ใครว่าแม่ท้องต้องอ้วนเสมอไป ไม่จริ้ง
ไม่จริงค่ะถึงจะท้องก็ยังสวยปิ๊ง รูปร่างดีได้ถ้าคุณรู้จักดูแลตัวเอง
แต่ก็คงต้องทำความเข้าใจกันก่อนะคะ ว่ารูปร่างดรแบบแม่ท้องคงจะไม่ใช่เอวคอดกิ่วเหมือนยังไม่ท้องแน่ๆ แต่รูปร่างดีในที่นี้หมายถึงการมีรูปร่างสมส่วนน้ำหนักพอดีตามเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป เพราะน้ำหนักที่มากเกินหรือน้อยเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์นั้น ส่งผลเสียได้ทั้งสิ้นค่ะ
น้ำหนักแค่ไหนถึงจะพอดี
ไม่สามารถบอกได้ค่ะว่าคุณแม่ท้องมีน้ำหนักขึ้นแค่ไหนถึงจะพอดี ไม่อ้วนเกิน ไม่ผอมไป และมีสุขภาพดีด้วย เพราะคุณแม่แต่ละคนมีโครงสร้าง ต้นทุนของน้ำหนักก่อนคลอดต่างกันซึ่งคุณหมอที่เป็นผู้ดูแลครรภ์จะช่วยคำนวณให้ และบอกคุณแม่ได้ว่าควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเท่าไรถึงจะเหมาะสม
แต่ถึงจะไม่มีคำตอบที่ตายตัว ก็มีสูตรคร่าวๆ ที่คุณแม่พอจะประเมินได้เองค่ะว่า ท้องนี้น้ำหนักที่พอดีควรเป็นเท่าไร โดยใช้สูตรการคำนวณหาค่า BMI (body mass index) นี้
คือ เอาน้ำหนัก (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง แล้วนำมาเทียบสูตรดังนี้ค่ะ
| ค่า BMI (kg/m2) |
น้ำหนักที่ควรจะขึ้น (กก.) |
| คุณแม่ที่น้ำหนักน้อยกว่า | 19.8 | 12-18 |
| น้ำหนักมาตรฐาน | 19.8-26.0 | 11-16 |
| น้ำหนักเกิน | 26.0-29.0 | 7-11 |
| น้ำหนักมากเกิน | 29.0 | 7 |
ยกตัวอย่าง
ถ้าคุณแม่มีน้ำหนัก 52 กก. สูง 1.60 เมตร = 52 หารด้วย (1.60)2 ค่า BMI ของคุณแม่จะเท่ากับ 20.3 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
เพราะฉะนั้น น้ำหนักที่ควรขึ้นจะอยู่ที่ 11-16 กิโลกรัม
จะเห็นได้ว่าถ้าคุณแม่ที่มีต้นทุนน้ำหนักเดิมน้อย น้ำหนักที่ควรจะเพิ่มขึ้นเมื่อยามท้องสามารถขึ้นได้เยอะกว่าคุณแม่ที่มีต้นทุนน้ำหนักเดิมสูงอยู่แล้วค่ะ
ทำไมเรื่องน้ำหนักจึงสำคัญ
ที่ต้องมาพูดเรื่องนี้ก็เพราะคุณแม่บางคนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับน้ำหนัก เป็นต้นว่า
ตอนท้องต้องบำรุงเต็มที่ไม่ต้องยับยั้ง อยากกินอะไรกิน น้ำหนักจะได้เพิ่มเยอะๆ ลูกจะได้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
แต่ความจริงคือ ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และไม่ใช่กินจนอิ่ม แต่กินให้พออิ่มและอาจจะซอยย่อยเป็นหลายมื้อก็ได้ค่ะ เพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารได้ง่าย และเผาผลาญพลังงานได้หมด คนท้องควรได้ปริมาณอาหารวันละ 2,500 กิโลแคลอรี
การกินเยอะๆ เพื่อให้น้ำหนักเพิ่มมากๆ เป็นความเข้าใจที่ผิดนะคะ เพราะน้ำหนักจะไปอยู่ที่เด็กประมาณ 3 กิโลกรัม เป็นรกและเลือดที่ออกมาตอนคลอดอีกประมาณ 3 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นที่เหลือจะเป็นน้ำหนักส่วนเกินที่อยู่ที่คุณแม่ค่ะ และนี่เองคือคุณแม่บอกว่าพอคลอดแล้วลดไม่ลง ก็เพราะมีน้ำหนักเกินอยู่เยอะ
ทำไมบางคนท้องแล้วไม่อ้วน คือพอคลอดแล้วสามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วเป็นเพราะมีการดูแลอะไรพิเศษหรือไม่
การที่คุณแม่ท้องบางคนไม่อ้วน ก็อาจจะเกิดจากต้นทุนน้ำหนักเดิมน้อยอยู่แล้วอย่างที่เราจะเห็นจากดาราบางคนที่ท้องแล้วยังรู้สึกว่ารูปร่างดี ไม่อ้วน นั่นเป็นเพราะต้นทุนน้ำหนักเดิมของเขาน้อย พอท้องแล้วกินเยอะขึ้นก็เลยดูพอดี ไม่อ้วน แต่ก็มีคุณแม่บางคนที่ต้นทุนน้อย แต่ก็กินจนเกินพอดีก็มีค่ะ ซึ่งก็ไม่ใช่ผลดีต่อร่างกายแต่อย่างใด
การกินอย่างพอดีและไม่กินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมากเกินไป กินของมันของทอดให้น้อยลงในช่วงตั้งท้อง จะทำให้น้ำหนักคุณแม่ขึ้นในเกณฑ์ที่ปกติค่ะ สมมติว่าคุณแม่น้ำหนักขึ้นมาจากตอนก่อนท้อง 10 กิโลกรัม พอคลอดแล้วก็จะเหลือน้ำหนักเกินเพียงแค่ 4 กิโลกรัมเท่านั้นเองค่ะ การลดน้ำหนักคลอดจึงไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งถ้าเลี้ยงลูกเองก็อาจจะผอมกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นที่การกินอาหารของคุณแม่ว่ากินอาหารอย่างไร ซึ่งอาหารที่ดีสำหรับคนท้องก็ได้แก่ อาหารจำพวกเนื้อปลา เพราะโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพของแม่และลูก และอย่างน้อยควรดื่มนมวันละแก้วค่ะ
การระวังรูปร่างในช่วงท้องเป็นเรื่องที่ทำได้หรือไม่ มีอันตรายกับเด็กมั้ย เด็กจะออกมาแข็งแรงเหมือนแม่ที่กินบำรุงเต็มที่หรือเปล่า
ถ้าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ควรจะขึ้น ก็ไม่มีอันตรายอะไรค่ะ แต่ที่สำคัญตอนท้องเราต้องดูแลลูกเราให้ดีที่สุด จะห่วงเรื่องความสวยงามมากคงไม่ได้ เพราะถ้ากินน้อยเกินไปอาจจะได้อาหารไม่เพียงพอ เด็กที่เกิดมาอาจจะไม่แข็งแรง น้ำหนักน้อย ซึ่งคงไม่คุ้มกัน เพราะถ้าห่วงรูปร่างก็สามารถมาดูแลหลังคลอดได้ แต่ตอนท้องแนะนำให้กินให้พอดีให้น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ดีกว่าค่ะ ไม่จำเป็นต้องน้ำหนักมากๆ ลูกก็ออกมาแข็งแรงได้
คุณแม่บางคนเกิดฉุกเฉินท้องขึ้นกะทันหันในระหว่างที่กำลังคุมน้ำหนักด้วยการกินยา ก็เลยกังวลว่าจะมีอันตรายต่อลูกหรือเปล่า
คำตอบ ก็คือไม่มีอันตรายอะไรค่ะ หากคุณรู้ว่าท้องแล้วหยุดทันที เพราะยาพวกนี้จะมีฤทธิ์แค่กดประสาทไม่ให้หิว หรือทำให้ขับถ่ายบ่อย แต่ไม่ได้มีฤทธิ์ในการทำลายร่างกายค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่ค้างคาใจอยู่ก็สบายใจได้นะคะ
ออกกำลังกายตอนท้อง
อีกหนึ่งวิธีของการมีสุขภาพดีก็คือการออกกำลังกายค่ะ เดี๋ยวนี้มีการออกกำลังกายสำหรับแม่ท้องมากมาย ซึ่งการออกกำลังกายบางอย่างสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามตัว หลัง และเท้าได้ด้วย แต่ต้องเข้าด้วยนะคะว่า การออกกำลังกายสำหรับแม่ท้องจะไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลง แต่เป็นการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายกระชับ ส่งผลให้คลอดง่าย คลอดสบาย
ซึ่งการออกกำลังกายของแม่ท้องนั้นก็ขอให้เน้นการออกกำลังกายช่วงบน เพราะช่วงล่างท้องคุณแม่จะใหญ่ จุดศูนย์ถ่วงอาจจะไม่ดีนัก เพราะฉะนั้นให้เน้นการออกกำลังช่วงบนเป็นหลัก ไม่ว่าจะยกเวทหรือหมุนข้อมือ หมุนแขนเบาๆ ก็สามารถทำได้ค่ะ หรือ จะแค่เดินเล่นวันละนิดละหน่อยก็ดีสุขภาพค่ะ
เห็นมั้ยคะว่าเพียงเราดูแลตัวเอง แค่นี้เราก็สามารถเป็นแม่ท้องที่มีสุขภาพดี ไม่อ้วนแถมยังสวยปิ๊ง เพราะได้ออกกำลัง ได้กินและพักผ่อนอย่างเต็มที่ ดีไม่ดีสวยกว่าตอนไม่ท้องอีกนะคะ
(update 16 พฤศจิกายน 2006)
[ ที่มา..
นิตยสารรักลูก ปีที่ 24 ฉบับที่ 284 กันยายน 2549 ]
|