กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่เทวดาและนางฟ้าตัวน้อยๆ ลืมตาดูโลก คุณแม่คงเฝ้าดูพัฒนาการต่างๆ ของลูกอย่างใจจดใจจ่อใช่ไหมค่ะ รวมทั้งเรื่อง...ฟัน...ของลูกด้วย
เหงือกขอมาก่อน
คุณแม่รู้ไหมค่ะว่า จริงๆ แล้ว เจ้าตัวเล็กเริ่มมีพัฒนาการฟันน้ำนมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ พร้อมไปกับการพัฒนาอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย โดยการรวมตัวของเนื้อเยื่อจนเป็นปุ่มเล็กๆ เรียกว่า หน่อฟัน เนื้อเยื่อที่พัฒนามาเป็นโครงสร้างฟันจะมีการสะสมแร่ธาตุต่างๆ จนเป็นผลึกโครงสร้างฟันที่แข็งแกร่ง พัฒนาการของฟันลูกจะมีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเจ้าตัวน้อยลืมตาดูโลกค่ะ
แม้ฟันน้ำนมจะยังไม่ขึ้น แต่การดูแลทำความสะอาดช่องปากของลูกก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ
โดยปกติแล้วคุณแม่ควรจะให้นมลูกจนถึงอายุ 6 เดือน ในช่วงเวลาก่อน 6 เดือน ยังไม่ควรนำสิ่งแปลกปลอมเข้าปากลูกค่ะ เพราะเป็นช่วงที่เกิดท้องเสียได้ง่าย ยกเว้นในกรณีที่คุณแม่ให้ลูกน้อยกินนมผสมหรืออาหารเสริมในช่วง 4-5 เดือน ก็จำเป็นต้องเช็ดช่องปากเพื่อทำความสะอาดค่ะ
วิธีการทำความสะอาดช่องปากลูกน้อยคือ ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสุกเช็ดในช่องปาก ที่บริเวณสันเหงือก เพดาน กระพุ้งแก้ม และลิ้น วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ช่องปากสะอาด ยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้แก่ลูกน้อยด้วยค่ะ
ฟันจะตามมาเมื่อไร?
ปกติแล้วเด็กไทยจะเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นมา 1-2 ซี่ โดยเฉลี่ยอายุประมาณ 7 เดือน ซึ่งช้ากว่าเด็กผรั่ง ฟันน้ำนมแต่ละซี่ของเด็กแต่ละคนจะขึ้นต่างกัน อย่างไรก็ตามเด็กเกือบทุกคนฟันซี่แรกที่ขึ้นจะเป็นฟันล่างซี่กลาง จากนั้นฟันน้ำนมจะทยอยขึ้นจนครบเมื่ออายุประมาณ 2.5-3 ปี รวมแล้ว เจ้าตัวน้อยจะมีฟัน 20 ซี่ เป็นฟันบน 10 ซี่ ฟันล่าง 10 ซี่
พัฒนาการของฟันน้ำนม
| อายุลูกน้อย | ฟันน้ำนม |
| 6-10 เดือน 8-12 เดือน 1 ปี |
ฟันล่างซี่กลางหน้า
ฟันบนซี่กลางหน้า
ฟันหน้าทั้งหมด 4 ซี่/ฟันกรามซี่แรก |
เมื่อฟันซี่แรกของลูกน้อยขึ้นพ้นเหงือก ลูกจะรู้สึกเจ็บปวดและมีอาการต่างๆ เกิดขึ้น คือ น้ำลายไหลมากกว่าปกติ หงุดหงิด นอนหลับยาก กินอาหารได้น้อยลง และมักจะกัดสิ่งของต่างๆ
วิธีง่ายๆ ที่คุณแม่จะบรรเทาอาการเจ็บของลูก คือ การใช้นิ้วมือคุณแม่ที่สะอาดหรือผ้าชุบน้ำเย็นนวดถูเบาๆ ในบริเวณเหงือกของลูก โดยเฉพาะที่ฟันซี่แรกกำลังจะขึ้น หรือหายางนิ่มๆ สำหรับเด็กให้ลูกกัดเล่น เลือกที่ไร้สี ปอดภัยจากสารปรอทและสามารถล้างทำความสะอาดได้บ่อยๆ การกัดจะมีแรงกดที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บเหงือก และยังมีส่วนช่วยให้เหงือกที่ปกคลุมฟันอยู่เปิดออกได้เร็ว นอกจากนี้แล้วการกอดเพื่อให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกันค่ะ
ฟันน้ำนมเป็นยังไงนะ ?
ฟันน้ำนมของเด็กทารกนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าฟันแท้ค่ะ เมื่อขึ้นมาแล้วจะไม่มีการขยายขนาดอีก ฟันน้ำนมนั้นมีสีที่ดูขาวกว่าฟันแท้ คือมีสีขาวเหมือนสีน้ำนมซึ่งต่างจากฟันแท้ที่สีขาวออกเหลืองเล็กน้อย
หลังจากฟันน้ำนมขึ้นครบ เมื่อเด็กอายุเพิ่มขึ้น ฟันน้ำนมซี่หน้าที่เคยชิด ก็จะห่างออกจากกัน เห็นได้ชัดเมื่อลูกอายุ 5 ปี ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะขากรรไกรมีการเติบโตขยายตัวเพื่อเตรียมรับการขึ้นของฟันแท้ซึ่งจะมีซี่โตกว่าฟันน้ำนมถึงเท่าตัวในช่วงเวลาที่ฟันแท้กำลังจะขึ้น ตามธรรมชาติรากฟันน้ำนมจะละลายตัว ฟันน้ำนมก็จะโยก และหลุดไปได้เองเป็นส่วนใหญ่ ฟันน้ำนมที่ขึ้นก่อนก็จะหลุดก่อน นั่นคือ ฟันซี่หน้าล่างจะหลุดเป็นคู่แรกและมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว รากฟันน้ำนมจะละลายตัวอย่างสมบูรณ์ เมื่อฟันแท้พร้อมที่จะขึ้นมาค่ะ
ฟันน้ำนมจะมีรูปร่างที่ต่างกัน เพราะธรรมชาตอสร้างสรรค์ให้ฟันแต่ละซี่มีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันไป เพื่อการทำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมค่ะ เช่น
ฟันหน้า มีลักษณะแบนและบาง เหมาะที่จะใช้ในการตัดหรือกัดอาหาร
ฟันเขี้ยว มีลักษณะปลายฟันคล้ายสามเหลี่ยมมีขนาดใหญ่และแข็งแรงกว่าฟันหน้า เหมาะที่จะใช้ฉีกอาหารแข็งและเหนียว
ฟันกราม จะมีหน้าตัดที่กว้างกว่าฟันซี่อื่นๆ มากเพื่อทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด
คุณแม่ลองสังเกตดูนะค่ะว่า ตอนนี้เจ้าตัวน้อยอายุเท่าไรและมีฟันรูปร่างหน้าตาแบบไหนขึ้นบ้าง
ฟันน้ำนมนั้นสำคัญไฉน...
หลายคนมักเข้าใจว่าฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญจึงให้ความใส่ใจฟันน้ำนมไม่มากเท่าที่ควร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฟันน้ำนมมีความสำคัญสำหรับเจ้าตัวน้อยมากกว่าที่ทุกคนคิดค่ะ นั่นคือ
- ฟันช่วยบดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น
- ฟันช่วยให้ใบหน้าเด็กสดใส เพราะเมื่อฟันสวย ไม่ผุ เด็กจะกล้าพูดคุยหรือยิ้ม เพราะมีความมั่นใจในตนเอง
- สำคัญต่อการพูด เพราะฟันจะมีส่วนช่วยให้การออกเสียงของลูกน้อยชัดเจน
- รักษาพื้นที่ไว้ให้ฟันแท้ขึ้นได้ตรง เพราะฟันทุกซี่มีหน่อฟันแท้รอขึ้นอยู่ใต้ขากรรไกร หากฟันน้ำนมของลูกน้อยจากไปก่อนเวลาอันควร จะมีผลให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาก่อนเกและไม่สวยได้ค่ะ
...เมื่อฟันน้ำนมสำคัญมากขนาดนี้ เราจะมีวิธีดูแลฟันน้ำนมอย่างไรดี คำตอบคือ การแปรงฟันค่ะ เพราะการแปรงฟันเป็นวิธีดูแลฟันที่ดีที่สุด เมื่อฟันซี่แรกขึ้น คุณแม่ก็สามารถชวนลูกแปรงฟันได้ทันที เพื่อให้ลูกรู้สึกคุ้นเคยจนกลายเป็นนิสัยและทำเป็นกิจวัตรประจำวันค่ะ
ฟันของลูกน้อยเป็นสิ่งพิเศษ ที่นำมาซึ่งรอยยิ้มอันสดใส สวยงาม และสุขภาพที่ดี การเฝ้าดูแลพัฒนาการของฟันลูก จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างความสุขใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้มากมายค่ะ
(update 15 มิถุนายน 2009)
[ ที่มา..
นิตยสารรักลูก ปีที่ 26 ฉบับที่ 309 ตุลาคม 2551 ]
|