มีคำถามที่น่าสนใจอยู่ว่าเรื่องของการร่วมรักที่เรานิยมเรียกกันสั้นๆ ว่าเซ็กส์นั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับดนตรีหรือไม่และอย่างไร ดนตรีแบบไหนที่เร้าใจ แล้วแบบไหนที่ให้อารมณ์วาบหวามหรือเกิดความรู้สึกรัญจวนใจจนอยากมีบทพิศวาสที่แสนโรแมนติก บางคนอาจชอบเพลงทำนองฮาร์ดร็อคหรือแร๊พ เพราะชอบเซ็กส์ดุเดือดเร้าใจ ขณะบางคนชอบเซ็กส์แบบไม่มีอะไรรบกวน แบบไหนก็ไม่ว่ากันครับ...
อย่างไรก็ตาม จากผลงานวิจัยและการสำรวจโดยรวมพบว่าคู่รักประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ชอบบรรเลงบทเพลงแห่งความพิศวาสท่ามกลางความเงียบ และสอบถามคนกลุ่มนี้จะได้รายละเอียดว่า
เซ็กส์ท่ามกลางความเงียบโดยมีแต่เราสองคนนั้นมันเป็นความเงียบที่แฝงไว้ด้วยความเร้าใจและจินตนาการโดยไม่มีอะไรรบกวนสมาธิในการร่วมรักของเรา ซึ่งในความเงียบที่ไม่มีอะไรรบกวนทำให้เราสองคนเข้าใจกัน และร่วมมือกันในการที่จะไปสู่จุดสุดยอดด้วยความสุขสม
ที่จริงแล้วเสียงของการร่วมรักไม่ว่าจะเป็นเสียงครางเบาๆ อย่างที่ความสุข ไปจนถึงเสียงหอบเหนื่อยหรือเสียงกรีดร้องเมื่อในเวลาปลดปล่อยนั้น เป็นเสียงเพลงที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดแล้ว และเสียงที่เกิดจาการร่วมรักตามธรรมชาติ เป็นเสียงเพลงแห่งความรักของเราสองคนที่ร่วมกันบรรเลงในความเงียบสงบของบรรยากาศเสียงจากธรรมชาติที่อยู่ล้อมรอบตัวเช่นในเวลาที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรหรือรีสอร์ทชายทะเล ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งร่วมกับเสียงหวีดหวิวของลมทะเลที่พัดจนกิ่งไม้ ใบไม้ไหวนั้น เป็นเสียงที่ดีกว่าเสียงเพลงทุกชนิดในโลกนี้
นั่นเป็นคำอธิบายของคู่ร่วมรักจาก 1 ใน 4 ที่นียมร่วมรักหรือมีเซ็กส์ท่ามกลางธรรมชาติครับ
ส่วนอีก 3 ใน 4 นั้นยังคงชอบการปรุงแต่งของบรรยากาศจากเสียงเพลงขนิดต่างๆ และเป็นที่ทราบกันดีว่าสิ่งเร้าอารมณ์ทางเพศนั้นมีทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และ สัมผัส
ซึ่งเมื่อนำมากระทบต่อตัวรับในร่างกายแล้ว ก็จะสามารถกระตุ้นการตอบสนองเพื่อให้ความสุขสมและประทับใจจนยากที่จะลืม
สมองคนเรานั้นมี 2 ซีก ซีกซ้ายเกี่ยวข้องกับภาษารักที่จะสื่อสารถึงกันผ่านทางคำพูด ส่วนสมองซีกขวาจะเป็นสมองที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและจินตนาการ เสียงดนตรีให้ทั้งความรู้สึกและจินตนาการร่วมกัน จึงมีส่วนช่วยในการสร้างบรรยากาศของการร่วมรักได้เพิ่มขึ้นและได้รับการยืนยันจากผลการสำรวจว่า 3 ใน 4 เห็นว่ามีผลจริงในการกระตุ้นเร้าอารมณ์รักและนำไปสู่การร่วมรักที่สุขสม
แต่ดนตรีแบบไหน ที่ให้ผลมากที่สุดในการสร้างบรรยากาศในการร่วมรัก???
ขอบอกว่า ผลงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่สามารถที่จะลงความเห็นได้อย่างถ่องแท้ครับ ว่าเป็นเพลงป๊อบฟังสบายๆ เพลงคลาสสิคที่ให้อารมณ์สุนทรีย์ เพลงจังหวะมันประเภทฮาร์ดร็อคหรือแร๊พ เพราะฉะนั้น คำตอบสุดท้ายสำหรับดนตรีกับการสร้างบรรยากาศของการร่วมรักนั้นก็คือ... เป็นความชอบเฉพาะตัวบุคคล แล้วแต่อารมณ์อันสุนทรีย์ที่ไม่เหมือนกันยังไงละครับ แต่ทั้งสองคนที่ร่วมรักกันนั้น จะต้องมีรสนิยมที่ใกล้เคียงกันหรือคล้ายๆ กัน จึงจะทำให้ดนตรีมีผลเพื่มความหฤหรรษ์ในการร่วมรัก แต่ถ้าความชอบเสียงดนตรีเป็นคนละแนวกันละก็ การร่วมรักด้วยการบรรเลงเสียงเพลงพิศวาสของตนเองจะดีกว่ามากครับ
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่า คนที่ชอบเพลงประเภทฮาร์ดร็อคและแร๊พ หรือดนตรีบรรเลงในท่วงทำนองหนักๆ นั้น
จะมีจำนวนของการร่วมรักมากกว่าคนที่ชอบฟังเพลงป๊อบถึง 34 เปอร์เซนต์ เลยทีเดียว ในจำนวนคนที่ชอบฟังเพลงป๊อบนั้น 1 ใน 10 บอกว่าชอบเพลงประเภท Teen pop เพราะว่าทำให้รำลึกถึงความหลังสมัยที่กำลังเรียนอยู่ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดและเป็นช่วงเวลาที่กำลังมีความรักเข้ามาในชีวิตครับ
1 ใน 5 หรือ 20 เปอร์เซนต์ ให้ความเห็นว่า การร่วมรักท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงนั้น ควรจะเป็นเสียงเพลงที่ไม่ดังจนเกินไป จนไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคู่รักด้วยคำพูดในระหว่างปฏิบัติการณ์อันสุนทรีย์ และการเพิ่มบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมไม่ว่าจะเป็นการจุดเทียนหอม หรือการใช้น้ำมันหอมระเหยนวดตัวให้กันและกัน ท่ามกลางเสียงเพลงและไฟที่สลัวๆ นั้น ให้อารมณ์เป็นอย่างมากในการร่วมรักที่เนิ่นนานอย่างมีความสุข คนในกลุ่มนี้บอกว่า การผ่อนคลายทั้งก่อนและหลังการร่วมรักด้วยเสียงเพลง การนวดสัมผัส พร้อมกับกลิ่นหอม ทำให้บรรยากาศของการร่วมรักเป็นไปตามท่วงทำนองของธรรมชาติที่ไม่เร่งรีบ และ 8 ใน 10 บอกเอาไว้ว่า รสนิยมแบบนี้เป็นรสนิยมเฉพาะบุคคล ซึ่งยากที่จะปรับเปลี่ยนได้ง่ายๆ ครับ
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีแนะนำว่า ถ้าตอนนั้นมีอารมณ์เครียดจากงานหรือเป็นการร่วมรักครั้งแรกๆ และกลัวว่าจะปฏิบัติได้ไม่ถูกใจคนรัก
ควรเลือกเพลงที่ฟังแล้วสบายๆ แต่ให้บรรยากาศที่โรแมนติกหรือเลือกเพลงที่เคยประทับใจร่วมกัน
หากอ่อนเพลียจากการงานควรเลือกเพลงที่ปลุกเร้าอารมณ์ให้คึกคักมากขึ้น อย่าเลือกเพลงที่ทำให้เกิดความเศร้า
หรือเพลงประกอบภาพยนตร์แบบรักต้องพรากเป็นอันขาด เพราะจะทำให้หมดอารมณ์ได้
และไม่ว่าคุณจะเคยลองหรือไม่ การลองเพื่มเสียงเพลงในบรรยากาศรักของคุณก็เป็นการเพิ่มสีสันแห่งความรักได้อย่างไม่รู้ตัว..รู้อย่างนี้แล้วคุณจะไม่ลองดูหรือครับ
ลองชวนกันไปเลือกเพลงบรรเลงที่มีเสียงชายหญิงกระซิบบอกรักกัน มาเปิดฟังดูในขณะที่มีเซ็กส์แล้วจะรู้ว่าบรรยากาศดีขึ้นไม่มากก็น้อย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้เพลงเพิ่มบรรยากาศรัก จากนั้นถ้าจะใช้เพลงที่ชื่นชอบร่วมในการท่วงทำนองที่ทำให้รำลึกถึงความรัก หรือเพลงที่มีบรรยากาศอีโรติกก็ย่อมได้และสำหรับคนที่ชอบความดุดัน เสียงดนตรีประเภทแจ๊สน่าจะเป็นเพลงที่เริ่มต้นมากว่าฮาร์ดร็อคหรือแร๊พที่เหมาะกับหมู่คนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นครับ
ไม่ว่าอย่างไรขอให้คุณมีเสียงดนตรีในหัวใจไว้เท่านั้น ความรักที่มีอยู่ร่วมกันก็จะเพริศแพร้วดังที่คุณหวัง และเชื่อไหมว่าเสียงเพลงที่เพราะที่สุดที่ทำให้ความรักของคนสองคนยืนยาวก็คือ มธุรสวาจาที่เป็นการใช้คำพูดที่ไพเราะ สุภาพ น่ารัก เป็นวาจาที่ให้คนพูดมีเสน่ห์และทำให้คู่รักมีความสุข เป็นการสื่อสารให้กันในทางบวกและการสื่อสารในทางบวกจะได้รับการตอบสนองในทางบวกเสมอไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองในเรื่องใดครับ
สรุปง่ายๆ ก็คือ มธุรสวาจา น่าฟังและไพเราะกว่าเสียงเพลงใดๆ ในโลกนั่นเอง
(update 11 ธันวาคม 2009)
[ ที่มา..
นิตยสารรักลูก ปีที่ 26 ฉบับที่ 311 ธันวาคม 2551 ]
|