กล่าวกันว่า กามารมณ์กับความรักเป็นของคู่กัน ในการใช้ชีวิตคู่
เป็นไปไม่ได้ที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันด้วยความรักอย่างเดียว
เพราะความรักบางครั้งก็เป็นนามธรรมที่จับต้องได้ยาก แต่การมีความสุขสมร่วมกันจากบทพิศวาสนั้น
เป็นเสมือนการบอกรักที่เรียบง่ายและได้ผลรวดเร็วทันตา
ในรูปแบบนี้ กามารมณ์ที่เกิดขึ้น ในการมีความรัก จึงเป็นเรื่องราวของความรับผิดชอบร่วมกัน
เป็นกามารมณ์ที่รับผิดชอบ ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมนำความสุขสมปลอดภัยไร้กังวลมาสู่ผู้ถือปฏิบัติเป็นธรรมดา
เคยมีคนถามเสมอมา ว่า ทำไมในความรัก จึงต้องมีกามารมณ์...
...คำตอบก็คือ กามารมณ์เป็นธรรมชาติในการดำรงเผ่าพันธุ์ของมวลมนุษย์ชาติ
ถ้าไม่มีกามารมณ์ป่านนี้มนุษย์เราคงจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปนานแสนแล้ว
ที่ยังคงออกลูกออกหลานมาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะว่ากามารมณ์นั่นเอง
แต่บทพิศวาสที่เกิดขึ้น ก็ต้องสามารถตอบสนองต่อจินตนาการที่วาบหวามของคนสองคน
ที่หลอมร่างกายเข้าหากัน บอกรักผ่านการถ่ายทอดทางผิวหนังที่สัมผัสกันในทุกสัดส่วน
รวมทั้งการเคลื่อนไหวทางกายที่เกิดขึ้นในระหว่างการร่วมรักนั้น ถ่ายทอดความสนิทชิดเชื้อ
ความอบอุ่น ผูกพัน จริงใจต่อกัน เพราะสภาพที่ร่างกายปราศจากเสื้อผ้ามาปิดบัง
ความเปิดเผยในตัวที่แท้จริงก็จะแสดงออกมา เมื่อให้ความสุขสมแก่กันและกันแล้ว
ก็จะเกิดสายใยแห่งความผูกพันบางอย่างที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ที่จะโยงใยเข้าหากัน... ด้วยความรัก
กามารมณ์ นอกจากจะเป็นเพื่อการเจริญพันธุ์แล้ว ยังเป็นการถ่ายทอดความสุขให้แก่กัน
อย่างที่ไม่มีความเห็นแก่ตัวอีกด้วย
เมื่อเป็นดังนี้ การที่คนเราจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกัน จึงต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน
ในหลายเรื่องหลายราว
คำถามที่ว่า จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ในเมื่อจะร่วมรักกับใครสักคนหนึ่ง
เป็นคำถามที่มีคำตอบหลากหลาย และแน่นอนว่า ต่อไปนี้เป็นบางส่วนของคำตอบเหล่านั้น
ที่ได้จากคนหลายอาชีพ
" รับผิดชอบความรู้สึกทั้งของเราและของเขา เพราะว่าผู้หญิงนั้น
ถ้าจะไปมีอะไรกับใครก็น่าจะต้องมีความรักก่อน แบบนี้ก็คงจะต้องแคร์ความรู้สึกของกันและกันให้มากขึ้น"
" คงจะต้องรับผิดชอบในการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
และระวังไม่ให้นำเอาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปให้คู่ของเราเช่นกัน"
" ผู้ชายคงจะต้องรับผิดชอบ ถ้าไปทำให้ผู้หญิงคนไหนเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา
เพราะว่าถ้ายังไม่พร้อมก็น่าจะมีการป้องกันเอาไว้ก่อน ไม่ใช่ให้ผู้หญิงเป็นคนรับผิดชอบแต่ฝ่ายเดียว"
" ควรจะมีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อมจริงๆ ในทุกๆ ด้าน ถ้ายังไม่พร้อมก็ยังไม่ควรจะมี
เห็นด้วยมากเลยกับคำกล่าวที่ว่า ความรักอาจจะรอไม่ได้ แต่เซ็กซ์รอได้เสมอ
เพราะเมื่อถึงเวลาแล้วเซ็กซ์ที่สุขสมกว่าก็จะมาเอง"
" ต้องคุยกันถึงความต้องการของแต่ละฝ่าย ว่าเขาอยากได้อะไรและเราอยากให้เขาทำกับเราแบบไหน
ต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าคิดว่าจะต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน และต้องมีความรับผิดชอบที่จะพูดคุยกันก่อนที่จะทำ"
...นั่น จึงเป็นความรักและกามารมณ์ที่มีความรับผิดชอบ!!
" ต้องแน่ใจว่า คนที่จะไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย ไม่ใช่คนที่แต่งงานแล้ว หรือมีเจ้าของแล้ว
และต้องเต็มใจที่จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเราด้วย การมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความไม่ยินยอมพร้อมใจนั้น
นอกจากไม่ทำให้เกิดความสุขแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความไม่รับผิดชอบทั้งต่อตนเอง และผู้อื่นด้วย"
" ต้องมีการป้องกันที่ดี ไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นในขณะที่ยังไม่พร้อม
เพราะจะเป็นการทำบาปแก่ทารกที่เกิดมาเปล่าๆ ปลี้ๆ"
" ต้องให้ความรัก เอาใจใส่ดูแล แคร์ความรู้สึก รวมทั้งเชิดชูยกย่องนำไปเปิดเผยต่อเพื่อนฝูง
ครอบครัว มีการแต่งงาน และใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน รวมทั้งมีการวางแผนในอนาคตร่วมกันด้วย"
และเมื่อถามต่อไปว่า... อยากให้คนที่กำลังจะมีสัมพันธ์สวาทด้วย มีความรับผิดชอบต่อสัมพันธภาพอย่างไร
คำตอบที่ได้รับก็คือ
" อยากให้ซื่อสัตย์ จริงใจ จริงจัง ต่อความรักและสัมพันธภาพที่ลึกซึ้ง มีการให้ความรัก
และเอาใจใส่ต่อกันและกันอย่างต่อเนื่องยาวนาน"
" ยอมรับซึ่งกันและกันในทุกๆเรื่อง รอมชอมกัน สามัคคีกลมเกลียวกัน ประสานผลประโยชน์กัน
ยอมพบกันครึ่งทาง"
" อยากให้มีความรัก ความผูกพันไปตลอด ไม่ใช่มีอะไรกันแค่เป็นการระบายความใคร่
แต่เพียงอย่างเดียว"
" อยากให้เขาขอแต่งงานด้วย ไหนๆก็ได้เราไปแล้วทั้งกายและใจ
เป็นลูกผู้หญิงยอมมอบกายให้แล้วก็อยากที่จะให้รับผิดชอบชีวิตด้วย จึงไม่เรียกร้องอะไรมาก
นอกจากความรับผิดชอบเรื่องการแต่งงาน"
" อยากให้ใส่ใจในความรู้สึกของผู้หญิงบ้าง ไม่ใช่มีอะไรกันแล้วก็จากไปเฉยๆ ไม่ติดต่อกลับมา
ควรจะสนใจความรู้สึกของผู้หญิงทั้งในระหว่างมีอะไรกัน และเมื่อจบลงแล้ว มีความห่วงใยใส่ใจให้กัน"
" ควรจะสานต่อสัมพันธภาพ มีความสนิทสนมกลมเกลียว เท่าเดิมก็ได้ ถ้าเพิ่มขึ้นจะยิ่งดีขึ้นใหญ่
แต่ห้ามห่างเหินหรือลดลงอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องที่ผู้หญิงกลัวที่สุด"
" อยากให้เขายอมรับค่ะ ว่าลูกในท้องเป็นของเขา และเขาพร้อมที่จะเป็นพ่อของลูก"
" ไม่อยากให้เขาไปมีอะไรกับคนอื่นอีก เพราะกลัวจะเอาโรคมาติด
อยากจะมีอะไรแบบไหนก็ขอให้บอก รู้ค่ะว่าผู้ชายชอบมีอะไรแบบแปลกๆ ใหม่ๆ
ถ้ายอมมีอะไรกับเราคนเดียวจะมีแบบไหนก็โอเคทั้งนั้น เพราะไม่ใช่เป็นคนหัวโบราณ"
" อยากให้แน่ใจจริงๆ เท่านั้น ว่ามีอะไรกัน เพราะเรารักกัน"
" ที่สำคัญที่สุดและกลัวมากที่สุดเลยนะคะ ก็คือกลัวว่ามีอะไรกับเราแล้วไปเล่าให้คนอื่นฟังลับหลัง
ทำให้เราเสียหาย"
ทั้งหมดทั้งหลายนั้น คงจะเป็นส่วนหนึ่งของนานาทัศนคติในเรื่องของความรับผิดชอบ
ต่อสัมพันธภาพที่เกิดจากความรัก และนำไปสู่บทพิศวาสที่เป็นการถ่ายทอดความรักให้แก่กัน
ผ่านทางสัมผัสรักทางกายที่มอบให้แก่กันในระหว่างการร่วมรักที่สุขสม
ก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังคิดจะมีสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งกับใครอีกคนหนึ่งไม่มากก็น้อย
(update 22 กรกฎาคม 2004)
[ ที่มา...
เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 631 วันที่ 5 - 11 ก.ค. 2547 ]
|