกัน ถึงอย่างนั้น เราก็หวังว่าข้อคิดวิเคราะห์ และข้อเสนอแนะจาก "หมอปอและเพื่อนหมอ" ของเราจะพอเป็นหลักคิดและเป็นประโยชน์กับการแก้ไขปัญหา เพื่อชีวิตครอบครัวที่เป็นสุขของคุณๆ ทุกคนนะคะ ขอให้โชคดี และพบกันใหม่ (update 25 ตุลาคม 2000) [ ที่มา.. นิตยสารรักลูก   ปีที่ 21 ฉบับที่ 241 กุมภาพันธ์ 2546 ]

[ BACK TO LIST]

main

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุด E-LIB Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600