มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ i.am/thaidoc หรือ hey.to/yimyam

[ คัดลอก จากเนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่8 ฉบับที่ 382 วันที่ 30 กันยายน- 6 ตุลาคม 2542
อ่านต้นฉบับได้ที่นี่ http://207.153.208.57/weekend/1001/wei01.html ]

โด๊ปนักกีฬาด้วยอาหาร

ด ร. วิ นั ย ด ะ ห์ ลั น


รู้ๆ กันอยู่ว่านักกีฬาเขามีข้อห้ามเรื่องการใช้สารกระตุ้น เพราะการทำอย่างนั้นถือเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง ไม่มีความเป็นนักกีฬา ว่างั้นเถอะ หากถูกจับได้ อาจจะถูกห้ามแข่งขันเสียชื่อเสียเสียงอีกต่างหาก ใครคิดจะโด๊ป หากโด๊ปด้วยอาหารละก็ไม่เป็นไร เพราะอาหารไม่ใช่ยา ปัญหาก็คือ การโด๊ปด้วยอาหารนั้น แม้จะถูกกฎหมาย แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

นักกีฬาชั้นนำประเภทที่ต้อง แข่งขันบ่อยๆ ใช้พละกำลังมากๆ จำเป็นจะต้องหานักโภชนาการประจำตัวไว้เหมือนกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ มาติน่า นาฟราติโลว่า นักเทนนิสหญิงรุ่นลายคราม หรืออย่าง จิมมี่ คอนเนอร์ นักเทนนิสชาย รุ่นก่อนหน้ามาติน่า เรียกว่าลายครามมากกว่า

ทั้งสองคนนี้คว้าแชมป์แกรนด์ สแลมคนละหลายรายการ อยู่ในตำแหน่งมือ 1 ของโลกนานกันคนละหลายๆ ปี เป็นที่รู้กันดีว่านักเทนนิสทั้งสองคนนี้มีนักโภชนาการประจำตัว ประเภทไปไหนไปด้วย ตามกันติดไม่ยอมห่าง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะทั้งสองคนรู้ดีว่าเคล็ดลับของความสำเร็จมันไม่ใช่แค่ฝีมือเพียงอย่างเดียว แต่ต้องขึ้นอยู่กับพละกำลังที่สะสมไว้ด้วย และเคล็ดลับของเคล็ดลับในเรื่องนี้ก็คือ เรื่องการโด๊ปโดยการใช้อาหารนี่แหละ ไม่ใช่เรื่องอื่น

วันก่อนผู้เขียนมีโอกาสได้เจอกับคุณวิจิตร เกตุแก้ว กับคุณวรวีร์ มะกูดี สองคีย์แมนคนสำคัญของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยบังเอิญ เมื่อได้เจอกันก็ต้องคุยกันหน่อยตามประสาที่ต่างฝ่ายต่างรู้จักชื่อกันแต่ไม่เคยรู้จักตัวกัน มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เราคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว คือเรื่องโภชนาการในนักกีฬา ผู้เขียนดีใจครับที่ทั้งสองท่านให้ความสนใจกับเรื่องโภชนาการค่อนข้างมาก เมื่อครั้งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว ผู้เขียนเข้าไปช่วยงานฝ่ายโภชนาการ การบินไทย ดูแลเรื่องอาหารการกินของนักกีฬา ได้เจอะเจอนักโภชนาการประจำสมาคมกีฬาบางชาติ แปลกใจอยู่สักหน่อยที่สมาคมกีฬาของประเทศไทยไม่มีนักโภชนาการประจำสมาคมของตนเองเลย กีฬาของเราเป็นประเภทสมัครเล่นอยู่แล้ว แต่ต้องไปแข่งกับชาวบ้านที่เขาแทบจะเป็นมืออาชีพ ซ้ำร้ายที่เรายังใช้นักโภชนาการมือสมัครเล่น นั่นคือ ใช้โค้ชนี่แหละครับเข้าไปดูแลเรื่องอาหารการกินของนักกีฬา ดังนั้น เมื่อไปเจอนักกีฬาอาชีพ บวกกับนักโภชนาการมืออาชีพของต่างชาติ เกมการแข่งขันก็กลับกลายเป็นมวยวัดไปชกกับมวยอาชีพ เมื่อเป็นอย่างนี้มันจะไปเหลืออะไรเล่าครับฟุตบอลไทยไปแข่งขันต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราต้องไปแข่งขันกับทีมฟุตบอลอาชีพอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือแม้กระทั่งจีน ที่นักกีฬาของเขาได้เปรียบเราอยู่แล้ว ทั้งเรื่องฝีเท้าและโครงสร้างของร่างกาย เมื่อต้องมาเจอการบำรุงร่างกายด้วยโปรแกรมอาหารอย่างมืออาชีพของนักกีฬาเหล่านั้นเข้าด้วย ถึงแม้นักฟุตบอลไทยจะใจสู้เต็มร้อย แต่ใจสู้ชูสองนิ้วบวกพลังปลาทูเค็มของนักกีฬาของเราสู้ไปได้สักพักก็หมดแรงข้าวต้ม

เมื่อครั้งที่ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไปคัดตัวอยู่กับทีมมิดเดิลสโบร์ ใน อังกฤษ ซิโก้เปรยๆ ว่านักกีฬาที่นั่นฝึกหนัก แต่มื้ออาหารกลับกินอาหารที่มีแต่แป้ง ผู้เขียนอ่านข่าวแล้วก็แปลกใจ ไม่รู้ว่านักกีฬาเมืองไทยที่บางครั้งทุ่มเทงบประมาณไปกับเรื่องอาหาร ปรนเปรอนักกีฬาด้วยอาหารดีๆ น่าจะเป็นไปได้ว่านักกีฬาเจอแต่อาหารดีประเภทโปรตีนหนักก็ได้เพราะเรามักจะเข้าใจกันเอาเองว่าอาหารโปรตีนคืออาหารดี เป็นอาหารมีคุณภาพ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด

ผู้เขียนยังจำได้ว่านักวิจารณ์กีฬาของเราบางคนค่อนแคะว่าทีมมิดเดิลสโบร์อาจจะประสบปัญหาทางการเงิน ไม่อย่างนั้นแล้วคงจะโด๊ปอาหารดีๆ ให้กับนักฟุตบอลของตนเอง ได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็พอจะนึกออกว่าเราอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องโภชนาการในนักกีฬามาเนิ่นนานหลายปีแล้วกีฬาหลายต่อหลายประเภท อย่างเช่นฟุตบอล เทนนิส ตะกร้อ ว่ายน้ำหลายประเภทไปจนวิ่งปั่นระดับระยะทางตั้งแต่ 100-800 เมตร เหล่านี้เป็นการใช้พละกำลังประเภทที่เรียกกันว่า แอนแอโรบิก หรือการออกกำลังที่กล้ามเนื้อไม่ได้ใช้

ออกซิเจนหรือใช้แต่น้อยเป็นหลัก กล้ามเนื้อจะใช้พลังงานจากสารอาหาร 3 กลุ่มเป็นหลักครับ คือ ครีเอทีนฟอสเฟต น้ำตาลกลูโคส และ ไกลโคเจนสารอาหารทั้งสามกลุ่มนี้ ร่างกายสะสมไว้ในกล้ามเนื้อทั้งสิ้น มีอีกบางส่วนสะสมไว้ในตับ ลองดูเถอะครับจะเห็นว่าสารอาหารเป็นสารอาหารประเภทน้ำตาลหรือประเภทแป้ง วิธีการที่ถูกต้องในการโด๊ปนักกีฬากลุ่มนี้ คือต้องทำให้เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ตับสะสมสารอาหารทั้งสามกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด การเสริมด้วยอาหารโปรตีน หรือไขมัน มันก็เหมือนเอาน้ำมันเกรดดีๆ ราคาแพงๆ ไปเติมเครื่องบินที่ต้องการใช้แค่น้ำมันเกรดถูกๆ ส่วนน้ำมันเกรดแพงๆ ถึงเติมเข้าไปมันก็เอาไปใช้ไม่ได้ ฉันใดฉันนั้น การโด๊ป นักกีฬาที่ต้องการพลังงานจากแป้ง แต่กลับไปเสริมอาหารโปรตีน นอกจากจะไม่ได้ผลสำเร็จตามที่ต้องการแล้ว ยังเท่ากับการใช้เงินผิดประเภท เงินที่โด๊ปนักกีฬาด้วยอาหารจ่ายกันแพงๆ กลับกลายเป็นปัสสาวะให้นักกีฬาขับถ่ายออกมาแทบหมด

ผู้เขียนไม่ได้หยาบคายนะครับ แต่การโด๊ปด้วยอาหารโปรตีนสูงในขณะที่ร่างกายไม่ได้ต้องการโปรตีน จะมีผลทำให้ร่างกายสลายโปรตีนออกไปเป็นกรดยูริก และยูเรีย ถูกถ่ายออกมากับปัสสาวะ นอกจากจะได้ปัสสาวะราคาแพงแล้ว ยังสร้างปัญหาให้กับระบบขับถ่ายตามมาอีก

ช่วงของการซ้อม ตลอดจนช่วงการฝึกเก็บตัวนักกีฬา สมาคมกีฬาในต่างประเทศจึงเน้นไปในเรื่องของการให้อาหารแป้งเป็นหลัก เป็นแป้งที่ย่อยง่าย นั่นเป็นประการที่หนึ่ง ส่วนอีกประการหนึ่งคือ ช่วงเวลาของการให้อาหาร สภาพของอาหารว่าเป็นของแข็งหรือของเหลว จะให้เป็นโจ๊กหรือเป็นแค่น้ำซุป ในระหว่างการแข่งขันหากต้องแข่งกันยืดเยื้อควรจะโด๊ปอาหารกันอย่างไร หากเป็นการแข่งประเภททัวร์นาเม้นต์ ต้องเจอสภาพการแข่งขันแบบต่อเวลาพิเศษจะให้นักกีฬาทำอย่างไร จะต้องโด๊ปกันแบบไหน หากจะต้องใช้วิธีที่เรียกว่า Carbo Loading จะต้องทำอย่างไรทั้งหมดนี้เป็นโภชนาการแนวใหม่ทั้งสิ้นครับ และสมาคมกีฬาต่างประเทศก็รู้กันเป็นอย่างดี ส่วนสมาคมกีฬาไทยมีบ้างที่บางสมาคมอาจจะทราบเรื่อง แต่เท่าที่ทราบคือเรายังไม่เคยให้นักโภชนาการมานั่งจับเข่าคุยกันเลย ทางสมาคมแต่ละสมาคมเองก็แทบจะไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ชัดเจน

ฉบับหน้าผู้เขียนจะมาบอกครับว่าหากจะแข่งขันกันเป็นทัวร์นาเมนต์ จะต้องโด๊ปนักกีฬากันอย่างไร โด๊ปด้วยโภชนาการเท่านั้นนะครับ ซึ่งไม่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว

ด ร. วิ นั ย ด ะ ห์ ลั น
dwinai @ hotmail.com


ขอบคุณหนังสือพิมพ์เนชั่นสุดสัปดาห์ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600